“อารีย์” ถือเป็นแหล่งแฮงเอาท์ และย่าน lifestyle สุดฮิปอันคึกคักของคนกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ แหล่งแฮงเอาท์ รวมไปถึงอาร์ต แกลเลอรี่ ร้านเสื้อผ้า ร้านไลฟ์สไตล์เปิดใหม่ที่ผุดขึ้นมา ย่านที่รวม inspiration ให้พวกเราไปสัมผัสบรรยากาศได้ไม่มีหมด ซึ่งแต่ละร้านมีคอนเซ็ปต์ และการพรีเซ้นต์ความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างน่าสนใจ วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาอัพเดทย่านอารีย์ กับ 6 สถานที่สุดคูลที่ทุกคนไม่ควรพลาดมาเช็คอินกัน
ด้วยลักษณะของย่านอารีย์ที่แบ่งออกเป็นซอยเล็ก ซอยน้อย และแต่ละร้านที่ตั้งอยู่กระจายออกไป วันนี้เราโชคดี ได้โอกาสเหมาะที่ได้รถยนต์ New MG5 มาเป็นตัวช่วยพาเราไปในที่ต่างๆ New MG5 เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว เป็นรถยนต์ sub-compact car เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่มีความคล่องตัวสูง และด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ จึงเป็นรถที่น่าจะขับสนุกเร่งแรงทันใจถูกคนรุ่นใหม่ วันนี้เรามาลองขับไปใช้ชีวิตแบบ Be Progressive ดูสักวัน
Coffee Roasting & ร้านปลาดิบ
เริ่มต้นที่แรกกับเช้าๆ วันสบายๆ แบบนี้ ขับรถมาเพลินๆ ลองหาที่เหมาะๆ อากาศดีๆ จอดรถแล้วลองเปิด Sunroof ของ MG5 รับอากาศในยามเช้าให้สดชื่นสักนิด ก่อนขับต่อออกไปหากาแฟสักแก้ว ร้านที่อยากแนะนำคือร้านกาแฟเล็กๆ ชื่อว่า Coffee Roasting เป็นร้านกาแฟตกแต่งในสไตล์ เจแปนนิส ลอฟท์ ดูเรียบง่าย บรรยากาศสบายๆ ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของกาแฟที่คั่วเมล็ดเองเพื่อเพิ่มความสดใหม่หอมละมุน มีให้เลือกทั้งกาแฟไทย กาแฟจากเคนย่า ปาปัวนิวกินี และกัวเตมาลา คุณภาพที่ได้นี่เรียกว่าหายห่วง ส่วนราคาก็ยังถือว่าไม่แพงมากอีกด้วย จะสั่งเป็น take away มานั่งจิบบนรถ New MG5 หรือจะนั่งดื่มชิลล์ๆที่ร้าน พร้อมกับเมนูอาหารเช้าอย่าง Egg Benedict ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นเช้าของวันได้ดีทีเดียว
หากนึกพิกัดร้านไม่ถูก เราพบว่าระบบ Navigation ในระบบ inkaNet ของ MG5 เป็นตัวช่วยให้เราหาร้านได้ไม่ยาก หรือถ้าคุ้นเคยกับย่านนี้ก็ยิ่งง่ายเพราะร้านนี่ตั้งอยู่ด้านหน้าร้านปลาดิบ ร้านดังที่หลายคนคุ้นเคย เป็นร้านอาหารเก๋ๆ ลำดับแรกๆ ของอารีย์ ซึ่งถึงแม้จะเปิดมาได้เป็นระยะเวลานานก็ยังมีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้ ใครที่อยากเข้าไปทานอาหาร ทางร้านแนะนำเมนูยอดฮิต ยำทะเลดิบ ปลาแซลมอนน้ำลาบ หรือพิซซ่าเตาถ่าน แต่ร้านปลาดิบจะเปิดให้บริการช่วงเย็นเป็นต้นไป
ตั้งอยู่ที่: 1/1 ซอยอารีย์สัมพันธ์ 7 ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
เปิดบริการ: อังคาร-อาทิตย์
เวลา: 08:00 น. – 23:30 น.
