fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

7 หนังที่แทบไม่น่าเชื่อว่าได้แรงบันดาลใจสร้างมาจากเค้าโครงเรื่องจริง!
date : 29.เมษายน.2015 tag :

ชีวิตโลกความจริงบางทีก็ไม่ต่างกับบทภาพยนตร์ที่มีความสลับซับซ้อน ขึ้นลง หวือหวา ไม่แปลกที่ทำไมหนังหรือวรรณกรรมบางเล่ม มักหยิบเค้าโครงเรื่องจริงมาสร้างกันได้ออกมาดูแล้วสนุกตื่นเต้น วันนี้เราจะมีคอลัมน์ที่รวบรวมเอาสุดยอดหนังสร้างจากเรื่องจริงที่ยังคงติดอยู่ในใจคอหนังทุกรุ่น จนบางทีบางเรื่องคุณอาจจะตกใจเลยว่า สร้างมาจากเรื่องจริงกันหรือนี่?

null

50 First Dates (2004)

จำหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ ของ Adam Sandler กับ Drew Berrymore ที่ออกมาถล่ม Box Office ในช่วงวันวาเลนไทน์ปี 2004 เรื่องนี้กันได้ไหม ถ้ารู้สึกลืมๆเหมือนกับตัวละครในเรื่องก็คือ ตัวเอกผู้ชายมีความรักกับสาวในเกาะฮาวาย เธอผู้มีความทรงจำระยะสั้น ตื่นนอนมาลืมเรื่องเคยเกิดขึ้นทั้งหมด ฟังดูเหมือนพิลึกใช่ไหมล่ะ แต่มันมีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆอยู่นะ

หญิงสาวที่ชื่อ Michelle Philpots หลังจากประสบอุบัติเหตุสองครั้ง ทำให้เธอได้รับอาหารผิดปกติความจำล้มเหลว ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตผ่านการอ่าน Post-It หลังตื่นเช้าทุกครั้ง เพิ่มดีกรีความเหมือนเข้าไปอีก เธอใช้ชีวิตคู่คล้ายคลึงกันกับในหนังเลย แต่โชคดีที่คู่รักในชีวิตจริง เขารักกันก่อนที่ผู้หญิงประสบอุบัติเหตุ ทำให้ตื่นมายังจำได้ ไม่ร้องกรี๊ดแตกเหมือนกับในหนัง แต่ก็นะ แสดงถึงความรักกันจริงๆ ทำออกมาเป็นหนังดูที่ทีก็ซึ้ง

null

Rocky (1976)

หนังชีวิตนักมวย Underdog ที่ช่วยทำให้ชื่อของ Sylvester Stallone โด่งดังในแวดวง Hollywood จนถึงทุกวันนี้ ทั้งทำออกมาทั้งสิ้น 6 ภาค ได้รับรางวัลสำคัญในเวทีออสการ์ และการเป็นผู้เขียนบทและแสดงเองในเรื่องของเขา กลายเป็นดาราขวัญใจชาวประชาไปในทันที แต่แล้วในปี 2003 อยู่ดีๆก็มีนักมวยคนหนึ่งชื่อว่า Chuck Wepner โผล่ขึ้นมากล่าวว่า Stallone เอาเรื่องของเขาไปสร้างเป็นหนังดัง โดยที่เขาไม่เคยได้ผลตอบแทนอะไรเลยสักบาท ฝั่ง Stallone ก็กล่าวว่าเขารู้จัก Chuck Wepner จริง แต่หนังเรื่อง Rocky ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย

แปลกแต่จริง ว่าเค้าโครงเรื่องมันคล้ายกันมากๆ Chuck Wepner เป็นนักมวยไม่มีชื่อในเมือง New Jersey (ใน Rocky เป็น Philadelphia) ใช้ชีวิตรับจ็อบเป็นยามรักษาความปลอดภัย (ใน Rocky เป็นนักเลงทวงหนี้) แล้วตรงนี้ล่ะที่คล้ายมาก คือเขาเคยมีโอกาสได้ขึ้นต่อยกับแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในเวลานั้น Muhammad Ali แล้วก็ทำให้โลกต้องตกใจเมื่อเขาสามารถทำ Ali ล้มลงไปได้ในยกที่ 8 (แม้ภายหลังจะมีการบอกว่ามันเป็นการโกงเหยียบขา) หลังจากนั้นก็โดนหมัดเข้าใส่ไม่ยั้งจนถึงยก 15 หน้าตา Chuck Wepner ยับมากๆ แพ้ TKO ไป ถ้าคิดว่านี่คล้ายแล้ว ในภายหลัง Wepner ก็เคยต่อยกับนักมวยปล้ำ เหมือนใน Rocky ภาค 3 ด้วย อืม จริง คล้ายมากๆ

null

Jaws (1975)

