fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

แนะนำวิธีการแต่งตัวไปสัมภาษณ์งานสำหรับคุณผู้ชาย ให้ดูหล่อ เนี้ยบ ง่ายๆไม่มีพลาด
date : 16.กุมภาพันธ์.2015 tag :

คุณเห็นด้วยกับเราไหมว่า บางทีการ “dress for success” นั้นเป็นสิ่งสำคัญ? โดยเฉพาะในวันที่คุณต้องไปสัมภาษณ์งาน ที่แน่นอนว่าคุณควรแต่งตัวให้ออกมาดูหล่อเนี้ยบที่สุด และดูน่าเชื่อถือที่สุด ไม่ว่าคุณจะไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งอะไรก็ตามแต่ คุณควรเลือกชุดที่คุณมั่นใจว่า นี่แหละ สะท้อนถึงตัวตันและสไตล์ของตัวเองมากที่สุดแล้ว เพราะตอนที่นั่งสัมภาษณ์ถือเป็นช่วงเวลาที่คุณควรทำให้หัวหน้าในอนาคตของคุณประทับใจในตัวคุณมากที่สุด ไม่ใช่เฉพาะในความสามารถอย่างเดียว แต่ในเรื่องของเทสต์การแต่งตัวด้วยเช่นกัน ซึงนั่นมันก็ขึ้นอยู่กับการเลือกชุดที่คุณใส่ไปวันนั้นล้วนๆ เพื่อไม่ให้พลาด วันนี้เรามีคำแนะนำในการเลือกเสื้อผ้าสำหรับใส่ไปวันสัมภาษณ์งานสำหรับหนุ่มๆโดยเฉพาะมาฝากกัน ซึ่งหวังว่าคำแนะนำดังต่อไปนี้จะมีประโยชน์สำหรับคุณไม่มากก็น้อย

null

งานบริษัท/ออฟฟิศ 

ชุดสูท – สิ่งที่คุณต้องมี 

สูทคัตติ้งอย่างดีคือสิ่งที่ผู้ชายทำงานบริษัททุกคนเลือกใส่เวลาต้องเข้าประชุมเสมอ นั่นก็เพราะว่าสูทที่ดีสามารถใช้งานได้ทั้งในแง่ของทำให้รูปร่างของคุณดูภูมิฐานมากขึ้น (ช่วงไหล่ดูกว้างกว่าเดิม) และ – ถ้าคุณใส่สูทที่เข้ากับรูปร่างคุณพอดี – ยังสามารถทำให้คุณดูเป็นคนที่มีคาแรคเตอร์มั่นใจและดูเป็นคนที่ใส่ใจในเรื่องของรายละเอียดอีกด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังจะไปสัมภาษณ์งานในสายการบัญชีเป็นต้น คุณควรแน่ใจว่าวันนั้นลุคของคุณดูเนี้ยบ สะอาดสะอ้าน และที่สำคัญที่สุดคือ ดูเหมาะสำหรับงานสายนี้มากที่สุด อย่างเช่นสูทสีเทาที่ใส่ยังไงก็เซฟ

การที่จะใส่สูทให้ดูดีนั้น กุญแจสำคัญที่สุดเลยคือ “ความฟิตพอดีตัว” ซึ่งควรจะเป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนต้องรู้ดี แต่ก็น่าเสียดายที่ทุกวันนี้ยังมีผู้ชายจำนวนไม่น้อยเลยที่ยังพลาดเรื่องนี้อยู่ ฟิตพอดีตัวในที่นี้ เราไม่ได้หมายความว่าคุณต้องใส่สูทที่ฟิตตัวจนรัดแน่นไม่ทุกสัดส่วน แต่เราหมายถึงคุณควรใส่สูทที่มีไซส์ที่กำลังพอดีกับรูปร่างของคุณต่างหาก ถ้าคุณเลือกใส่สูทแบบมาตรฐานแบบหนึ่งกระเป๋าตรงหน้าอก และมีสองกระดุมเรียงลงมาเป็นแถวเดียว วิธีที่ง่ายที่สุดที่คุณจะมั่นใจได้ว่าสูทตัวนี้คือสูทที่ใช่ ก็คือดูว่ากระดุมบนนั้นอยู่เหนือสะดือคุณขึ้นไปหรือไม่

อีกหนึ่งบริเวณที่คุณผู้ชายทุกคนควรให้ความสำคัญก็คือช่วงแขนเสื้อ ที่ตรงปลายแขนควรอยู่ตรงที่ข้อมือของคุณแบบพอดิบพอดี ส่วนเรื่องของสีสูทก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน อย่างเช่นถ้าคุณเลือกใส่สูทสีเทา คุณก็ควรจะเลือกสูทสีเทาที่ดูขึ้นกับคุณมากที่สุดเช่นกัน ในขณะที่สูทสีเทาอ่อนได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ สูทสีเทาแบบ mid-grey นั้นมีความคลาสสิคและใส่ได้ในหลายโอกาสมากกว่า ไม่ใช่แค่สำหรับใส่ในออฟฟิศอย่างเดียว