Website: https://www.facebook.com/pladib.restaurant
Fab Cafe
ชาร์ตแบตให้กับตัวเองด้วยกาแฟคุณภาพเยี่ยมกันไปแล้ว คราวนี้ก็พร้อมแล้วสำหรับการทำงาน สำหรับชาว Dooddot ที่มองหาชีวิต แบบ Be Progressive คงเบื่อความจำเจในการนั่งทำงานในออฟฟิส หากใครที่พอมีโอกาส ลองเปลี่ยนบรรยากาศหามุมใหม่ๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจ ที่อารีย์ก็มี co-working space ที่เหมาะกับนักออกแบบ หรือกลุ่มคนทำงาน Start Up ให้คุณสามารถเข้าไปใช้บริการได้เหมือนกัน ขับรถ MG5 ออกจากร้านแรก ลัดเลาะมาอีกหน่อย ที่ Fab Cafe คาเฟ่ที่อยู่ในระยะไม่ไกลจากร้านแรก Fab Cafe ที่ซึ่งพวกเขาเรียกตัวเองว่าเป็น Creative Digital Hub เพราะที่นี่เขาได้มีการรวมเอาเทคโนโลยีการออกแบบยุคใหม่ อาทิ เครื่องตัดเลเซอร์ 2 มิติ เครื่องสแกน 3 มิติ เครื่องพริ้นท์ 3 มิติ รวมไปถึงเครื่องเย็บผ้าอัตโนมัติมาไว้ในที่เดียว ผสมผสานรวมกับความเป็นคาเฟ่ที่เสิร์ฟกาแฟออร์แกนิค และเบเกอรี่ให้ได้ทานเล่นแบบสบายๆ ถือเป็นสถานที่ในฝันสำหรับคนที่อยากหาสเปซทำงานและเจอผู้คนใหม่ๆ เพราะที่นี่มีบริการที่ทุกคนสามารถใช้เป็นที่จัดประชุมงาน หรือ workshop ต่างๆได้ ด้วยเครื่องมือ เครื่องใช้ที่ทันสมัย และยังมีที่จอดรถภายในร้านอีกด้วย ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่มีการผสมผสานเรื่องงานและ lifestyle ได้อย่างลงตัว เหมือนกับรถยนต์ MG5 ที่ตอบสนองคุณได้ทั้งงานและชีวิตแบบสร้างสรรค์
ตั้งอยู่ที่: 77/1 ซอยอารีย์ 1 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
เปิดบริการ: อังคาร-อาทิตย์
เวลา: 10:00 น. – 20:00 น.
Website: https://www.facebook.com/fabcafebangkok
“MG5 เป็นรถที่ขนาดไม่เล็ก แต่เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เช่นซอยเล็กอย่างอารีย์ ก็ขับง่ายมากๆ “
“ช่วงล่างให้ความรู้สึกมั่นใจเหมือนแนวรถสปอร์ต พวงมาลัยทำให้การขับขี่ที่คม ควบคุมง่าย และกล้องมองหลังผ่านจอ LCD “
“ภายในที่ตกแต่งได้อย่างสวยงาม และระบบเชื่อต่อกับโทรศัพท์มือถือที่ทั้งโทรศัพท์ หรือ ฟังเพลงจาก playlist ของคุณ ได้ง่ายๆ”
ระบบ “Inkanet” เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ใช้เชื่อมต่อสื่อสารและสั่งการ รถยนต์ผ่านทางสมาร์ทโฟน ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
Vick’s
ขับรถมาอีกหน่อยอารีย์ก็ยังมีร้านไลฟ์สไตล์เก๋ๆ เราเดินทางต่อมายังอารีย์ซอย 2 กับร้าน Vick’s ของดีไซเนอร์ไทยชื่อดัง “วิค-ธีร์รัฐ ว่องวัฒนะสิน” ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จกับแบรนด์เครื่องแต่งกายคุณภาพ “VICKTEERUT” เขาก็เปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าลำลอง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของหนุ่มสาวยุคใหม่ที่ต้องการความเรียบง่าย ด้วยเสื้อผ้าชิ้นเรียบดีไซน์คลาสสิกที่สามารถสวมใส่ได้ทุกที่ ทุกเวลา ภายในร้านก็จะมีทั้งเสื้อผ้าผู้ชาย ผู้หญิง โดยรวมแล้วออกแนวเรียบๆ มินิมอล ในโทนสีธรรมชาติอย่าง สีขาว สีเบจ สีน้ำตาล และเขียวเข้มเป็นต้น เหมาะสำหรับใส่ในวันพักผ่อนสบายๆ แต่ก็มีหลายชิ้นอยู่เหมือนกันที่ดูเรียบหรู ใส่ไปทำงาน หรืออกงานได้สบายๆ ด้วยเทคนิคการตัดเย็บสุดประณีต จึงทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกคล่องแคล่ว ผ่อนคลาย และสง่างามแม้ว่าอยู่ในวันเร่งรีบ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ เมื่อพูดถึงแรงบันดาลใจด้านการออกแบบ รถที่เราขับกันมาวันนี้ NEW MG5 เองก็ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบทั้งในส่วน Coupe Design หรือเส้นสาย ลาย V shape ที่กระโปรงหน้าหรือแม้กระทั่งไฟท้ายทีได้แรงบันดาลใจจากคบเพลิงโอลิมปิค ไม่แปลกใจที่รถยนต์ MG5 จึงดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวเพราะให้ความสำคัญกับการออกแบบนี่เอง
ตั้งอยู่ที่: ซอยอารีย์ 2 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
เปิดบริการ: จันทร์-อาทิตย์
เวลา: 10:30 น. – 20:30 น.
