fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

Social Calendar: 16 – 23 July 2015
date : 16.กรกฎาคม.2015 tag :

Social Calendar 16 - 23 July-dooddot-01

เทศกาลหนังสือกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1

บริษัท บุ๊คโมบี้ จำกัด ร่วมกับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรงุเทพมหานคร (BACC) กําหนดจัดงาน เทศกาลหนังสอืกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1 (Bangkok Book Festival 2015) ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย  ระหว่างวันที่ 17-19 กรกฎาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 11:00 – 17:00 น. ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรงุเทพมหานคร โดยพื้นที่หลักจะอยู่บริเวณโถงชั้น L (หน้าห้องสมุด) และมีกจิกรรมอื่นๆ ที่ห้องเอนกประสงค์ชั้น 1 และ ร้านหนังสือ Bookmoby Readers’ Café ชั้น 4 

การจดังานเทศกาลหนังสือกรงุเทพมหานคร ครั้งที่ 1 (Bangkok Book Festival 2015) เป็นการนําเสนอมิติทางศิลปะ ความเป็นงานฝีมือ และความพิถีพิถันในการผลิตหนังสือสู่การรับรู้ของสังคม ผ่านสํานักพิมพ์และกลุ่มคนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปะการทําหนังสือ ทั้งสํานักพิมพ์ โรงพิมพ์ งานด้านกระดาษ  งานออกแบบ บรรณาธิการ ร้านหนังสือ นักเขียน นักแปล นักวจิารณ์ นักวาดภาพประกอบ นักทําหนังสือ ทํามือ ฯลฯ  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้นักอ่านและคนรักหนังสือ มีโอกาสได้พบปะพดูคุย แลกเปลี่ยน และทําความเข้าใจต่อมิติต่างๆเหล่านี้จากผู้สร้างสรรค์โดยตรง 

ในงานเทศกาลพบกับนิทรรศการผลงานการออกแบบปกหนงัสือจากคุณ ช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทศันศิลป์ (จิตรกรรม) ประจําปี พ.ศ.2556 ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบหน้าปก ภาพประกอบ และรูปแบบตัวอักษรด้วยลายเส้นที่เอกลักษณ์เฉพาะตวั ให้กับหนังสือทรงคุณค่ามากมาย   

มีการออกบธูแสดงผลงานและจำหน่ายหนังสือจากกว่า 30 สํานกัพิมพ์ซึ่งแต่ละที่ที่คัดสรรมาโดยส่วนใหญ่เป็นสํานักพิมพ์ “ขนาดเล็ก” หรือ “อิสระ” มีเอกลักษณ์เฉพาะ มีแนวทางของตนเอง หรือมีการทดลองสร้างสีสันแปลกใหม่ให้กับวงการหนังสือ  แม้จะมกีารขายหนังสือในงาน แต่เทศกาลหนังสือกรุงเทพมหานครครั้งนี้  ไม่ใช่งานที่มุ่งเน้นการออกบูธเพื่อจำหน่ายหนังสือ (เป็น “book festival” ไม่ใช่ “book fair”) เพราะหนังสือที่นำมาล้วนเป็น “หนังสือพิเศษ” ที่แต่ละสํานักพิมพ์คัดสรรมาเป็นอย่างดีและจัดพิมพ์ในจํานวนจํากัดเพื่องานครั้งนี้เทานั้น 

กิจกรรมภายในงาน มีการเสวนาหัวข้อที่เกี่ยวกับวงการหนังสือจากทั้งนกัเขยีน นักออกแบบ นักผลิต นักสร้างสรรค์ และพิเศษสุดกับการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และนําเสนอความคิดเห็นจากวิทยากรต่างวัฒนธรรม โดยบคุลากรผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลที่มาร่วมงานคือ Ume Kayo หนึ่งในช่างภาพร่วมสมยัที่โด่งดังในญี่ปุ่น มีผลงานหนังสือภาพถ่าย “Ume-me” ที่ขายดีเป็นปรากฏการณ์ และ Kenny Leck เจ้าของร้านหนังสืออิสระชื่อดัง BooksActually จากประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปการสร้างสรรคศิลปะการทํา หนังสืออย่างรอบด้าน   

วันที่: 17-19  กรกฎาคม
สถานที่: หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรงุเทพมหานคร BACC
Website: www.bangkokbookfestival.com

………………………………………………………………………………………………..

