fbpx

CONTACT US

#DESIGN — เมื่อ MUJI รีโนเวทร้านใหม่ แล้วกลับมาพร้อมแผงผักและผลไม้สดส่งตรงจากฟาร์ม
date : 18.สิงหาคม.2018 tag :

MUJI คือแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นที่ใครๆ หลายคนน่าจะชื่นชอบในความเรียบง่ายและใส่ใจรายละเอียดการออกแบบในทุกผลิตภัณฑ์ที่ ‘แบรนด์ที่ไม่แบรนด์’ นี้ตั้งใจทำออกมา ไม่ว่า MUJI จะทำอะไรออกมาก็เรียกว่าต้องเป็นที่ฮือฮากันอยู่เสมอ ทั้งของใช้ เครื่องเขียน เสื้อผ้า เครื่องครัว เฟอร์นิเจอร์ จักรยาน หรือแม้แต่บ้าน! MUJI ก็ทำมาหมดแล้ว

หลังจากที่ MUJI flagship store สาขา Yurakucho กลางกรุงโตเกียวได้ปิดเพื่อทำการรีโนเวทร้านไปสักพัก คราวนี้ MUJI ไม่ได้กลับมาแค่การตกแต่งภายในใหม่ (ที่ก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก) แต่แค่เดินเข้าไปในร้าน ทุกคนก็น่าจะแปลกใจ เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เหล่าสินค้าเครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์เครื่องแต่งกายแสนเรียบง่ายอีกต่อไป แต่มันคือแผงผักผลไม้นานาชนิดแทน!

MUJI-yurakucho-global-flagship-store-tokyo-interiors-vegetable-fruit-market-designboom-02

MUJI-yurakucho-global-flagship-store-tokyo-interiors-vegetable-fruit-market-designboom-04

yurakucho03

yurakucho04

MUJI ให้เหตุผลไว้อย่างเรียบง่ายน่ารักว่า การที่แบรนด์นำเอาแผงผักผลไม้มาให้คนเมืองได้จับจ่ายกันถึงที่ ก็เป็นเพราะพวกเขาให้เราได้ลองคิดถึงผู้ผลิต รวมถึงแหล่งปลูกของผักผลไม้เหล่านี้ เพื่อจะได้เห็นและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับตัวเราเองในฐานะผู้บริโภค

ผักผลไม้ทั้งหมดที่วางขายนั้น มีวางขายเฉพาะในฤดูกาลของมัน และส่งตรงมาจากฟาร์มปลอดสารพิษและยาฆ่าแมลง มีการแปะฉลากเพื่อให้เราได้รู้ว่าที่มาที่ไปของผักผลไม้เหล่านี้มาจากไหน มากกว่านั้น MUJI ยังแพลนถึงการนำเอาผักผลไม้หน้าตาประหลาดที่มักถูกคัดทิ้งและกลายเป็นของเสียนำมาขาย เพราะสิ่งที่เราควรใส่ใจไม่ใช่หน้าตาหรือขนาดที่ต้องได้มาตรฐาน แต่คือรสชาติที่แท้จริงของมันต่างหาก ฉะนั้นบนฉลากยังมีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จากเกษตรกรผู้ปลูก ว่าผักแต่ละชนิดควรทานอย่างไรให้ได้ประโยชน์และรสชาติสูงสุดอีกด้วย

MUJI-yurakucho-global-flagship-store-tokyo-interiors-vegetable-fruit-market-designboom-09

MUJI-yurakucho-global-flagship-store-tokyo-interiors-vegetable-fruit-market-designboom-08

MUJI-yurakucho-global-flagship-store-tokyo-interiors-vegetable-fruit-market-designboom-05

ส่วนใครที่ขี้เกียจประกอบอาหารก็สามารถไปยัง MUJI Café ซึ่งเดิมอยู่ชั้น 2 และย้ายลงมาที่ชั้น 1 เพื่อเลือกซื้ออาหารที่ทำจากผักผลไม้เหล่านี้ได้อีกด้วย ซึ่งรวมถึงขนมปังและกาแฟคุณภาพที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน ข้างๆ กันคือ MUJI HUT ที่อยู่ขนาดไมโครเพียงแค่ 10 ตารางเมตร ออกแบบโดยยึดหลักปัจจัยสำคัญในชีวิต นั่นคือ เสื้อผ้า อาหาร และที่อยู่อาศัย ซึ่งนั่นก็คือแนวคิดหลักของแบรนด์ MUJI ด้วยนั่นเอง เลยไปอีกหน่อยก็คือร้านขายต้นไม้และกล้าไม้ สำหรับสาวๆ หนุ่มๆ ที่ชอบเพาะปลูกให้ได้เลือกซื้อกล้าพันธุ์ไปลงดินกันอย่างรื่นรมย์

MUJI-yurakucho-global-flagship-store-tokyo-interiors-vegetable-fruit-market-designboom-10

MUJI-yurakucho-global-flagship-store-tokyo-interiors-vegetable-fruit-market-designboom-12

yurakucho16

yurakucho18

ส่วนชั้นอื่นๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก อย่างชั้นหนังสือซึ่งเปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์คของร้านที่ออกแบบโดย Torafu Architects ก็ยังคงอยู่ จะมีเปลี่ยนก็คือเรื่องของการแบ่งโซนที่สะดวกแก่การเลือกซื้อมากขึ้น ร้านหนังสือ MUJI Books ก็ถือว่าเป็นอีกไฮไลต์ที่ต้องมาเดินดูหนังสือคัดสรรโดยทีมงาน MUJI ว่ากันว่าร้านนี้น่าจะเป็นสาขาที่มีสินค้าหลากหลายที่สุดสาขาหนึ่งของ MUJI และถ้าจะบอกว่า MUJI ทำและขายตั้งแต่สากกะเบือยันโรงแรมก็ถือว่าไม่เกินจริงนัก

และเราก็เฝ้ารอว่า MUJI จะทำอะไรเกินความคาดหมายอะไรออกมาอีกบ้าง และเชื่อใจได้เลยว่า ไม่ว่า MUJI จะทำอะไรออกมาขาย เราก็ต้องอยากได้มาเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน

RECOMMENDED CONTENT

12.กันยายน.2022

“TIME TO AWAKEN YOUR ZIMBE SPIRIT” ถึงเวลาเดินทางให้สุด ไม่หยุดไปต่อ เรื่องราวการปลุกจิตวิญญาณของนักเดินทางอย่าง ZIMBE (จิมเบ) พร้อมกับเพื่อนผู้สร้างตำนานการเดินทางร่วมกันอย่าง อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ที่ครั้งนี้กลับมาในฐานะ Seiko brand friend คนแรกของปี 2022 และมาพร้อมเรื่องราวจากการกลับมาออกเดินทางอีกครั้ง หลังจากที่โลกหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง มาดูกันว่าในครั้งนี้ นักเดินทางผู้สร้างตำนานจะพาพวกเราไปเจอกับอะไรบ้าง?