Website: http://vicksweekend.com/
Numthong Gallery at Aree
ได้ลองเข้าไปชมเสื้อผ้าสวยๆ งามๆ กันแล้ว คราวนี้ก็ขอ continue ความเก๋กันต่อ ด้วยการไปชมอาร์ตแกลเลอรี่ เติมแรงบันดาลใจให้กับการทำงานกันบ้าง ที่ “นำทอง แกลเลอรี่” (Numthong Gallery) อีกหนึ่งแกลเลอรี่ชั้นนำของเมืองไทยของ นำทอง แซ่ตั้ง ผู้ครํ่าหวอดในวงการศิลปะไทยมากว่าสามสิบปี ซึ่งปัจจุบันได้โยกย้ายที่ตั้งจากพื้นที่เดิมบริเวณสามเสนมายังที่ใหญ่กว่าในซอยอารีย์ 5 สำหรับใครที่ชื่นชอบเสพงาน Contemporary Art ถ้าผ่านมาแถวอารีย์ อยากให้แวะเข้ามาชมงานของที่นี่กัน เพราะที่นี่คัดงาน คุณภาพจากทั้งศิลปินหน้าเก่า หน้าใหม่ มาให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่องอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการ SUPERHUMAN ของ กริช จันทรเนตร, นิทรรศการ Finding Me ของศิลปินร่วมสมัยจากประเทศเกาหลี หรือ นิทรรศการ Absurd Aesthetic ของ อานนท์ ไพโรจน์ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีห้องสมุดเล็กๆเปิดให้ใช้ด้วย นำทอง แกลเลอรี่ จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญสำหรับชาวอารีย์ ที่ต้องการหากิจกรรมอะไรทำมากกว่าแค่ร้านนั่งกินอย่างเดียว
ตั้งอยู่ที่: 72/3 ซอยอารีย์ 5 (ฝั่งเหนือ) พหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
เปิดบริการ: อังคาร-อาทิตย์
เวลา: 11:00 น. – 18:00 น.
Website: https://www.facebook.com/NumthongGalleryAtAree
“LOGO MG ที่ฝากระโปงStyle Sport ขับซิ่ง มีไฟ Daytime Running Light และไฟหน้าแบบ Projector ที่รถค่ายอื่นๆ ไม่ค่อยจะให้มาในกลุ่มราคาเท่านี้ อีกความน่าสนใจคือ Sunroof! ใช่แล้วนี่คือรถที่มี Sunroof มากับรถด้วย นี่คืออีกหนึ่ง Option ที่ตลาดรถแข่งกันมากๆ ที่จะ offer ให้กับลูกค้า ที่เป็นอีกหนึ่ง Feature ที่เท่ๆ มากๆ “
Hanazen
หา Inspiration ในการออกแบบมาบ้างแล้ว สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านกิน ดื่ม บรรยากาศสบายๆ หลังเลิกงานแถวย่านอารีย์ เราขอแนะนำร้าน Hanazen ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ izakaya ที่เน้นขายทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่ให้คุณชิวได้หลังจากวันที่เราทำงานกันอย่างเต็มที่ หน้าตาและตัวตึกของร้านนี้ มองผ่านๆ อาจจะนึกว่าเป็นคาเฟ่ฮิปสเตอร์เปิดใหม่ทั่วๆ ไป เพราะลักษณะของร้านภายนอกเป็นเหมือนตึกอพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวสีขาว คลีนๆ ดูเรียบง่าย ไม่มีภาพของร้านเหล้าญี่ปุ่นห้อยโคมแดงหน้าร้านที่พวกเราคุ้นเคยแม้แต่น้อย มีแต่ป้ายชื่อร้าน และป้ายเมนูอาหารที่ตั้งอยู่หน้าร้าน ที่บ่งบอกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นว่านี่คือร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Hanazen การตกแต่งภายในของร้านนี้จะออกแนวอินดัสเตรียล วินเทจ กึ่งๆลอฟท์ ผนังสีขาวสะอาดตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม ดูเรียบคลาสสิค มีกระถางต้นไม้ประดับที่วางตรงมุมโน้น