ถ้าให้นึกถึงคาเฟ่ หรือหาร้านไว้นัดเจอเพื่อน ก็หนีไม่พ้นร้านกาแฟบรรยากาศเดิมๆ ยิ่งย่านสุขุมวิทติด BTS ก็แนวคล้ายๆ กันหมด บางครั้งเราก็แค่อยากพักผ่อนโดยไม่ต้องไปต่างจังหวัดบ้างก็ได้ แต่จะให้หาธรรมชาติได้จากที่ไหนใจกลางเมืองแบบนี้ คุณก็คิดเหมือนกันใช่ไหม?
Patom Organic Living (ปฐม) ร้านกล่องสี่เหลี่ยมติดกระจกสลับกับไม้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนดึงเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ ด้วยพื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่หลายชนิด จึงทำให้ใครก็ตามหากได้มาสัมผัสก็บอกว่านี่แหละ คือคำตอบที่หามานาน
ความเรียบง่ายสไตล์ minimal เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดให้หลายๆ คนชื่นชอบที่นี่ ไม่ต่างอะไรกับ คุณฟี่ –อนัฆ นวราช เจ้าของร้านแนวคิดดี ที่บอกเล่ารายละเอียดส่วนต่างๆ ของปฐมทั้งโครงสร้างไปถึงจุดเริ่มต้นให้กับเราฟัง
“Patom (ปฐม) หมายถึง จุดเริ่มต้น เพราะเริ่มทุกอย่างเองตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่ปลูกเอง แปรรูป แล้วสุดท้ายก็ขายเอง อีกอย่างเรามีสวนสามพรานอยู่แล้ว ที่จังหวัดนครปฐม ก็เลยดึงคำนี้เพื่อให้ทุกคนรู้ว่ามาจากที่นี่ ทุกอย่างก็จะสอดคล้องกันตั้งแต่โลโก้ที่เป็นรูปจากองค์พระปฐมเจดีย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์และส่วนอื่นๆที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม”
โครงสร้างตัวร้านมาจากสิ่งที่คุณฟี่คุยกับทางทีมสถาปนิกจาก Nitaprow Architects ว่าอยากให้คนที่นั่งแม้จะอยู่ด้านในก็รู้สึกเหมือนอยู่ข้างนอก ไม่ได้มีตึกมาบัง มองเห็นต้นไม้ได้ทุกมุมจึงติดกระจกแล้วยกเพดานสูงทำให้โล่งโปร่ง แสงเข้าเท่าๆ กัน จนรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ทางกลางธรรมชาติ
ซึ่งวัสดุทำเสามาจากไม้แพรเก่าสวนสามพราน โดยแมทช์สีไม้ 2 ชนิดมาประกบกันระหว่างไม้เต็งไทยกับไม้แดง การดีไซน์ลวดลายบนเพดานที่เป็นทิวแถวแฉกๆ จำลองความรู้สึกเหมือนเราได้นั่งอยู่ใต้ต้นมะพร้าวแล้วมองขึ้นไปด้านบน นอกจากนี้ยังมีโต๊ะโชว์สินค้าที่นำไม้ล้มมาทำฐานแล้ววางกระจกด้านบน
ส่วนเก้าอี้ยังเป็นการนำของเก่าสะสมมาปรับสภาพให้ใช้งานได้ใหม่ ซึ่งทุกอย่างล้วนมีเรื่องราวของธรรมชาติ ไม่เว้นแม้แต่ราวบันไดที่ถูกร้อยเรียงด้วยหวายต่อกัน อีกทั้งยังมีรูปสามเหลี่ยมสีทองที่นอกจากจะดูสวยแปลกตา ทางร้านยังตั้งใจปิดครอบจุดที่น็อตยึดโครงสร้างไม้แต่ละส่วนนั่นเอง
ด้วยแนวคิดเดียวกันเราจึงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของ ‘สามพรานโมเดล’ แต่แบรนด์ปฐมจะเน้นความ Organic ให้ทุกคนเข้าถึงและชัดเจนขึ้นภายใต้คอนเซปต์ ‘organic living’ คือนอกจากจะมีมุมให้นั่งเล่น ยังมีเครื่องดื่มหลากหลาย
โดยเฉพาะกาแฟจากภาคเหนือ ชาที่ทำเองอย่างชากุหลาบ น้ำผลไม้และน้ำสมุนไพรอย่างน้ำฝรั่ง น้ำกระเจี๊ยบ น้ำชาคอมบูชา อีกทั้งยังมีผัก ผลไม้ ขนมไทย ของใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงอาหารพร้อมทานใส่กล่องแบบที่เห็น ทุกเมนูก็จะเน้นผักไม่ว่าจะเมนูข้าวออร์แกนิคกับกับข้าว สลัดออร์แกนิค หรือส้มตำก็มี
“เราสามารถให้คุณไปดูฟาร์มได้ มั่นใจว่าปลูกแบบออร์แกนิคจริงๆ จะเห็นได้จาก food map ที่มีติดไว้ข้างเคาน์เตอร์บาร์ ก็ตรวจเช็คดูได้ว่าใครปลูกอะไร มาจากที่ไหนบ้าง” คุณฟี่กล่าว
แน่นอนว่าเมื่อเห็นแบบนี้ก็สบายใจได้ เพราะไม่ใช่แค่วัตถุดิบแต่บรรจุภัณฑ์ต่างๆ ก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ทั้งกระดาษ ขวดแก้ว หรือพลาสติกก็เป็น Biodegradable ที่ย่อยสลายง่ายและไม่มีสารปนเปื้อน อีกทั้งตัวผลิตภัณฑ์ก็ดูที่ขวดว่าเป็นออร์แกนิคกี่เปอร์เซ็นต์
แถมการันดีด้วยการผ่านมาตรฐานสากลระบบเกษตรอินทรีย์ IFOAM หรือ International Federation of Organic Agriculture Movements ก็ยิ่งทำให้สนิทใจไม่ว่าจะของใช้หรืออาหารการกิน
นอกจากสิ่งเหล่านี้จะทำให้ Patom ครองใจทุกวัยภายในเวลาไม่นานได้แล้ว สิ่งสำคัญที่ทางร้านกำลังทำ และต้องการส่งสร้าง คือกิจกรรมเน้นด้านวัฒนธรรมที่สลับสับเปลี่ยนควบคู่กับด้านผลิตภัณฑ์และด้านเกษตร อย่างกิจกรรม Organic Farmers’ Market จัดขึ้นทุกวันเสาร์ที่ 2 ของเดือน
ใครที่ลงทะเบียนแล้วก็จะได้มาเรียนรู้การทำขนมหรือของเล่นของใช้แบบไทยๆ เรียนรู้การปลูกผัก หรือซื้อสินค้าจากเกษตรกรจากสามพรานโดยตรง ซึ่งทั้งหมดนี้เรามองว่า พื้นที่นี้ไม่ได้ทำให้สุขกาพกายเราดีอย่างเดียว แต่ด้วยบรรยากาศและกิจกรรมก็ยิ่งทำให้สุขภาพใจดีตามไปด้วย
—————
Patom Organic Living
ซอยสุขุมวิท 49 วัฒนา กรุงเทพฯ
facebook.com/patom.organics
RECOMMENDED CONTENT
แบทแมนเวอร์ชั่นนี้ "ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้มากเท่าไร" แพตทินสันกล่าวขณะที่เขาแนะนำตัวอย่าง