เพื่อให้ได้ลุคที่หล่อเนี้ยบไม่มีพลาด เราแนะนำว่าให้จับคู่สูทของคุณกับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด เสร็จแล้วผูกเนคไทสีเทาที่มีเฉดสีเข้มหรืออ่อนกว่าสูทของคุณสักสองเฉด เพื่อให้ได้ลุคแบบ clean cut ดูสุขุม หรือถ้าคุณอยากได้ลุคที่ดูฮิปขึ้นมาอีกหน่อย ลองพับผ้าเช็ดหน้าลินินสีขาวใส่ในกระเป๋าเสื้อสูทก็จะดูเท่ขึ้นมาอีกระดับเช่นกัน

null

สูทสีเทา

สรุปแล้วไม่ว่าคุณจะเลือกใส่สูทสีเทาอ่อนหรือสีเทาเข้ม สูทสีนี้ใส่เมื่อไหร่ก็คลาสสิค ดูดี แถมยังใส่ได้ในหลายๆโอกาส ไม่ใช่เฉพาะตอนทำงานเท่านั้น

null

สูทสีน้ำเงินเนวี่ อีกตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

ชุดสูทอีกหนึ่งสไตล์ที่ดูดีและทันสมัยก็คือชุดสูทสีน้ำเงินเนวี่ ที่ควรเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับหนุ่มๆที่อยากมองหาชุดสูทสไตล์อื่นบ้างที่ไม่ใช่สูทสีดำหรือสีเทา สูทสีนี้เหมาะทั้งใส่สำหรับไปทำงาน รวมถึงเวลาไปสัมภาษณ์งานเช่นกัน เพราะมันจะช่วยทำให้คุณดูโดดเด่นเป็นที่น่าจดจำ อีกทั้งยังช่วยทำให้คุณดูเป็นหนุ่มที่มีความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเวลาไปสัมภาษณ์งาน

หากคุณเป็นหนุ่มที่ชอบแต่งตัว เน้นความเป็นโมเดิร์น ให้ลองใส่สูทที่มีเนื้อผ้าบางเบาอย่างเช่นผ้าคอตตอน มีทรงเข้ารูปแบบ single-breasted กระดุมแถวเดียว ปกเสื้อแบบ notch lapel และเพื่อให้ดูชาร์ปมากขึ้น ให้จับคู่สูทของคุณกับเสื้อเชิ้ตสีขาวผ้า chambray เนคไทเส้นเล็กสกินนี่ และรองเท้าหนังสีน้ำตาลทรง brogues แต่ถ้าคุณเป็นหนุ่มที่ชอบแต่งตัวแนว traditional วินเทจหน่อยๆ ให้ลองใส่สูทที่มีเนื้อผ้าหนาขึ้นมาหน่อยอย่างผ้าวูล ที่เป็นทรงแบบ double-breasted กระดุมสองแถว และปกเสื้อแบบ peak lapel ว่ากันว่าการใส่สูทแบบ double-breasted นั้นจะทำให้ผู้ชายดูภูมิฐาน และเต็มไปด้วยความแน่วแน่ มั่นใจ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เพอร์เฟกต์มากๆเวลาไปสัมภาษณ์งาน หรือเวลาไปประชุมงานลูกค้า ส่วนสีเนคไทที่เข้าคู่กันได้ดีกับสูทสีน้ำเงิน ได้แก่ สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีเทา และน้ำเงินอ่อน

null

งานสายครีเอทีฟ

การมิกซ์แอนด์แมทช์สีของเสื้อผ้าเป็นสิ่งสำคัญ

ใช่ว่าสถานที่ทำงานทุกที่จำเป็นจะต้องใส่สูท โดยเฉพาะงานสายครีเอทีฟ อย่างเช่น สถาปัตย์ กราฟิกดีไซน์ โฆษณา มีเดีย และแฟชั่น หรือถึงแม้ว่าบางบริษัทยังต้องมีการใส่สูทจริงๆ การแต่งกายแบบเป็นทางการของคนสายครีเอทีฟก็ยังมีความเป็น casual มากกว่าสายงานออฟฟิศทั่วไป เพราะฉะนั้นเวลาคุณไปสัมภาษณ์งานตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในวงการครีเอทีฟ คุณมีโอกาสที่จะมิกซ์แอนด์แมทช์สีสันและลวดลายของเสื้อผ้าได้เป็นพิเศษ แต่ควรหลีกเลี่ยงพวกสูทสีดำ หรือการใส่กางเกงสแลคสีดำกับเชิ้ตขาวธรรมดา เพราะคุณจะดูน่าเบื่อ และเหมือนมาสมัครงานออฟฟิศธรรมดาทั่วไปเสียมากกว่า จงจำไว้ว่าคนในสายงานครีเอทีฟนั้น เขาต้องการคนที่มีสีสัน มีสไตล์เป็นของตัวเอง และมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ซึ่งการแต่งกายของคุณก็ควรที่จะสะท้อนสิ่งเหล่านั้นออกมาให้ผู้สัมภาษณ์งานของคุณเห็นตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณก้าวเข้ามาในออฟฟิศ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณลองเล่นกับสีสันของเสื้อผ้าคุณ ลองมิกซ์แอนด์แมทช์กันดูหลายๆตัว ถ้าเสื้อเป็นสีอ่อนแล้ว กางเกงก็ควรเป็นสีเข้ม อย่างเช่นถ้ากางเกงของคุณเป็นสีเหลืองมัสตาร์ด ให้ลองจับคู่กับเสื้อสีฟ้าอ่อนลายตารางหมากรุกเป็นต้น และถ้าคุณตัดสินใจที่จะใส่เสื้อสูทไปสัมภาษณ์งานในสายนี้ ก็ให้ลองคิดนอกกรอบดู อย่างเช่น คุณยังสามารถใส่เสื้อสูทสีน้ำเงินเนวี่ที่ดูมีความเป็นทางการ โดยเพิ่มลูกเล่นให้กับชุดของคุณด้วยการใส่เสื้อเชิ้ต หรือเสื้อคอกลมที่มีลวดลายกราฟิกเท่ๆ ลายคาโม่ หรือลายเรขาคณิต ไปจนถึงลายดอกไม้ก็ยังได้ หรือถ้าอยากได้ลุคที่ดูขรึมขึ้นมาหน่อย จะใส่ชุดสูทสีเข้ม แล้วใส่เสื้อคอเต่า หรือคอกลมสีอ่อนข้างในก็ดูเท่ไม่แพ้กัน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความมั่นใจว่าคุณสามารถแต่งออกมาแล้วดูเป็นตัวคุณจริงๆหรือเปล่าเท่านั้นเอง