มุมนี้ได้อย่างน่ารัก ให้ความรู้สึกที่เฟรนด์ลี่ เป็นกันเอง ส่วนเมนูอาหารที่เป็น a must try ขายดีมากของร้านนี้เลยคือ “ซาชิมิแซลมอนรวม 5 ชนิด” เป็นแซลมอลซาซิมิที่เสิร์ฟออกมา 5 รสชาติที่แตกต่าง อาทิ ซาซิมิปลาแซลมอนโรยสาหร่ายคอมบุ ซาซิมิปลาแซลมอนหน้าหอยเม่น ซาซิมิปลาแซลมอนหน้าไข่ปลาแซลมอน และซาซิมิปลาแซลมอนกับชีส หรือจะเป็นอีกจานอย่าง “ปีกไก่ไส้เกี๊ยวซ่า” ที่เป็นการรวมร่างของปีกไก่ย่าง และเกี๊ยวซ่า โดยเลาะกระดูกด้านในออกจนหมด และยัดไส้เกี๊ยวซ่าเข้าไปแทน ร้านนี้เหมาะสำหรับทั้งมานั่งกิน ดื่ม เงียบๆคนเดียว หรือจะมาสังสรรค์กับแก๊งเพื่อนๆก็เหมาะทั้งนั้นและถ้าจะมากับเพื่อนกลุ่มใหญ่แล้ว การขนเพื่อนใส่รถ MG5 รับรองว่าทุกคนจะนั่งสบาย ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางมากๆ ทีเดียว
ตั้งอยู่ที่: 42 ซอย อารีย์ 5 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์
เวลา: 17:30 น. – 23:30 น.
Website: https://www.facebook.com/hanazenbangkok/
Paper Butter and The Burger
อีกหนึ่งทางเลือกของร้านอาหารหลังเลิกงานกับร้านที่น่าจะเป็นที่ถูกใจของคนรักเบอร์เกอร์ Paper Butter and The Burger ที่ขอบอกว่าบรรยากาศร้านนี้เหมาะมากๆ สำหรับการมานั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับทานเบอร์เกอร์แสนอร่อย เพราะบริเวณของร้านนี้จะเป็นแบบ outdoor มีโต๊ะให้นั่งกันบนสนามหญ้า ส่วนตัวร้านก็ตกแต่งได้น่ารักสุดๆในสไตล์กึ่ง food stall กึ่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาดกะทัด มีกลิ่นอายอาร์ตๆ ดูเก๋ไก๋ ถูกใจวัยรุ่น วัยหนุ่มสาวผู้ชอบถ่ายภาพสถานที่ฮิปๆลงใน IG เป็นที่สุด เบอร์เกอร์ของร้านนี้มีด้วยกันทั้งหมด 4 แบบ สามารถเลือกได้ว่าจะทานหมู หรือเนื้อ แบบแรกกับ “Paper Butter & The Burger” ที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ เชดด้าร์ชีส ผักกรีนโอ๊ค มะเขือเทศ หัวหอมทอด และซอสสูตรเด็ดของทางร้าน แบบที่สอง “Aloha Hawaiian Burger” มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ เชดด้าร์ชีส สับปะรด ผักกรีนโอ๊ค เบค่อน หัวหอมทอด แบบที่สาม “Very Cheese Burger” ที่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์ ดับเบิ้ลเชดดาร์ชีส มะเขือเทศ หัวหอมทอด ดับเบิ้ลเบค่อน ซอสชีส และซอสสูตรของ Paper Butter และแบบสุดท้ายที่เราว่าน่าสนใจและเด็ดสุดของที่นี่ ก็คือ “Chiangmai Spicy Burger” เบอร์เกอร์เนื้อที่หมักผสมพริกลาบจากทางภาคเหนือ บวกด้วยเชดด้าร์ชีส ผักกรีนโอ๊ค มะเขือเทศ หัวหอมทอด มะนาว ซอสสูตรเด็ดของร้าน และหมูฝอยกรอบ ถ้าวันไหนใครผ่านมาแถวย่านอารีย์ และอยากหาร้านเบอร์เกอร์อร่อยๆนั่งทานกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ก็อย่าลืมลองแวะมาเช็คอินที่ร้านนี้กัน
ตั้งอยู่ที่: The Yard Bangkok พหลโยธิน 5 แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400 (เข้ามาในซอยพหลโยธิน 5 เลี้ยวซ้ายซอยแรก เข้าไปสุดซอย ร้านอยู่ทางขวามือ)
เปิดบริการวันจันทร์-เสาร์
เวลา: 11:00 น. – 22:00 น.
