ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่คงไม่มีใครไม่รู้จัก Rolex นาฬิกาที่เป็นมากกว่านาฬิกา มันคือเครื่องหมายแห่งความสำเร็จและคุณผู้ชายที่มั่งคั่ง ถือเป็นภาษาสากลที่ทั้งโลกต่างเข้าใจกันดี หลังจากการประมูลที่ Christie’s (งานประมูลของล้ำค่าโดยเฉพาะงานศิลปะระดับโลกที่มีเงินหมุนเวียนเยอะที่สุด) กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้สดๆร้อนๆ บรรดามหาเศรษฐีนักประมูลก็ได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ พากันผลักให้ราคา Rolex ที่แพงที่สุดในโลกตอนนี้พุ่งไปสูงถึง 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เรียบร้อยแล้ว วัดเป็นเงินไทยก็ประมาณเกือบ 39 ล้านบาท! (เอื้อก! กลืนน้ำลายหนึ่งที) เราจึงคิดว่านี่คงเป็นโอกาสดีที่จะอัพเดตราคานาฬิกา Rolex ที่แพงที่สุดในโลกจำนวน 10 เรือนให้ฟังกัน…
อันดับ 10. Steve McQueen 1967 Rolex 5512 Submariner
นาฬิกาของ “King of Cool” Steve McQueen เรือนนี้ แตกต่างไปจาก Rolex Submariner ทั่วไปตรงที่มันเป็นรุ่นผลิตในอเมริกา และผลิตขึ้นในช่วงก่อนปี 70’s อาจจะคล้ายคลึงกับ 5513 ที่ราคาแพงเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเป็น 5512 แต่เรือนที่ราคาจะพุ่งไปถึงขนาดนี้ได้ คงต้องเป็นเฉพาะเรือนที่ King of Cool ออกตัวเลยว่าใส่มันตลอดเวลาในชีวิตประจำวันเท่านั้น การันตีได้จากเล่นหนังกี่เรื่องๆก็เห็นอยู่บนข้อมือ จนถึงเรื่องสุดท้าย The Hunter (1980) ก็ยังใส่ให้เราเห็นได้ถึงฉากจบ ตามชื่อรุ่น Submariner มันสามารถลงน้ำได้ 200 เมตร (จากผิวน้ำ) ราคาจากการประมูลคือ $234,000 (ประมาณ 7.6 ล้านบาท)
อันดับ 9. Paul Newman Ferrari Red Rolex Daytona 6565
ผ่าน Steve McQueen มาแล้ว ก็ถึงตาของ Paul Newman กันบ้าง (หรือนี่มันแปลว่าคนเท่ต้องใส่ Rolex เท่านั้น!) ถ้าถามคนเล่นนาฬิกา Rolex ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก Rolex Daytona รุ่น Paul Newman กันทั้งนั้น ไม่ใช่ชื่อรุ่นแท้ๆ แต่มันคือรุ่นที่ Paul Newman ชอบใส่ กล่าวคือความแตกต่างจากรุ่น Daytona ทั่วไปก็ตรงที่หน้าปัดเท่านั้น มีฟอนต์ตัวเลขที่เห็นแล้วรู้เลยว่าต้องเป็นรุ่น Paul Newman แน่ๆ และในหนังเรื่อง The Winning (1969) เป็นบทบาทที่เขาเป็นนักขับรถแข่ง (เท่มาก) และรถที่ขับเป็นของ Ferrari ทาง Rolex เลยทำรุ่นพิเศษที่ว่านี้ขึ้นมาเป็นหน้าปัดขนาด 37mm และเป็นสีแดงล้วน ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นหายากที่ตอนนี้คาดว่า ราคาอยู่ที่ประมาณ $267,203 (เป็นเงินไทยก็เกือบ 8.7 ล้านบาท)
อันดับ 8. Rolex Platinum Pearlmaster 18956
รุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษที่ Rolex ทำออกมา มีหน้าปัดกว้างขนาด 39mm ถือเป็นรุ่นที่หรูหราที่สุดในโมเดล Pearlmaster เพราะทั้งเรือนถูกประดับไปด้วยเพชรตัดเหลี่ยมแบบพิเศษทั่วไปหมดทั้งหน้าปัดและตัวเรือน ตอนออกมาตั้ง ราคาไว้ที่ $276,000 (เกือบ 9 ล้านบาท)
อันดับ 7. Dr. Rajendra Prasad’s Gold Rolex Oyster
นาฬิกา Rolex เรือนทองของ Dr. Rajendra Prasad ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศอินเดีย ที่ Rolex ทำขึ้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะมอบให้ในวันคล้ายวันชาติครั้งแรกของอินเดีย ในปี 1950 แค่บอกเท่านี้คงไม่ต้องสาธยายคุณสมบัติความหายากกันให้มาก กับหน้าปัดที่เป็นทองคำรวมแล้ว 18K ตัวเลขที่เป็นเอกลักษณ์และยังมีแผนที่ประเทศอินเดียไว้พร้อมสลักลงวันที่เสร็จสรรพ 26 January 1950 แบบนี้นักประมูลจะอดใจยังไงไหว ตัวเลข ราคาไปตกลงอยู่ที่สูงถึง $440,000 (14.3 ล้านบาทไทย)
อันดับ 6. James Bond 1973 Rolex 5513
เอาล่ะ นี่มาถึงแค่อันดับ 7 ก็เหยียบไปเกิน 10 ล้านกันแล้ว มาถึงตำแหน่งที่ 6 มันคือ Rolex 5513 Submariner รุ่นพิเศษที่ใช้ในหนัง James Bond ภาค Live or Let Die พระเอกตอนนั้นยังเป็น Roger Moore อยู่ เป็นที่พูดกันว่า (ก็ดูเอาจากในหนังนั่นล่ะ) นาฬิการุ่นนี้มีใบมีดชนิดพิเศษซ่อนไว้ใช้ตัดเสื้อผ้าผู้หญิง เลื่อยตัดสิ่งของได้ และสามารถสร้างสนามพลังแม่เหล็กเอาไว้ใช้หลบกระสุนได้ด้วย ซึ่งถ้าคำแนะนำจากเราขอแนะนำว่าตัดเสื้อผ้าพอรับได้ แต่ถ้าเอาไปใช้หลบกระสุนจริงๆ กระโดดหลบน่าจะคุ้มกว่า แต่โดยรวมแล้วนอกเหนือจากฟังก์ชั่นในหนังแล้ว นาฬิกาเรือนนี้ก็ถือว่ามีความสวยงาม และมีประวัติศาสตร์อัดแน่นจริงๆ ราคาของมันก็คือ $450,000 (14.6 ล้านบาท)
อันดับ 5. Rolex GMT 116769TBR
เรือนนี้น่าจะอธิบายคำว่าไอเทม Luxury ได้ดีที่สุดแล้วในลิสต์ ถือเป็นนาฬิกาที่ Rolex ทำออกมาขายส่งตรงจากโรงงานราคาแพงที่สุด (ไม่จำเป็นต้อง Vintage หรือประมูลอะไรให้เสียเวลาทั้งนั้น) นำเสนอด้วยตัวเรือนประดับด้วยเพชรเม็ดกลมรวมทั้งสิ้นจำนวน 76 เม็ด มีหน้าปัดบอกเวลาและเข็มสั้นเข็มยาวที่มองเห็นในที่มืด ถ้าหากยังคิดว่ายังขาวหรูไม่พอ พวกเขาตกแต่งสายนาฬิกาด้วยทองคำขาว 18K และที่น่าทึ่งก็คือ มันกันน้ำได้ลึก 100 เมตร สำหรับเศรษฐีที่ล่องเรือในทะเลแล้วอยากลงไปดำน้ำคลายเส้น… วาดภาพไปไกลแต่ถ้าถามส่วนตัวคนเขียนคงไม่กล้าลงน้ำ อย่าว่าแม้แต่จะใส่เดินยังไม่กล้าเลยดีกว่า เพราะราคาทั้งหมดเบ็ดเสร็จแล้วอยู่ที่ $485,350 (ครับ 15.8 ล้านบาท)
อันดับ 4. Eric Clapton’s 1971 Rolex Daytona
มีชื่อคนดังลอยขึ้นมาอีกแล้ว กับนาฬิกา Rolex Daytona ของมือกีตาร์ฉายา Slowhand อย่างมิสเตอร์ Eric Clapton (ทำความรู้จักกับเขาเพิ่มเติมได้ที่คอลัมน์นี้ https://www.dooddot.com/eric-clapton-live-in-bangkok-2014/) นาฬิการุ่นปี 1971 นี้มีชื่อเรียกว่า “Albino” เป็นนาฬิกาที่มีโทนสีเดียวคือสีเงินและดำ ถึงแม้จะไม่ได้มีเพชรเม็ดโตประดับเหมือนเรือนที่แล้ว แต่ด้วยความที่อยู่บนข้อมือของมือกีตาร์สำเนียงหวานคนนี้ตลอดเวลา ราคาประมูลเลยพุ่งไปสูงถึง $505,000 (16.5 ล้านบาท)
