fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#STAY — Sook Station : โฮสเทลคุก ปลุกจิตวิญญาณการนอนในพื้นที่จำกัด
date : 9.มกราคม.2018 tag :

ใครที่เคยอ่านคอลัมน์ #DESIGN ของ Dooddot คงจะคุ้นกับ การรีโนเวทคุกเก่าให้กลายเป็นโรงแรมหรูที่เนเธอร์แลนด์ กันมาแล้ว ซึ่งหลังจากเห็นแบบนี้ ก็เชื่อว่าหลายคนคงเกิดคำถามอยู่เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ประเทศไทยจะมีที่พักสไตล์แบบนี้บ้าง

ล่าสุดคนไทยก็ได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศที่พักเสมือนอยู่ในคุกแล้วนะ! ถึงแม้จะไม่ได้มาจากคุกจริงๆ เหมือนที่เนเธอร์แลนด์ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เพียงแค่เข้าไปเดินสำรวจไม่กี่นาที ก็รู้สึกเหมือนเรากำลังเดินเข้าไปเยี่ยมนักโทษยังไงยังงั้นเลย นี่ยังไม่นับความรู้สึกช่วงเวลานอนในห้องนะ เราเลยคิดว่า ถ้าใจไม่ถึง คงจะมีคนร้องขอกลับบ้านแน่ๆ

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความเงียบและแสงไฟสลับกับความมืดตามซอกหลืบของห้อง จึงยิ่งทำให้เราจินตนาการไปไกลมาก แต่แล้วความคิดก็หยุดลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่า ยังมีอีกหลายโซนหลายชั้นที่ยังเดินไม่ทั่วถึง จริงๆ แล้วถ้าจะให้อธิบายภาพรวมทั้งหมดของ Sook Station แห่งนี้ ก็จะแบ่งออกเป็น 5 ชั้น โดยมีคาเฟ่อยู่ชั้นล่างสุด ตัวห้องพักอยู่ชั้น 2 มีออฟฟิศให้เช่าอยู่ชั้น 3 เป็น co-working space และดาดฟ้าอยู่ชั้นบนสุด

พอเราเดินตาม คุณเล็ก – สิทธิชัย ชัยวรพฤกษ์ เจ้าของ Sook Station ที่รอต้อนรับอย่างเป็นมิตร ไปเรื่อยๆ จนมาถึงชั้น co-working space ซึ่งเป็นโซนที่เหมาะแก่การพูดคุย และแน่นอนว่าบรรยากาศช่างแตกต่างจากห้องพักชั้น 2 อย่างสิ้นเชิง

ก่อนมาเป็น Sook Station
“ผมเริ่มธุรกิจนี้จากการขายตึกเดิม ที่เคยทำเกี่ยวกับการพิมพ์ ปริ้นท์งาน และเปิดคาเฟ่อยู่แล้ว มาซื้อตึกใหม่ในซอยนี้ ซึ่งอยู่ใกล้ถนนใหญ่ มีที่จอดรถหน้าร้าน ที่สำคัญใกล้รถไฟฟ้ามาก มีพื้นที่มากขึ้น และราคาถูกลงจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ตรงนี้ เนื่องจากสิ่งสำคัญคือที่จอดรถ หากอยู่ริมถนนเลยก็ไม่ดี เพราะไม่มีที่จอด ดังนั้นจึงนำอุปกรณ์ทุกอย่างที่มีอยู่มาทำในตึกนี้

พอได้ตึกนี้ก็มานั่งคิดแล้วว่า จากธุรกิจเดิมที่จะทำชั้นล่างสุด แล้วชั้นที่เหลือจะทำอะไร ความท้าทายจึงเริ่มต้นขึ้น เมื่อใจบอกว่าอยากทำธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก หรือโฮสเทล แต่เราไม่เคยทำธุรกิจประเภทนี้มาก่อน จึงค่อยๆ เรียนรู้และสนุกไปกับมันด้วย”

โจทย์ที่ต้องเป็นธีม ‘คุก’
หลังจากตัดสินใจเลือกทำโฮสเทล โจทย์ต่อมาคือ จะทำอย่างไรให้สามารถรองรับบริการได้ดีเต็มประสิทธิภาพ คุณเล็กจึงเริ่มที่ชั้น 2 เพียงชั้นเดียว ซึ่งคำถามไม่จบแค่นั้น เมื่อพื้นที่เดิมของชั้นนี้มี 3 ห้องแต่ต้องออกแบบยังไงให้บริหารออกมาแล้วคุ้มทุน เราจึงเห็นชั้นนี้มีห้องพักทั้งหมด 9 ห้อง

