fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#TRAVEL — เส้นทางขับรถชมวิวระดับพรีเมี่ยม ที่คุณไม่มีทางพบเจอได้ที่ไหนอีกแล้วบนโลกใบนี้
date : 11.สิงหาคม.2017 tag :

เราเชื่อว่าสำหรับคนที่ชอบขับรถและรักความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ การได้ขับรถไปในเส้นทางที่รอบข้างคือวิวระดับพีคและพรีเมี่ยม ชนิดที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้ ก็ถือว่าเป็นการติ๊กถูกลงช่อง bucket list ของหลายๆ คน แน่นอนว่าบรรยากาศสองข้างทางที่บ้านเราให้ไม่ได้ ทำให้เหล่านักขับ ร่วมถึงนักขี่และนักปั่น หรือแม้แต่นักท่องเที่ยว ต่างก็อยากไปสัมผัสเส้นทางขับรถชมวิวเหล่านี้ด้วยตาของตนเอง

เราได้รวบรวมเส้นทางที่คัดสรรมาแล้วว่าพรีเมี่ยม ต้องไปลองหมุนพวงมาลัยขับไปในเส้นทางที่รายล้อมไปด้วยภูมิทัศน์แปลกตามาให้ได้ลิสต์กัน ไม่แน่ เผื่อว่าสักวันหนึ่ง คุณจะได้ไปเจอของจริง!

__________

Route 01 —
Hai Van Pass / Vietnam

เริ่มต้นด้วยเส้นทางขับรถชมวิวฝั่งเอเชียกันก่อน Hai Van Pass จัดว่าเป็นเส้นทางขับรถชมวิวช่วงที่สวยที่สุดเส้นทางหนึ่งของเวียดนาม ถนนคดเคี้ยวลัดเลาะไปตามภูเขานี้มีระยะทางราว 21 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเว้ (Hue) และดานัง (Da Nang) ของเวียดนามกลาง ความพิเศษของเส้นทางนี้คือประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาตั้งแต่ความสำคัญในฐานะของเส้นทางรวมชาติจากที่เวียดนามเคยถูกแบ่งเป็นเวียดนามเหนือและใต้ในยุคสงคราม หลักฐานยังมีมากมายให้เห็นอย่างจุดชมวิวที่มีป้อมปราการเก่าหลงเหลืออยู่

มากกว่านั้นคือวิวที่เราจะได้เห็นทะเลจีนใต้แบบเต็มๆ ตา แถมลมร้อนและลมมรสุมที่ปะทะกันในเขตนี้ยังทำให้การขับรถสนุกยิ่งขึ้นไปอีก เพราะต้องเจอกับภูมิอากาศแปลกประหลาดในวันเดียว เส้นทางสายนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็เพราะว่ารายการ Top Gear ของช่อง BBC อังกฤษ เคยมาถ่ายทำเส้นทางนี้ จนทำให้ใครต่อใครก็อยากมาลองขับขี่บนเส้นทางนี้กันสักครั้งหนึ่งนั่นเอง

__________

Route 02 —
Irohazaka Roads / Japan

แม้ว่าญี่ปุ่นจะดูเป็นประเทศเกาะเล็กๆ ที่ไม่น่าจะมีเส้นทางขับรถชมวิวมากนัก อย่างมากก็เส้นทางชมทะเลที่มักกลายเป็นฉากหนึ่งในหนังหรือซีรี่ส์ที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ แต่ธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ของประเทศญี่ปุ่นนั้น ก็ทำให้เราได้พบเจอกับเส้นทางขับรถที่น่ามาเยือนสักครั้งในชีวิต