อันดับ 3. Rolex Daytona Ref 6263 “Paul Newman”
มี Rolex Daytona ของ Paul Newman มาให้เห็นในลิสต์กันอีกแล้ว นี่เป็นอันดับใหม่ที่เพิ่งมีเมื่อปลายปีที่แล้ว เป็นราคาที่เกิดขึ้นในงานประมูลจัดพิเศษ ประมูลกันเฉพาะ Rolex Daytona ของ Christie’s เป็นการรวม Daytona ของคนดังกว่า 50 ชีวิต และหนึ่งในนั้นคือ Rolex Daytona 6263 หน้าปัดสีดำ ที่ถือเป็นรุ่นหายากสุดๆที่กล่าวว่าผลิตออกมาเพียงไม่กี่เรือน และมีเอกลักษณ์ขนาดที่ต้องสังเกตถึงจะเห็นคือ ตัว R ตรงชื่อ Rolex บนหน้าปัดจะมีฟอนต์ขนาดใหญ่กว่าปกติ ถึงแม้ 6263 หน้าปัดสีขาวปกติจะมีให้เห็นในตลาดซื้อขายนาฬิการาคาสูงกันอยู่บ้างในปัจจุบัน แต่สำหรับหน้าปัดสีดำนี้ถ้าโผล่ออกมา ราคาก็สูงเป็นประวัติการณ์อย่างในงานประมูลดังกล่าว ราคาสูงถึง 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (35.7 ล้านบาท)
*หมายเหตุ นี่เป็นราคาที่เกิดขึ้นจากการประมูล Rolex รุ่น Daytona ล้วน เพราะฉะนั้นในลิสต์ส่วนใหญ่อาจจะไม่รวมเรือนนี้เอาไว้ แต่ด้วยความที่ราคาพุ่งสูงถึงเกิน 1 ล้านดอลลาร์ เราจึงหยิบมารวมด้วย
อันดับ 2. 1942 Rolex Chronograph
ผลิตขึ้นในปี 1942 (แค่ปีก็ขนลุกแล้ว) ทำออกมาเป็นจำนวนแค่ 12 เรือน และมีชีวิตรอดในยุคปัจจุบันมีให้เห็นตอนนี้ 8 เรือน ประกอบด้วยหน้าปัดเงินและทองคำ บอกเวลาด้วยตัวเลขอารบิก มีเข็มวินาทีจำนวนสองเข็ม และฟังก์ชั่นอีกมากมายที่ถ้านับในปี 1942 นี่คือรุ่นคลาสสิคที่หายากและทรงคุณค่ามากๆ ผ่านงานประมูล Christie’s ด้วยราคา 1.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (37.7 ล้านบาท)
อันดับ 1. 1949 Oyster Perpetual model (with a cloisonné enamel dial)
มาถึงอันดับ 1 ของเรา แค่ดูรูปก็คงทึ่งกันแล้วแน่ๆเพราะมันไม่ได้มีเพชรหวือหวาอย่างที่คิดเลย ดูภายนอกคงสัมผัสได้ถึงความโบราณและความขลัง แต่นี่ไม่ใช่แค่ Rolex รุ่น Oyster Perpetual ปี 1949 ธรรมดาเท่านั้น มันเป็นเรือนพิเศษที่หน้าปัดตกแต่งด้วยภาพท้องทะเลวาดโดยใช้เทคนิคโบราณ Cloisonné Enamel ออกแบบโดย Marguerite Koch เป็นส่วนผสมที่งานศิลปะออกแบบโบราณและนาฬิกาดีไซน์เรียบหรูมาเจอกัน ส่งผลให้งานประมูลที่ Christie’s กรุงเจนีวา ปีล่าสุด มียอดประมูลนาฬิกา Rolex ที่แพงที่สุดเป็นสถิติใหม่ โดยราคาทะลุไปถึง $1,220,632 (เกือบ 40 ล้านบาท)
RECOMMENDED CONTENT
เรียกกระแสฮือฮาน้ำตาแตกกันสนั่นโลกโซเชียล สำหรับวงดนตรีอินดี้ป็อป 2 รุ่นอย่าง “Landokmai” (ลานดอกไม้) และ “Whal & Dolph” (วาฬ แอนด์ ดอล์ฟ) สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) ที่แฟนเพลงต่างเรียกร้อง