fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

8 สิ่งที่ผู้หญิงควรหยุดทำในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ได้ผิวพรรณที่ดูสดใสและอ่อนวัยตลอดกาล
date : 1.มกราคม.2015 tag :

Dr. Colbert แพทย์ผิวหนังชื่อดัง ผู้ดูแลผิวหน้าให้กับเหล่าดาราฮอลลีวู้ดระดับเอ-ลิสต์สุดสวยมากมายที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป อาทิ Angelina Jolie, Naomi Watts และ Rachel Weisz ได้กล่าวว่าการบำรุงผิวพรรณที่ช่วยชะลอความแก่สำหรับผู้หญิงนั้นง่ายนิดเดียว โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งการฉีดฟิลเลอร์หรือฉีดอะไรอย่างอื่นเสมอไป แต่ควร “เลิกทำ” อะไรบางอย่างในชีวิตประจำวันมากกว่า เพื่อชะลอกระบวนการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและดูแลมันให้ดีที่สุด ซึ่งปรากฏว่ามีหลายอย่างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังทำอยู่ในทุกๆวัน ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิวหนังของเรา เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนมีผิวพรรณสวยใส อ่อนวัย Dr. Colbert จึงให้คำแนะนำถึง 8 สิ่งที่ผู้หญิงควรหยุดทำเดี๋ยวนี้ เพื่อปกป้องผิวพรรณให้ดูสวยใส และชะลอการมาเยือนของริ้วรอยให้นานมากที่สุด จะมีอะไรบ้างเลื่อนลงไปดูตอนนี้เลย

 null

1. หยุดยืนตากแดด และรู้จักพกร่มกันบ้าง

ทุกนาทีที่คุณยืนหรือนอนตากแดด ถึงแม้ว่ามันจะทำให้รู้สึกดี แต่ในขณะเดียวกันมันก็จะค่อยๆทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินของคุณ ถ้าให้เปรียบเทียบ ก็เหมือนกับการที่คุณกำลังโยนเสื้อไหมพรมแคชเมียร์ชั้นดีลงไปในเครื่องอบแห้งโดยใช้ความร้อนสูงนั่นแหละ เนื่องจากพวกเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินมีหน้าที่ทำให้ผิวหนังของคุณนุ่มและเรียบเนียน การตากแดดเป็นเวลานานจะทำให้โมเลกุลเหล่านี้กลายเป็นแป้งหยิกหยอยที่ถูกฉีดขาด ส่งผลให้ผิวหนังของคุณมีริ้วรอย จุดด่างดำ และหย่อนคล้อย อีกทั้งแสงแดดยังทำลายดีเอ็นเอของผิวหนัง ซึ่งอาจนำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนังได้ในอนาคต หากคุณเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือชอบนอนอาบแดดในฤดูร้อน แนะนำว่าให้ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ส่วนในเวลากลางคืนหลังจากที่อาบแดดมาทั้งวันแล้ว ควรทาน้ำมันสูตรชะลอความแก่ลงบนใบหน้าเพื่อที่ผิวหนังของคุณจะได้เก็บกักความชุ่มชื้นตอนนอนหลับ

 null

2. หยุดรับประทานน้ำตาล! ตัดพวกเครื่องดื่มที่มีสารฟรุกโตสเข้มข้น และอาหารฟาสต์ฟู๊ดออกไปซะ

รู้หรือมว่าพวกผลิตภัณฑ์ไขมันต่ำทั้งหลายมักมีน้ำตาลซ่อนเร้นอยู่ ซึ่งสามารถทำให้คุณน้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัวอย่างร้ายกาจ น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จะทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชั่น (glycation) ในเนื้อเยื่อของมนุษย์ ซึ่งหมายความว่ามันจะทำให้โมเลกุลเปราะบาง และหากผิวหนังกับหลอดเลือดเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาลมันก็จะยิ่งเสื่อมสภาพเร็วขึ้น (หยึย! แค่อ่านก็รู้สึกกลัวแล้ว) ดังนั้นสาวๆควรเลือกรับประทาน ผักคะน้า, โยเกิร์ต, ถั่วอัลมอนด์, ปลาเนื้อขาว, น้ำมันมะกอก และเสาวรส เพราะอาหารเหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระและโมเลกุลธรรมชาติที่ต้านการอักเสบเอาไว้อย่างครบถ้วน