ส่วนธีม ‘คุก’ ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง ‘The Shawshank Redemption’ คุณเล็กหยิบยกฉากที่นักโทษยืนอยู่หน้าคุกมาใช้ สังเกตได้จากที่เหมือนกับในหนังเลย และถึงแม้ห้องจะไม่กว้างมาก แต่ผู้ที่มาเข้าพักจะไม่ได้รู้สึกว่าแคบ เนื่องจากส่วนใหญ่จะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองตั้งใจมานอนคุก ที่นี่ก็จำลองได้อย่างเกือบเหมือน เช่น ไม่มีโทรทัศน์ แต่มี wifi เป็นต้น

เปิดทุกซอกทุกมุมของ Sook Station
“Sook Station มาจาก Udom Suk Station เราตัดคำว่า ‘อุดม’ ออก และความหมายที่คนส่วนใหญ่แปลก็คือ สถานีแห่งความสุข แต่เราไม่เอาแบบนั้น เราใช้คำว่า ‘สุขสถานี’ ถ้าแปลยาวๆ ก็คือสถานีแห่งความสุข และคำว่าสถานีก็ไปคล้องกับสถานีตำรวจที่มีห้องขังด้วย จึงดีความหมายได้หลายอย่าง”

ชั้น 2 – Hostel
อย่างที่บอกว่าต้องออกแบบห้องพักจำนวน 9 ห้อง จึงแบ่งห้องใหญ่ (Family) ออกเป็น 2 ห้อง มีชื่อว่า ‘บางขวาง’ กับ ‘คลองเปรม’ และห้องประตูทึบเรียกว่า ‘คุกมืด’ ที่เหลือไม่มีชื่อเพื่อให้ง่ายต่อการจำ

ส่วนลักษณะการออกแบบแต่ละห้องก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานพื้นที่ เช่น การออกแบบห้องมืด (ใช้ประตูทึบสไลด์) ให้อยู่ตรงกับกำแพงอิฐ เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้มาเข้าพัก เวลาคนเดินผ่านก็จะไม่รู้สึกว่าถูกรบกวน และถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่ไม่มีใครเหมือน

อีกทั้งยังมีเรื่องการใช้ไฟ พร้อมเพิ่มลูกเล่นที่ใส่ใจในรายละเอียดมากๆ ทั้งการเลือกใช้สีสร้างความเหมือน กับการสร้างกลิ่นอายความเก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็นพัดลมเพดานที่เปิดแล้วมีเสียง สวิทช์ควบคุมความเร็วกับประตูที่ขึ้นสนิม ด้วยวิธีซื้อของใหม่มาปล่อยในขึ้นสนิมแล้วเคลือบคงสภาพสนิมแบบที่ต้องการไว้

ชั้น 4 และชั้นดาดฟ้า – Co-Working Space & Rooftop
นอกจากนี้ ส่วนอื่นๆ ยังมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้งห้องน้ำที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นห้องน้ำเดี่ยวก็ได้หรือห้องน้ำรวมก็ได้ เพียงแค่เลื่อนประตูบานพับ และเมื่อขึ้นไปชั้นบนก็จะเป็น co-working space ที่แต่ละห้องตกแต่งไม่เหมือนกัน เช่น ห้องจักรยาน (มีจักรยานแขวน) ห้องแมงมุมขาว แมงมุมดำ เพราะมีสายไฟห้อยระโยงระยาง

แถมคุณเล็กยังแอบกระซิบมาว่าที่ทำ co-working space เนื่องจากลงทุนไม่เยอะ อาศัยเลือกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอย่างมีสไตล์ และห้องที่เราคุยกันยังได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง The Intern ซึ่งจะเห็นว่ามีจักรยานแขวนและตกแต่งห้องด้วยกระจกใสตัดขอบสีดำนั่นเอง ส่วนชั้นดาดฟ้าก็เป็นพื้นที่โล่งกว้างสามารถจัดปาร์ตี้ได้

ความท้าทายของธุรกิจที่ไม่เคยทำมาก่อน
“โรงแรมเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรู้หลายด้าน ยากกว่า co-working space แล้วก็ปัญหาเยอะกว่า แต่ว่าหลายๆ คนก็อยากทำโรงแรม โฮสเทล หรือร้านกาแฟ เพราะความชอบและดูมีสไตล์ แต่พอมาทำจริงแล้ว ก็รู้สึกสนุกกับมันนะ อาจเป็นเพราะ 9 ห้อง ก็เลยคิดว่ายังสนุกอยู่