เส้นทางสาย Irohazaka นี้ตั้งอยู่ในเขตภูมิภาค Okunikko โดย iroha หมายถึงสระสามตัวแรกในภาษาญี่ปุ่น ส่วน zaka แปลว่า เนิน ซึ่งเส้นทางนี้นับรวมโค้งได้ทั้งสิ้น 48 โค้ง ซึ่งตรงกับจำนวนสระทั้งหมดในภาษาญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันหลังจากมีการปรับปรุงเส้นทางให้ปลอดภัย และสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น จำนวนโค้งจึงลดลงเหลือเพียง 30 โค้ง

ความดีงามของถนนเส้นนี้ไม่ใช่โค้งจำนวนมากที่เหมาะสำหรับสายเข้าโค้ง แต่ขึ้นชื่อว่าเมืองช้าเรียบง่ายแบบญี่ปุ่นแล้ว ทุกคนต่างแนะนำให้ขับเพลินอย่างช้าๆ ชื่นชมธรรมชาติอันงดงามตลอดเส้นทางดีกว่า อย่างในภาพ ที่ทั้งภูเขาจะกลายเป็นสีแดงส้มสลับเหลื่อมกันไปในช่วงปลายฤดูหนาว แค่ได้ไปเจอของจริงก็ประทับใจมากแล้ว

__________

Route 03 —
Rim Rock Drive / Colorado USA

เชื่อว่าทุกคนต้องมีโมเม้นต์อยากไปอยู่ในหนังคาวบอย ไปขี่ม้าท่ามกลางพื้นที่แห้งแล้งเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา ถ้าให้ทันสมัยขึ้นมาหน่อย ใครๆ ก็ต้องอยากไปซิ่งบนถนนตรงดิ่งของ Route 66 ประจำสหรัฐอเมริกาเป็นแน่แท้ และอีกหนึ่งเส้นทางขับรถชมวิวสุดแปลกตาที่เราขอแนะนำ ก็คือเส้นทาง Rim Rock Drive ที่รัฐ Colorado

เส้นทางนี้จะพาเราลัดเลาะไปตามตีนภูเขาหินที่ถูกกัดเซาะเป็นเวลายาวนาน (อาจจะหลักล้านปีก็เป็นไปได้) ผ่านภูมิทัศน์เวิ้งว้าง ขึ้นไปยังจุดสูงสุดเพื่อชมวิวทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตา ช่วงหนึ่งของเส้นทางถูกเจาะเป็นอุโมงค์หินลอดใต้ภูเขาไปเสียดื้อๆ ทั้งหมดนี้เลยถือว่าเป็นเส้นทางขับรถชมวิวอีกเส้นทางหนึ่งที่เราก็อยากไปเช็คอินให้ได้ด้วยตัวเองเหมือนกัน

__________

Route 04 —
Skeleton Coast / Namibia

อย่าได้กลัวเส้นทางนี้ไป เพราะถึงแม้ว่าชื่อจะถูกตั้งจากการที่เรามักจะเห็นโครงกระดูกของวาฬและสัตว์ทะเลตัวใหญ่ รวมไปถึงซากเรืออัปปางที่คลื่นลมและคลื่นทะเลพัดจนมาเกยหาด ชื่อของเส้นทางนี้ก็เลยดูน่ากลัวไปโดยปริยาย แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้น เทียบไม่ได้เลยกับการได้ขับรถริมทะเลบนทะเลทรายชายฝั่งที่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา

ความพิเศษมากกว่านั้นของเส้นทางสายนี้ก็คือ ด้วยความที่ตลอดแนวทะเลทรายชายหาดไม่มีถนน การเดินทางมาที่นี่จะต้องนั่งรถจี๊บหรือโฟร์วีลไดรฟ์มาเท่านั้น ระหว่างทางคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนหลงรัก นั่นก็คือการได้เห็นเหล่าสรรพสัตว์ประหนึ่งชมซาฟารี มองไปทางทะเลทรายอาจจะได้เจอช้างแอฟริกากำลังเดินเล่นเย็นใจ ส่วนทางขวาอาจจะได้ฝูงแมวน้ำนับพันที่กำลังจับกลุ่มตากลมอยู่ริมชายหาด มองไปอีกหน่อยก็จะเจอกลุ่มหมาไนที่ล่าแมวน้ำกินเป็นอาหาร