 null

3. เลิกทำความสะอาดผิวหน้าเกินความจำเป็น

ใครบอกว่าการล้างหน้าบ่อยๆเป็นเรื่องที่ดี? เพราะการขัดถูผิวหน้าโดยใช้สารทำความสะอาดหรือสารบำรุงผิวมากจนเกินไป จะไปลดการผลิตน้ำมันธรรมชาติภายในผิวหนัง ส่งผลทำให้ผิวแห้งและหยาบกระด้างได้ ลองหันมาขัดหน้าอย่างมากแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์แทน และใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อชะลอความแก่สูตรอ่อนโยนก็พอ แค่นี้ก็สามารถทำให้ผิวพรรณของคุณดูสะอาดผ่องใสได้แล้ว แถมยังไม่ต้องสูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไปอีกด้วย และที่สำคัญอย่าลืมทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ทุกครั้งหลังล้างหน้าด้วย

 null

4. หยุดออกกำลังกายแบบหักโหม

สาวๆคนไหนที่รู้ตัวว่าชอบออกกำลังกายและลดน้ำหนักแบบฮวบฮาบ หันมาฟังทางนี้ด่วน เพราะการโหมลดน้ำหนักและออกกำลังกายมากจนเกินไป สามารถทำให้ใบหน้าและร่างกายของคุณดูแก่เกินวัยได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นควรออกกำลังกายและรับประทานอาหารแต่พอดีจะดีกว่า หากหักโหมมากเกินไปร่างกายของคุณจะเครียดและระดับคอร์ติซอลในร่างกายก็จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ดูซูบซีดและอ่อนเพลีย ส่วนการวิ่งจ็อกกิ้งหรือปั่นจักรยานมากเกินไปก็จะทำให้ไขมันที่สะสมบริเวณใบหน้าหายไป ส่งผลทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและคุณดูซูบผอมไม่สวย ทางที่ดีที่สุด คุณควรรู้จักร่างกายของตัวเองให้ดี แล้วเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณ

 null

5. เลิกนิสัยชอบนอนดึก

เราจะได้ยินอยู่เสมอว่าการนอนหลับให้เพียงพอนั้นสำคัญมากๆ เนื่องจากการนอนหลับคือช่วงเวลาที่ร่างกายและผิวของคุณจะซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่เรานอนน้อยเกินไป ร่างกายของเราก็จะเริ่มเตือนด้วยการปรากฏริ้วรอยบนใบหน้า ส่วนผิวของเราก็จะเริ่มซีดเซียวและมีรอยหมองคล้ำบริเวณใต้ตา อย่าลืมว่าเซลล์ผิวหนังของเราก็ต้องการพักผ่อนไม่ต่างจากกล้ามเนื้อ เพราะฉะนั้นคนส่วนใหญ่ที่อายุต่ำกว่า 60 ปีควรนอนหลับวันละ 7-8 ชั่วโมง และเพื่อให้ใบหน้าของคุณดูผ่องใสอยู่เสมอ แนะนำว่าก่อนนอนให้ลองสิ่งที่ช่วยบรรเทาความเครียด เช่น การดื่มชาคาโมมายล์, การใช้แสงเทียน, การออกกำลังกายเบาๆในช่วงเย็น และการรับประทานอาหารเย็นตอนที่ไม่ดึกจนเกินไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณนอนหลับสนิทและสบายยิ่งขึ้น สาวๆคนไหนที่อยากสวยและดูดีอยู่เสมอ ก็อย่าลืมเชียวว่าการนอนหลับให้เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความงาม

 null

6. เลิกนิสัยชอบไม่ดื่มน้ำ

อันนี้จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่การที่วันๆหนึ่งคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอนั้น ถือเป็นการส่งผลเสียต่อร่างกายคุณเอามากๆเลย ร่างกายมนุษย์ก็เปรียบเสมือนฟองน้ำ ลองนึกถึงเวลาที่เอาฟองน้ำแห้งๆจุ่มลงไปในน้ำสิ มันจะนุ่มนิ่มและกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นทันที เนื้อเยื่อทั้งหมดรวมถึงผิวหนังของเราก็ต้องการน้ำเพื่อรักษาศักยภาพการทำงานของเซลล์ ผิวที่ขาดน้ำจะสูญเสียความยืดหยุ่นซึ่งทำให้เราดูแก่และเหนื่อยล้า เพราะฉะนั้นถ้าคุณหันมาดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอก็จะช่วยทำให้คุณดูดีและรู้สึกดีมากยิ่งขึ้น ลองฝึกดื่มน้ำไปตลอดทั้งวันดู โดยมีแก้วน้ำติดโต๊ะ หรือขวดน้ำใส่กระเป๋าตลอดเวลา นอกจากผิวพรรณและดวงตาของคุณจะดูสดใสยิ่งขึ้นแล้ว กล้ามเนื้อและข้อต่างๆในร่างกายคุณก็จะรู้สึกดีขึ้นด้วยเช่นกัน

 null

7. หยุดที่จะไม่สนใจต่อเทคโนโลยี

ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากลดอายุตัวเองลงสัก 5-10 ปี แต่ก็ไม่ยอมที่จะลองการยิงเลเซอร์หรือฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ ถึงแม้การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพจะเป็นตัวสำคัญในการช่วยชะลอความแก่ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังไม่เพียงพอที่จะคงสภาพให้คุณดูสวยอ่อนวัยเหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้หรอก ผู้หญิงหลายๆคนยังมีความกลัวที่จะต้องขึ้นเขียงทำศัลยกรรมเพื่อให้ตัวเองดูสาว แต่คุณก็สามารถหลีกเลี่ยงการทำศัลยกรรมได้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีต่างๆที่มีขั้นตอนทำแค่แป๊ปเดียวอย่าง Ulthera, Coolsculpting, Botox และ Restylane ซึ่งจะช่วยทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ต้องกลัวว่ามันจะไม่ปลอดภัย เพราะมีผู้หญิงมากมายที่เคยทำมาแล้ว และได้ผลลับที่คุ้มค่ามาแล้วนักต่อนัก

 null

8. เลิกซื้อผลิตภัณฑ์ประทินผิวแบบมั่วๆสักที

หลายครั้งที่ผู้หญิงชอบซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบมั่วๆ ทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจสักที สาเหตุเกิดจากการขาดความรู้ในการบำรุงผิวและการชะลอความแก่อย่างถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่นผลิตภัณฑ์ทุกชนิดจะมีกรดกลีเซอรีนเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นโทเนอร์, โลชั่น, ครีมทารอบดวงตา หรือไนท์ครีม สุดท้ายแล้วเมื่อเรารับส่วนประกอบที่มีอยู่ในครีมบำรุงมากเกินไปอาจจะทำให้ผิวแห้งและอักเสบได้ ดังนั้นควรขอคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนังในการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผลจะดีกว่า

 Credit: Huffintonpost 

RECOMMENDED CONTENT

7.พฤศจิกายน.2022

ซีรีส์ The Last of Us เล่าเรื่องราว 20 ปีหลังจากอารยธรรมสมัยใหม่ถูกทำลาย โจเอล ผู้รอดชีวิตได้รับการว่าจ้างให้พาตัวเอลลี เด็กหญิงอายุ 14 ปี ออกจากเขตกักกัน ภารกิจเล็กๆกลับกลายเป็นการเดินทางที่โหดร้ายและน่าสลดในไม่ช้า เมื่อทั้งคู่ต้องเดินทางข้ามสหรัฐอเมริกาและช่วยเหลือกันเพื่อความอยู่รอด