fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

Miquel Barceló ความนึกคิดผ่านการบรรเลงศิลปะภาพวาดที่มีชีวิต สู่ความว่างเปล่า กับการแสดงศิลปะครั้งแรกในโลก ใจกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในงาน “Sansiri presents Miquel Barceló : DESPINTURA FÒNICA”
date : 17.ตุลาคม.2018 tag :

แสนสิริพาคุณเข้าสู่ประสบการณ์งานศิลปะระดับเวิลด์คลาสที่หาชมได้ยากยิ่ง กับการแสดงผลงานศิลปะแสดงสดร่วมสมัย (Live Art Performance) โดยมิเกล บาร์เซโล” (Miquel Barceló) ศิลปินระดับโลกจากสเปนหลังจาก

ที่ตระเวนจัดแสดงงานเฉพาะตามแลนด์มาร์กจุดสำคัญทั่วโลกเท่านั้น และนี่คือครั้งแรกของเขากับการแสดงงาน ในประเทศไทย เขาเลือกที่จะร่วมกับแสนสิริ เพื่อจัดแสดงงานแบบสดๆกับภาพวาดที่มีชีวิตต่อหน้าผู้ชมในใจกลางแม่น้ำเจ้าพระยา แลนด์มาร์กของประเทศไทยในงาน “Sansiri presents Miquel Barceló : DESPINTURA FÒNICAวันที่ 1-2 พฤศจิกายนนี้ ด้วยคอนเซ็ปต์ “Live Painting Experiment with Music” เทคนิคการเพ้นต์ภาพแบบสดๆ บนผืนผ้าแคนวาสผลิตพิเศษขนาดยาวกว่า 20 เมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เขาเคยจัดแสดงงานมา น้ำหมึกพิเศษที่ปรากฏสีขึ้นจากการสัมผัสบนเท็กซ์เจอร์ของผ้า การสะบัดฝีแปรง และภาพวาดที่ปรับเปลี่ยนได้และเลือนหายไปสู่ความว่างเปล่า บนสตูดิโอกลางแจ้งที่ล่องตามสายแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมทัศนียภาพอันงดงามที่รายรอบตลอดสองฟากฝั่ง สำหรับการแสดงงานครั้งแรกในเมืองไทยนี้ เป็นแลนด์มาร์กล่าสุดหลังจากที่เขาได้ไปจัดแสดงผลงานที่ Nijo Castle เมืองเกียวโตประเทศญี่ปุ่น และในประเทศสเปน ที่บาร์เซโลนา และซาลามังกา (Salamanca)

Miquel Barceló เป็นชาว Catalan (แคว้นปกครองอิสระในประเทศสเปน) เกิดเมื่อปี 1957 ที่ Felanitx บนเกาะ Mallorca เกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสเปน โดยได้รับสายเลือดศิลปินแบบเต็มๆ มาจากแม่ที่เป็นจิตรกรวาดงานแลนด์สเคปแบบดั้งเดิมของท้องถิ่น จุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้เขาหลงใหลในงานเพ้นต์ภาพแบบอะวองการ์ด คือ การเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกไปยังปารีส ที่นั่นเขาได้พบกับผลงานภาพเขียนจากจิตใต้สำนึกแนวดิบๆ ของ Jean Dubuffet – Art Brut และ Art Informel ซึ่งทำให้เขามุ่งหน้าสู่เส้นทางศิลปะอย่างจริงจังด้วยการเข้าเรียนที่ Decorative Arts School ใน Palma de Mallorca และ The School of Fine Arts ในบาร์เซโลนา ในช่วงปี 1975

หลังจากเรียนจบและกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด เขาได้เข้าร่วมกับขบวนการอะวองการ์ดที่ชื่อว่า Taller Lunatic ผลงานของเขาเล่นกับงานเชิงคอนเซ็ปต์ชวลที่เข้าไปค้นหาเนื้อแท้และการเน่าเปื่อยของวัสดุ เช่น กล่องไม้หรือกล่องกระจก  ที่บรรจุอาหารและพืชพรรณและเฝ้ามองดูมันเสื่อมสลายลง ในปี 1981 เขาได้เข้าร่วมใน São Paulo Art Biennial หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับการขนานนามให้เป็นหนึ่งในศิลปินชั้นแนวหน้าของสเปนจากการที่ได้เป็นตัวแทนของสเปนในการจัดแสดงนิทรรศการ Documenta 7 ใน Kassel ประเทศเยอรมันในช่วงปี 1982 ซึ่งเป็นงานแสดงศิลปะที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของศิลปะสมัยใหม่และศิลปะร่วมสมัยจัดขึ้นทุกๆ ห้าปี ซึ่งตลอดช่วงนั้นนับได้ว่าเขาคือ ส่วนหนึ่งของขบวนการ Neo-Expressionist และได้เดินสายแสดงงานในหลากหลายประเทศ