อีกอย่างคือ เราพยายามจัดการอะไรที่คิดว่าเป็นปัญหาก็ตัดออก เช่น ห้องรวมที่เป็นลักษณะเป็น dorm (dormitory) เป็นแบบหอพักที่มีเตียงประมาณ 10 เตียงใน 1 ห้อง แบบนี้ก็ตัดออก จะได้ไม่มีเรื่องลักเล็กขโมยน้อย เรื่องแยกเพศ ซึ่งข้อดีคือเราสร้างความเป็นส่วนตัวให้ผู้เข้ามาพักได้มากที่สุด แล้วทุกคนก็สบายใจกับการรักษาความปลอดภัยของเรา”

—————

ทำการตลาดในแบบ Sook Station
คุณเล็กบอกกับเราว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่พอมีโฮสเทลเกิดขึ้นเยอะ ก็มีคนทำตามเยอะ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่การทำสงครามเรื่องราคา อย่างช่วง low season บางที่จะมีการลดราคาที่พัก แต่คุณเล็กมองว่า นี่อาจส่งผลกระทบตามมาหลังจากหมดช่วง low season เพราะจะขึ้นราคาได้ยากหรืออาจขึ้นไม่ได้เลย เนื่องจากลูกค้าจะติดกับราคาที่ลดลง ซึ่งเป็นไปได้เหมือนกันว่า เมื่อกลับมาขึ้นราคา อาจทำให้ลูกค้าจะไปพักที่อื่น และเมื่อราคาคงเดิมก็ต้องเพิ่มจุดเด่นด้านการบริการและรสชาติอาหาร

เป็นที่ยอมรับจากคนทั่วทุกมุมโลก
“ตั้งแต่ทำตอนแรกก็ไม่รู้ว่าคนจะชอบไหม แต่เราชอบ” (ยิ้มอย่างมีความสุข) “มีคนทักเยอะเหมือนกันว่าจะมีคนมาพักหรอ”

พอได้ยินแบบนั้น ความรู้สึกเป็นอย่างไร
“เราก็เชื่อเขานะ ว่าอาจจะมีสัก 99% ที่ไม่ชอบ แต่เราคิดว่าน่าจะมีสัก 1% ที่ชอบเหมือนเรา เราขอแค่ 1% จากคนทั้งโลกเลย คิดว่าต้องมีคนชอบ”

ซึ่งหลังจากเรียนรู้กับการปรับตัวในช่วงแรกมาแล้ว ทำให้เริ่มหันมามองตลาดคนไทยและชาวเอเชีย อย่างจีน เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย มากขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้ Sook Station เป็นที่รู้จักมากมายเหมือนตอนนี้

ซึ่งคุณเล็กเล่าว่า เป็นความพีคและโชคดีที่มีฝรั่งคู่นึงเข้ามาพัก แล้วกลับไปเขียนรีวิวจนทำให้ตอนนี้ มีสำข่าวดังจากต่างประเทศให้ความสนใจมาทำข่าวและกระจายข้อมูลไปทั่วโลก รวมไปจนถึงพลังแห่งโซเชียลและการสื่อสารผ่านเหล่าบล็อกเกอร์ นักรีวิวต่างๆ ซึ่งต้องยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลกับกลุ่มการรับรู้ที่แตกต่างกันออกไป และคุณเล็กก็ทำให้เราเห็นแล้วว่า จากความชอบและหวังเพียงคนที่ชอบในสิ่งเดียวกัน แม้อาจจะดูน้อยนิดแต่กลับเป็นที่ต้องการของคนจากทั่วทุกมุมโลกได้

—————

Sook Station
ซอยสุขุมวิท 101/2 กรุงเทพฯ
facebook.com/sookstation

RECOMMENDED CONTENT

11.มีนาคม.2022

ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น (Ars Longa Vita Brevis) คือภาษิตของฮิปโปเครติส บิดาแห่งการแพทย์ในยุคกรีกโบราณ คนไทยคุ้นเคยวลีนี้จากคำสอนของ ศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทย ที่ซึ่งต่อมาลูกศิษย์ของท่านได้นำมาใช้เป็นคำขวัญของมหาวิทยาลัยศิลปากร วลีที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นสัจธรรมวลีนี้ยังผุดขึ้นมาในความคิดของ เข้-จุฬญานนท์ ศิริผล หลังจากที่เขามีโอกาสพูดคุยกับผู้ใช้เวสป้า และตระหนักถึงความผูกพันของผู้คนกับความหมายของสกู๊ตเตอร์ที่เป็นมากกว่าพาหนะ เข้จึงเลือกใช้มันมาเป็นชื่อภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่ของเขา - ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น