หนังแจ้งเกิดของผู้กำกับ Speilberg ในยุคหนุ่ม ที่มาพร้อม Special Effects และ Sound ประกอบ ที่ดุดัน ผลักให้หนังเรื่องนี้ทำให้คนดูทั้งโรงกลัวการลงน้ำไปพักใหญ่เลย เรื่องราวของฉลามยักษ์เข้ามากินคนในอ่าว และมีเพียง Lifeguard ท้องถื่นเท่านั้นที่จะช่วยเหลือโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้

โดยที่ไม่ได้มีการออกมาพูดอย่างเป็นทางการ แต่หลายคนเชื่อกันว่าเหตุการณ์ใน Jaws ได้เค้าโครงมาจากเรื่องจริงในปี 1916 ข่าวดังในอเมริกา ที่เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันเป๊ะๆ มีฉลามบุกมากินคนที่เล่นน้ำในชายฝั่งเมือง New Jersey ไปทั้งหมด 4 ชีวิตด้วยกัน หลังจากนั้นเกิดการล่าฉลามการยกใหญ่ จนท้ายที่สุดมีการจับฉลามกินคนที่ว่านี้ได้ ออกข่าวกัน พอมาทำเป็นหนังก็ต้องทำให้มันมีรสชาติขึ้นหน่อย ด้วยการเอาฉลามยักษ์มาใช้ซะเลย

null

The Exorcist (1973)

หนังปราบผีที่เป็นเหมือนขึ้นหิ้งคลาสสิคตลอดกาลของแนว Horror เรื่องราวของเด็กผู้หญิงอายุ 12 ขวบ มีอาการผิดปกติเหนือธรรมชาติ จนที่บ้านต้องไปเรียกนักบวชเดินทางมาปราบ ทำเอาคนดูขวัญผวาไปตามๆกัน ถึงขั้นในสมัยนั้นที่เข้าโรงฉายแรกๆต้องออกกฎเลยว่า ถ้าคุณเป็นโรคหัวใจ ต้องระวังให้ดี ไม่งั้นมีเหวอช็อคตายคาโรงได้

ไม่น่าเชื่อว่าแนว Horror ขนาดนี้จะมีเค้าโครงเรื่องจริงด้วย เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1949 เด็กชายอายุ 13  ขวบ Rpland Doe ใน Marylad มีอาการผิดปกติแปลกประหลาด แล้วสิ่งของในบ้านก็มีการขยับเอง ทางพ่อแม่เลยเชิญนักบวชสองคนมาปราบผีร้าย ในบันทึกมีการกล่าวว่ามีการทำพิธีหลายครั้ง แล้วในตอนหลังเด็กชายคนนี้ก็เริ่มบ่นเป็นภาษาละติน ทั้งๆที่ไม่เคยเรียนภาษาเหล่านั้นมาก่อน มีการพ่นน้ำลายใส่นักบวชอย่างในหนังด้วย แต่ในภายหลังหนึ่งในนักบวชที่ทำพิธีออกมากล่าวว่า “เด็กพูดภาษาละตินอาจจะเพราะว่าเราท่องบทสวดใส่เขาเป็นเวลานาน จนสมองทำงานเป้นคำเหล่านั้นออกมา แล้วก็มีการพ่นน้ำลายจริง แต่ไม่ได้เป็นการพ่นออกมาเยอะ จงใจเหมือนในหนังขนาดนั้น”

null

The Terminal (2004)

หนังในปี 2004 ของผู้กำกับ Steven Spielberg กับนักแสดงคู่บุญ Tom Hanks ว่าด้วยเรื่องของหนุ่มกลางคนเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดไม่ได้ เพราะกำลังมีสงครามกลางเมืองอยู่ ทำให้ต้องติดแหงกอยู่ในสนามบินเป็นเวลานาน เกิดเป็นพล็อตเรื่องโรแมนติกกับแอร์โฮสเตสจนได้ เพราะหนังเรื่องนี้ทำให้คนเดินแอร์พอร์ทแล้วรู้สึกโรแมนติกขึ้นมาทันที

แต่เชื่อไหมว่านี่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงนะ นาย Mehran Karimi Nasseri ชาวอิหร่าน เคยติดอยู่ในสนามบิน Charles de Gaulle กรุงปารีสตั้งแต่ปี 1988-2006 นั่นหมายความว่าเกือบ 20 ปี! วันๆเขาก็ใช้ชีวิตกินอยู่สนามบินนั่นล่ะ เหตุมาจากเขาต้องการเดินทางไปอังกฤษ ต้นทางมาจากเบลเยี่ยม แล้วมาแหงกที่ฝรั่งเศส พร้อมลืมเอกสารแสดงตัวของเขา ซึ่งฝรั่งเศสก็เข้มขนาดให้แกไม่ไปไหน พยายามหาทางแสดงตัวตนอยู่อย่างนั้น จนสุดท้ายทางรัฐบาลฝรั่งเศสตัดสินใจให้แกเป็นคนอาศัยในประเทศได้ตามกฎหมาย ซึ่งในท้ายที่สุดเขาก็ไม่คิดจะจากประเทศฝรั่งเศสแล้ว ปัจจุบันยังอาศัยอยู่ที่นั่น และมีชีวิตอยู่ อืม 20 ปี มันนานจริงๆนะ

null

Heat (1995)