แนวคิดการทำงานของเขาเริ่มค่อยๆ เปลี่ยนไปอีกครั้งจากประสบการณ์ที่พบเจอ เขาเลือกที่จะตัดเรื่องเล่าต่างๆ ออกจากภาพวาด และเริ่มเดินทางต่อไปใช้ชีวิต สถานที่ต่างๆ อย่างทะเลทรายซาฮาร่าเป็นเวลา 6 เดือน และหลายปีที่ปารีส บาร์เซโลนา นิวยอร์ค ประสบการณ์จากวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมที่น่าทึ่งปลุกเขาให้เกิดแรงบันดาลใจบทใหม่จากทั้งแสงอาทิตย์ของแอฟริกัน ผืนดินที่ไหม้เกรียม และภูมิประเทศแบบเขาหิน เกิดเป็นผลงานที่สร้างเป็นเท็กซ์เจอร์บนผืนผ้าใบที่รุนแรงเหมือนกับผืนทรายที่เคยได้ใช้ชีวิตอยู่ ตั้งแต่ทริปแรกที่มาลี เขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ที่ไม่มีไฟฟ้าและน้ำใช้ นั่นทำให้เขาซาบซึ้งถึงวัฒนธรรมและความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ของโลกใบนี้จนกลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เกิดเป็นภาพวาดชุดพอร์ตเทรตของผู้คนและฉากหลังในชีวิตประจำวันของแอฟริกา

แอฟริกาทำให้ผมเห็นทุกอย่างกระจ่างแจ้ง ปฏิกิริยาแรกเมื่อผมไปถึงที่มาลี คือ ข้าวของอะไรก็ใช้ไม่ได้เลย ซึ่งเทียบกับปารีสหรือมาลอร์กา แม้จะวาดภาพในสตูดิโอแบบเดียวกันแต่ผมก็ลืมเรื่องอื่นไปสนิท แต่ที่มาลีผมได้กลับไปสื่อสารกับแก่นแท้ของอากัปกิริยาขณะที่วาดภาพ

เขารอนแรมใช้ชีวิตในประเทศต่างๆ ตามวิสัยของศิลปินผู้ไม่ชอบหยุดอยู่กับที่ เช่นเดียวกับผลงานศิลปะของเขา ซึ่งสื่อสารผ่านสื่อกลางหลายแบบ ทั้งภาพวาดบนกระดาษ เซรามิก และทองแดง แล้วยังทำการทดลองผลงานเพ้นต์บนวัสดุต่างๆ ต่อไปไม่มีหยุด ร่วมไปกับธีมของการวาดงานที่เข้าใกล้กับสัมผัสความงามตามธรรมชาติของโลกและเอ็กเฟ็กต์จากแสงที่สร้างมุมมองที่แตกต่างในสถานที่เดิม

ภาพวาดของเขาถูกขยายออกจากสเกลที่เพียงแค่อยู่บนผืนผ้าใบหรือกระดาษ สู่อาคาร สถานที่ และเทศกาลต่างๆในสเกลใหญ่แบบโอเวอร์ไซส์ ตัวอย่างเช่น งานศิลปะในองค์การสหประชาชาติในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งประกอบด้วยงานประติมากรรมขนาดยักษ์ที่ติดตั้งในฝ้าโดมภายในห้องประชุมบนพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ราวกับเป็นหินย้อยหลากสีที่หยดลงมาจากฝ้าเพดาน ซึ่งต้องใช้สีถึง 100 ตันเพื่อสร้างผลงานชิ้นนี้ พ่นด้วยสีเทาอมฟ้า ซึ่งช่วยสร้างมุมมองรูปแบบใหม่ และในบางมุม ท้องฟ้านี้ก็เป็นฉากหลังให้กับงานอินสตอลเลชั่นที่ฉาบแสงสีรุ้งออกมา ผลงานทั้งหมดแสดงถึงมุมมองต่อประเด็นบนพื้นที่การประชุมของ UN ซึ่งสื่อถือการที่ควรพิจารณาจากหลายๆ มุมมองที่แตกต่างกัน ผลงานชิ้นนี้ของเขามีมูลค่ากว่า 23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 800 ล้านบาท)

อีกหนึ่งผลงานประติมากรรมขนาดยักษ์ของมิเกล บาร์เซโล ในองค์การสหประชาชาติที่นครเจนีวา