ถือได้ว่ามาเส้นทางนี้นอกจากจะได้ความประทับใจแล้ว ยังได้สัจธรรมชีวิตกลับบ้านอีกด้วย

__________

Route 05 —
Cardrona Valley / New Zealand

สาวกภาพยนตร์เรื่อง The Lords of the Ring ไม่ควรพลาดเส้นทางขับรถชมวิวนี้เป็นอย่างยิ่ง เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตาประหนึ่งหลุดออกมาจากในหนัง ตลอดสองข้างคือภูเขาและทุ่งหญ้าที่อยากจะสนับสนุนให้ลองเผื่อเวลาแล้วจอดแวะลงไปวิ่งเล่นสักพักก็ยังดี นอกจากไฮไลต์ที่อยู่ที่การได้เป็นซีนสำคัญๆ ในภาพยนตร์แล้ว อีกหนึ่งจุดแวะห้ามพลาดก็คือ Bradrona Fence รั้วแนวยาวขนานไปกับถนนที่เต็มไปด้วยบรา บรา และก็บรา! เป็นกิมมิคตลกๆ ประจำชาตินิวซีแลนด์เค้าล่ะ

__________

ซึ่งเส้นทางขับรถชมวิว Cardrona Valley นั้น สมาชิกของโปรแกรม BMW The Ultimate JOY Experience ที่ได้เข้าร่วมทริปสุด exclusive ‘ALPINE XDRIVE NEW ZEALAND’ ก็ได้ไปสัมผัสกันมาแล้ว รวมถึงยังได้ไปสัมผัสประสบการณ์ BMW Alpine xDrive กับการขับรถบนพื้นที่สูงอุณหภูมิระดับเยือกแข็ง โดยการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังยอดเขา Cardrona Valley รวมถึงท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ในนิวซีแลนด์ระหว่างวันที่ 4-9 สิงหาคมที่ผ่านมา

ส่วนใครที่อยากเป็นสมาชิกโปรแกรม BMW The Ultimate JOY Experience ก็สามารถเข้าร่วมง่ายๆ แค่เพียงเป็นเจ้าของรถยนต์ BMW ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง และรุ่นจะเก่าเก๋าแค่ไหนก็ได้หมด จากนั้นลงทะเบียนที่ www.bmwultimatejoy.com/th/ เท่านี้ก็เตรียมรับสุดยอดประสบการณ์แสน exclusive ที่ทาง BMW เตรียมมอบให้คุณอีกเพียบแน่นอน

และเร็วๆ นี้ เราจะนำภาพและบรรยากาศจากทริป ‘ALPINE XDRIVE NEW ZEALAND’ มาเล่าให้ทุกคนฟัง โปรดติดตาม!

#TheUltimateJOYExperience #BMWultimateJOY #BMWprivilege

RECOMMENDED CONTENT

31.สิงหาคม.2022

“HENS ศิลปินมากความสามารถที่มาพร้อมแนวเพลง Alternative Pop ประกอบด้วย ปู๋-ปิยวัฒน์ มีเครือ (ร้องนำ), โฟร์-ประทีป สิริอิสสระนันท์ (กีตาร์), บัง- เอกสิริ กำบังภัย (เบส) และ จ๊อบ-กฤตพงศ์ สกุลนามอเนก (กลอง) จากสังกัดค่ายเพลง What The Duck ที่ได้ฝากผลงานเพลงฝังแน่นไปด้วยเอกลักษณ์ไว้มากมาย อาทิ “แพนด้า”, “กลั้นไว้”, “ข้างเดียว”, “It’s gotta be you”, “มนุษย์อวกาศ” และเพลงมู้ดสดใสอย่าง “เมดูซ่า”