หนังตำรวจจับผู้ร้ายขั้นโหด ที่ได้ดาราระดับตำนานมาประกบกัน Al Pacino และ Robert De Niro ออกมาเป็นผลงานแอคชั่นตึงเครียดขั้นสุด เรื่องราวแก๊งโจรกำลังตามล่าภารกิจของพวกเขา สุดท้ายก็ดันมาเจอตอเป็นตำรวจตัวโหด ฉากนั่งกินข้าวในร้านเผชิญหน้ากันระหว่างตำรวจโจร ยังคงเป็นฉากที่อยู่ในความทรงจำของคอหนังทุกๆคนจนถึงทุกวันนี้

ตัวละครของ De Niro มีเค้าโครงมาจาก Neil McCauley อาชญากรตัวฉกาจที่มีความสนุกสนานเวลาที่ตำรวจที่เขาต้องต่อกรด้วยฝีมือถึงกัน และเชื่อไหมว่าฉากคุยกันในที่สาธารณะระหว่างคู่แค้นนี้ เกิดขึ้นจริงด้วย ทั้งสองคุยกันแบบเพื่อนสนิท และตามโลกความจริงไม่เหมือนในหนัง ฉากนี้มันจบกันด้วย ใครคนใดคนหนึ่งยกปื่นขึ้นมายิงอีกฝ่าย ซึ่งในเวอร์ชั่นหนังได้ตำรวจที่เล่นโดย Al Pacino มาช่วยดูแลจัดการเรื่องบทหนังด้วย

null

Child’s Play (1988)

หา! ชัคกี้หน้าเหวอะของพวกเราเนี่ยนะ สร้างมาจากเรื่องจริง!? หนังที่คนเกิดในยุคม้วนวิดีโอรู้จักกันดี ตุ๊กตาหน้ากวนประสาทไล่ฟันชาวบ้าน ตามในหนังมันคือการใส่วิญญาณของโจรลงไปในตุ๊กตา เสร็จแล้วก็ไล่ป่วนบ้านที่ไปอยู่ ดำเนินมาแล้วถึงตอนนี้ไม่รู้กี่ภาค (ทั้งหนังสร้างจริงหนังเกรดบีเยอะแยะไปหมด) ถึงขั้นออกลูกก็มี แต่คุณจะต้องอึ้งว่ามันมีเรื่องแปลกๆที่เป็นเรื่องจริง เป็นแรงบันดาลใจของหนังเรื่องนี้อยู่ด้วย

ในปี 1903 มีตุ๊กตาชื่อ Robert the Doll เป็นของขวัญของ Robert Eugene Otto ในวัย 3 ขวบ ได้รับมาจากพี่เลี้ยงของเขา แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็อยู่ไม่ห่างตุ๊กตาตัวนี้อีกเลย ในเวลากลางคืนพ่อแม่ก็เริ่มจะได้ยินเสียงคนคุยกันคิกคักในห้อง มีทั้งเสียงของ Otto แล้วก็เสียงอีกเสียงแปลกประหลาด บางครั้งห้องก็ถูกรื้อกระจุยกระจาย แล้วเด็กก็บอกว่าเป็นฝีมือของตุ๊กตาตัวนี้ จนถึงในภายหลังเมื่อเขาแต่งงานมีครอบครัว ก็ยังไม่วายเอาตุ๊กตาไปอยู่ด้วยอีก จนกระทั่งครอบครัวเสียชีวิตตายจากไปในช่วงปี 70’s เมื่อครอบครัวใหม่ย้ายเข้ามาในบ้าน ตุ๊กตา Robert the Doll ยังคงนั่งอยู่ในบ้าน (โคตรหลอน) มีการเล่าว่าบางครั้งได้ยินเสียงหัวเรา หรือหน้าตุ๊กตาเปลี่ยนได้ ทุกวันนี้ตุ๊กตานั่งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Key West’s Fort East Martello Museum ประเทศสหรัฐอเมริกา

Writer: Pakkawat Tanghom

RECOMMENDED CONTENT

18.ธันวาคม.2020

การร่วมมือกันระหว่างศิลปิน 2 Generation ที่มามอบความสุขท้ายปีให้แฟนเพลงแบบสวยงาม เมื่อ “LYRA” เกิร์ลกรุ๊ป T-POP กระแสร้อน