เครดิตภาพ : CEILING OF THE HUMAN RIGHTS AND ALLIANCE OF CIVILIZATIONS ROOM – UNITED NATIONS GENEVA, 2008 © Agustí Torres, 2008

ปัจจุบัน Barceló ยังคงตระเวนจัดแสดงผลงานกลุ่มและเดี่ยวในพิพิธภัณฑ์และเทศกาลต่างๆ ทั่วโลกอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะพื้นที่แลนด์มาร์กสำคัญๆ ของโลก ผลงานของเขายังถูกรวมอยู่ในหอศิลป์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เช่น Galerie Bruno Bischofberger และ Leo Castelli รวมทั้งภาพวาดของเขาที่ถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ในกรุงปารีสเมื่อปี 2004 นับว่าเป็นศิลปินอายุน้อยที่สุดที่ได้จัดแสดงงานที่นี่ มิเกล บาร์เซโล ยังถือว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดศิลปินของโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยได้รับเกียรติไปแสดงผลงาน ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมเซนเตอร์ปอมปิดู (Center Pompidou) กรุงปารีส ในปี 1996

และงานศิลปะระดับโลกที่หาชมได้ยากนี้ กำลังจะมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในแลนด์มาร์กของประเทศไทย ซึ่งมีความพิเศษสุดตรงที่เป็นงานเพ้นต์ภาพที่มีชีวิตแบบเพอร์ฟอร์แมนซ์อาร์ตบนผืนผ้าแคนวาสผลิตพิเศษขนาดยาวกว่า 20 เมตร ต่อหน้าผู้ชม ด้วยเทคนิคน้ำหมึกพิเศษที่ปรากฏสีขึ้นจากการสัมผัสบนเท็กซ์เจอร์ของผ้าเส้นสายที่ค่อยๆเกิดขึ้นจากเทคนิคเฉพาะตัวศิลปินที่สะบัดฝีแปรงจากอุปกรณ์การเพ้นท์หลากหลายรูปทรง ภาพวาดจะปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามจินตนาการของศิลปิน และสภาพอากาศขณะแสดงไม่ว่าจะเป็นแสงแดด สายลม ที่จะทำให้มุมมองของภาพเปลี่ยน ทำให้ผู้ชมได้รู้สึกเดินทางร่วมไปกับจินตนาการของศิลปินแบบเต็มๆ เมื่อจบการแสดงภาพทั้งหมดก็จะเลือนหายไป สะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมของทุกสิ่งที่เริ่มต้นจากความเรียบง่ายและกลับคืนไปสู่ความเรียบง่ายว่างเปล่าเหมือนเช่นเดิม เพื่อให้ผู้ชมทุกคนกลับไปพร้อมกับความทรงจำที่ดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในคอนเซ็ปต์ของการแสดงงานด้วยเทคนิคที่โดดเด่นเฉพาะตัวและไม่เหมือนใคร

“Sansiri presents Miquel Barceló : DESPINTURA FÒNICA” จะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยรอบวันที่ 1 พฤศจิกายน สำหรับคนในแวดวงอาร์ตหรือผู้ที่สนใจงานศิลปะได้ขึ้นชมงานแสดงบนเรือ และรอบวันที่ 2 พฤศจิกายน เป็นรอบพิเศษสื่อมวลชนและ VIP โดยเริ่มออกจากท่าเรือธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย เวลา 15.30 . และกลับถึงท่าเรือเวลา 16.30 . รวมทั้งสามารถชมนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปินและผลงานของเขา ทั่วโลกได้ที่ท่าเรือธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย

อัพเดตรายละเอียดของงานพร้อมกับลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ www.facebook.com/sansirifamily

#MiquelBarceloBKK #SansiriArts

RECOMMENDED CONTENT

10.พฤศจิกายน.2020

กุชชี่นี่มันกุชชี่จริงๆ! ล่าสุด Gucci ได้กลับมาพร้อมกับแคมเปญ Gucci Gift Giving Collection ต้อนรับบรรยากาศ Festive ช่วงปลายปีแบบนี้ โดยปีนี้ มาในธีม 'Gucci Holiday Office Party' ที่จำลองออฟฟิศยุค 80s ในช่วงก่อนเวันหยุดยาวที่เหล่าพนักงานพร้อมสำหรับปาร์ตี้แสนคึกคัก ซึ่งไอเดียเก๋ๆ ของ Gucci ยุค 4.0 อย่างนี้ ไม่บอกก็คงพอเดากันได้ว่ามาจากใคร ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ อเล็ซซานโดร มิเคเล่ (Alessandro Michele) คนดีคนเดิมนั่นเอง