Website: https://www.facebook.com/PaperButter
หลังจากที่เราได้ inspiration ได้เต็มๆจากย่านสุดฮิปสำหรับคนทำงานแบบในแบบ “Be Progressive” กับย่านอารีย์ด้วย New MG5 ทีมงานอยากเล่าประสบการณ์กับการขับขี่ไปในที่ต่างๆ มาทั้งวัน เรื่องความสวยงามภายนอกคือประทับใจพวกเราทุกคนตั้งแต่แรกเห็น เป็นรถที่ดูหล่อแบบผู้ดีอังกฤษ มีกลิ่นความเป็นสปอร์ต คาร์ และโฉบเฉี่ยว สมกับที่มีเชื้อสายรถแข่งของอังกฤษ น่าจะถูกใจชาว Urban อย่าง Dooddot แน่นอน แต่ความน่าสนใจของตัวนี้คือการที่ MG5 มากับ “ตัวถังและห้องโดยสารขนาดใหญ่กว่ารถในรุ่นเดียวกันมาก ชนิดที่ว่าถ้าไปนั่งรถในระดับเดียวกัน MG5 กินขาดในเรื่องห้องโดยสารภายใน ส่วนการตกแต่งภายในเรียบเท่ แบบผู้ดีอังกฤษ และก็มีของเล่นสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันที่อยู่ในรถ เช่น หน้าจอแบบ Touch Screen สำหรับเครื่องเสียงระบบสัมผัสหรือการแสดงผลต่างๆ และระบบ inkaNet ที่มี Function ต่างๆ เชื่อมต่อ Smart Phone ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นรถยนต์ที่ฉลาดล้ำและเหมือนว่าโลกยุคดิจิตัลอยู่ในมือเรา ถึงขั้นเราสั่งการรถยนต์ผ่านมือถือกันได้แล้วในวันนี้
ส่วนเรื่องสมรรถนะ เป็นรถเล็กขับสนุก เราได้ทดลองขับเครื่องยนต์แบบ Turbo ชึ่งอัตราการเร่ง การออกตัวหรือการขับขี่ในระยะใกล้หรือไกลตอบสนองต่อการเบรคหรือเร่งได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเร่ง จะแซง ขับช้าหรือขับเร็วเรียกว่าตอบสนองได้อย่างใจเลยทีเดียว
ระบบความปลอดภัยเราครบครัน ที่เห็นชัดสุดคือ Airbag คู่หน้าที่ให้มาในทุกรุ่น นอกเหนือจากนี้จาก checklist ที่เราเห็นระบบความปลอดภัยเรียกว่าจัดมาแน่นๆ ทุกการขับขี่จึงมั่นใจได้เต็มที่เลยทีเดียว
*MG5 วางจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น
– MG5 1.5L รุ่น D ราคา 649,000 บาท
– MG5 1.5L รุ่น X พร้อมซันรูฟ ราคา 699,000 บาท
– MG5 เทอร์โบ 1.5L รุ่น D ราคา 719,000 บาท
– MG5 เทอร์โบ 1.5L รุ่น X พร้อมซันรูฟ ราคา 759,000 บาท
ชาว dooddot ที่สนใจลองเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โชว์รูม MG ทั่วประเทศ หรือ
Website: http://www.mgcars.com/th/Home
Facebook: https://www.facebook.com/MGcarsThailand/
Writer: Thip S. Selley
Photographer: Kongkarn Sujirasinghakul
RECOMMENDED CONTENT
น่าจับตามองมากที่สุด สำหรับศิลปินคู่หูอินดี้ป๊อปอย่าง “Landokmai” (ลานดอกไม้) ประกอบด้วย “อูปิม - ลานดอกไม้ ศรีป่าซาง” (ร้องนำ) และ “แอนท์ - มนัสนันท์ กิ่งเกษม” (กีตาร์, คอรัส) สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) ด้วยความชัดเจนโดดเด่นทางด้านดนตรีที่ผสมผสานความเป็น Dream-pop และความวินเทจแบบ Lo-fi ไว้ด้วยกันได้อย่างมีเสน่ห์