null

The Statement Suit เลือกสูทที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน

อีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถแสดงถึงความมั่นใจในตัวคุณ โดยที่ไม่ต้องมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าอะไรให้มากมาย ก็คือชุดสูทที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน โดดเด่นในเรื่องของเฉดสี ที่ยังคงความเป็นทางการนิดนึง เหมาะกับสภาพแวดล้อมการทำงาน อย่างเช่นตัวอย่างทางด้านบน

null

Tips สำหรับหนุ่มๆเพิ่งจบใหม่

การจะมีสูทคัตติ้งอย่างดีสักตัวสำหรับหนุ่มๆที่เพิ่งเรียนจบใหม่ อาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัวนิดหนึ่ง โดยเฉพาะในเรื่องของราคาที่อาจจะเอื้อมยังไม่ถึง เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องผิดถ้าจะมองหาพวกแบรนด์ไฮสตรีทอย่างเช่น ASOS, Topman, Zara หรือ H&M ที่ต่างก็มีเสื้อสูทคุณภาพให้คุณได้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งในเรื่องของดีไซน์ และเฉดสี ในราคาที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึง

null

บทสรุป

นอกจากเรื่องของชุดสูทที่คุณต้องให้ความสำคัญแล้ว พวกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นพวกแอคเซสเซอร์รี่ส์ และเรื่องของทรงผมและหนวดเคราก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ถ้าคุณมีนาฬิการุ่นคลาสสิคสักเรือนก็อย่าลืมใส่ติดตัวไปด้วย ส่วนทรงผมก็ควรจะตัดสั้นให้เรียบร้อย และถ้าคุณเป็นหนุ่มผมยาว กำลังจะไปสมัครงานสายครีเอทีฟ อย่างน้อยในวันที่ไปสมัครงานก็ควรจะมัดผมให้เรียบร้อย ดูสะอาดสะอ้าน จงจำเอาไว้เสมอว่าในวันที่คุณไปสมัครงาน สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้อง “look your best” และดูตั้งใจที่จะมาสมัครงานในตำแหน่งนั้นๆจริงๆ ชุดสูทที่คุณใส่ไปในวันนั้นก็ควรผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี รู้ว่านี่คือสูทที่เข้ากับสไตล์ของตัวเองมากที่สุด ไม่ใช่สักแต่หยิบสูทอะไรก็ได้จากราว แล้วสวมใส่แบบขอไปที และสิ่งสุดท้ายที่คุณควรพกติดตัวไปสัมภาษณ์งานก็คือความมั่นใจ ทั้งในเรื่องของสไตล์การแต่งตัว และความสามารถของตัวเอง เพราะถ้าคุณมีความมั่นใจไปเต็มร้อยเสียอย่าง ทุกอย่างหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว

Credit: Fashionbeans

RECOMMENDED CONTENT

21.ตุลาคม.2022

เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนชาวไทย ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค จึงนำ “เสียง” หรือความคิดเห็นจากประชาชนภาคธุรกิจ มีส่วนร่วมในการส่งเสียงผ่านการสำรวจของ ‘Business of the People Poll’ ร่วมออกแบบและขับเคลื่อนโดย สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในจัดทำการสำรวจผ่านตัวแทนผู้ประกอบการไทยจำนวน 451 ตัวอย่าง โดยมุ่งเน้นหัวข้อไปที่ ‘ปัจจัย, ความท้าทาย, โอกาส และคำแนะนำ ในการเสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต’ เพื่อที่จะทราบถึงความเข้าใจ ข้อเท็จจริง และแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากผู้ที่มีบทบาทจริงในภาคธุรกิจของประเทศไทย