Social Calendar 16 - 23 July-dooddot-04

เทศกาลภาพยนตร์คัดสรร “Cinema Diverse: Director’s Choice 2015”

เทศกาลภาพยนตร์คัดสรรกลับมาอีกครั้งกับ 5 ภาพยนตร์นานาชาติที่คัดเลือกโดย 5 ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยชื่อดัง ร่วมรับชมภาพยนตร์จากหลากหลายประเทศพร้อมพูดคุยภาษาภาพยนตร์กับผู้กำกับทั้ง 5 ภายหลังการฉาย

กิจกรรมนี้จะจัดขึ้นทุกสองเดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคม – พฤศจิกายน  2558 สำหรับการจัดฉายครั้งที่สาม ในวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม 2558 พบกับภาพยนตร์จากประเทศฟิลิปปินส์ How to Disappear Completely (2013) กำกับภาพยนตร์โดย รายา มาร์ติน และคัดสรรโดย ลี ชาตะเมธีกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทยเจ้าของผลงานภาพยนตร์เรื่อง ภวังค์รัก

How to Disappear Completely ได้รับทุนสร้างจาก Hubert Bals Production Fund และคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาล Cinemanila International Film Festival ประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ อาทิ Rotterdam International Film Festival ประเทศเนเธอร์แลนด์, Locarno International Film Festival ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และ Minneapolis St. Paul International Film Festival ประเทศสหรัฐอเมริกา

How to Disappear Completely เป็นเรื่องราวของครอบครัวเล็กๆ มีพ่อขี้เมากับแม่ผู้เคร่งศาสนา และลูกสาววัยแรกแย้มที่อาศัยอยู่ในกระท่อมไม้โทรมๆ บนเกาะลึกลับแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ ท่ามกลางธรรมชาติที่ดูแปลกปลอมสังเคราะห์ เหมือนดนตรีประกอบแนวอิเล็กโทรนิกที่ผสมผสานกับนิทานพื้นบ้าน หลอดไฟนีออน การแสดงในโรงเรียน และประวัติศาสตร์อันยุ่งเหยิง Raya Martin สร้างโลกที่อยู่ระหว่างความจริงกับความฝัน เล่านิทานกล่อมเด็กที่ทำให้ผู้ใหญ่ต้องสยอง และทำลายความบริสุทธิ์ด้วยความตาย จนทุกสิ่งได้หายสาบสูญไป” ลี ชาตะเมธีกุล

วันที่: 18  กรกฎาคม
เวลา: 16:30 น. – 20:00 น.
สถานที่: หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรงุเทพมหานคร BACC
Website: www.bacc.or.th/event/Cinema-Diverse-Directors-Choice-2015-3.html

………………………………………………………………………………………………..

Social Calendar 16 - 23 July-dooddot-02

Black & White Market

Dell เนรมิต The Jam Factory ให้เป็น Black & White Weekend Market ให้เหล่า Hipsters ทั้งหลายได้มาปลดปล่อยความเป็นตัวเอง โดยใช้สีโทนขาวดำ สไตล์ Minimal และ Modern Classic ตลอดกาล โดยในงานได้รวมทุกความฟินเอาใจนักช๊อปในสไตล์ Black & White ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าแฟชั่น แบรนด์ดังจาก Instragram & Facebook รวมถึง Accessories เก๋ๆ ของ Handmade และอื่นๆอีกมากมาย พร้อม Workshop สำหรับคนที่ชอบงาน Art งานศิลปะ และยังได้เพลินไปกับดนตรีในสวนติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และงานนี้ Dell ยังได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุดที่มาใน Concept สีขาวและสีดำ พร้อมกิจกรรมและของรางวัลสุดพิเศษอีกมากมาย

วันที่: 18-19 กรกฎาคม
สถานที่: The Jam Factory คลองสาน
Website: www.facebook.com/DellThailand

………………………………………………………………………………………………..

Social Calendar 16 - 23 July-dooddot-03

BRANDNEW 2015

เพื่อสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ให้มีโอกาสพัฒนาผลงานสร้างสรรค์ของตัวเองอย่างอิสระเดอะแจม แฟคตอรี่ คอมมูนิตี้ของคนรุ่นใหม่ย่านคลองสาน ร่วมกับ หอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดแสดงนิทรรศการโครงการศิลปกรรม “BRANDNEW 2015” เวทีศิลปะระดับคุณภาพที่สร้างศิลปินคลื่นลูกใหม่สู่วงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 โดยนำเสนอผลงานประติมากรรมของ   ฐิติรัตน์ สกุลตันติเมธา นักออกแบบกราฟิกและศิลปินรุ่นใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ศิลปินที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมในโครงการนี้ สำหรับผลงานประติมากรรมของศิลปินดังกล่าวเป็นการนำรูปแบบของความไม่สมบูรณ์ความบอบบางของวัสดุและบางส่วนที่หายไปของของใช้ในชีวิตประจำวันถูกทดแทนด้วยร่องรอยของความทรงจำที่ยังคงอยู่เพื่อแสดงออกถึงผู้ที่สูญเสียบุคคลใกล้ชิด ตั้งแต่ วันที่ 23 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2558 โดยจัดงานพิธีเปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการ ในวันพฤหัสบดี ที่ 23 กรกฎาคม นี้ เวลา 19.00 น. ณ เดอะ แจม แฟคตอรี่

วันที่: 23 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม
สถานที่: The Jam Factory คลองสาน
Website: www.facebook.com/TheJamFactoryBangkok

RECOMMENDED CONTENT

14.ธันวาคม.2020

‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ  ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย