บอกตรงๆ ว่าแม้เราจะฮัมเพลงฮิตของ Selena Gomez ได้แทบทุกเพลง แต่ก็พูดได้เต็มปากว่า เราไม่ได้เป็นแฟนเพลงของเธอจนมาถึงซิงเกิ้ลล่าสุด ‘Fetish’ ที่มาพร้อมกับเอ็มวีสุดแปลก ซึ่งไม่เพียงแค่การตีความหมายของ Fetish ที่น่าสนใจ แต่เบื้องหลังการถ่ายทำและความหมายภายใต้อัลบั้มล่าสุดก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

หลายๆ คนคงรู้สึกว่าเด็กดิสนีย์มักโตมาแบบน่าเป็นห่วง รวมถึงตัว Gomez แม้ว่าเราจะไม่เห็นภาพความสุดโต่งของเธอ แต่ชีวิตเธอเองก็ไม่ได้เดินบนเส้นทางดอกไม้สักเท่าไหร่ เธอเดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยวมาตั้งแต่ปี 2011 แต่เมื่อปี 2014 เธอก็ได้เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมากับสื่อว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยได้เป็นตัวของตนเอง “ฉันล้อมรอบด้วยผู้คนที่พร้อมจะให้คำแนะนำฉัน พวกเขาบอกว่า ฉันต้องเซ็กซี่ ฉันต้องน่ารัก ฉันต้องเป็นคนดี ฉันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ พวกเขาบอกว่าฉันต้องแต่งตัวเป็นไหน ฉันต้องพูดอะไร หรือใครที่ฉันควรเป็น” ไม่ใช่สูญเสียตัวตน แต่ที่ผ่านมาอาจพูดได้ว่าเธอไม่เคยได้แสดงความเป็นตนเองให้เราได้เห็นด้วยซ้ำ

หลังจากที่เธอก็ตัดสินใจพักงานและเปิดเผยอาการวิตกกังวล ซึมเศร้าและ Panic ที่เป็นผลจากโรคแพ้ภูมิตนเอง การกลับมาปรากฏตัวต่อหน้าสื่ออีกครั้งในงาน 2016 American Music Awards ทำให้ตัวตนของ Selena Gomez ชัดเจนขึ้นไปอีกขั้น

“ตั้งแต่ปี 2014 ฉันอยากจะซื่อสัตย์กับทุกคนที่สุด ฉันคิดว่ามันปลอดภัยที่จะให้ทุกคนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวฉัน แม้ว่าฉันจะชอบหรือไม่ชอบมันก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันต้องหยุด เพราะทุกๆ อย่างมันทำให้ภายในฉันแตกสลาย ฉันพยายามประคองทุกอย่างเพื่อไม่ให้ทุกคนผิดหวัง แต่การพยายามประคองทุกอย่างให้เป็นไปด้วยดีกลับทำให้ฉันผิดหวังในตนเอง” สุนทรพจน์ในงาน 2016 American Music Awards ไม่เพียงแค่เป็นการกล่าวขอบคุณแฟนๆ แต่มันยังเปิดโอกาศให้เธอได้พูดสิ่งที่ต้องการ

แม้ Fetish จะขึ้นชื่อว่าเป็นเพลงที่เซ็กซี่ที่สุดของเธอ แต่มันก็ไม่ได้เป็นความเซ็กซี่แบบที่คนภายนอกพยายามยัดเยียดให้เธอ มันกลับทำให้เราเห็นความเป็นธรรมชาติของ Gomez มากขึ้น เพลงป๊อบฟังง่ายและท่อนฮุคติดหูเพลงนี้ ทำให้เราอยากฟังเรื่องราวของเธอมากกว่าเสียงเพลงที่เต็มไปด้วยเทคนิคสุดอลังการ ไหนจะการแท็คทีมกับ Petra Collins ที่มาทำให้มิวสิควีดีโอ Fetish เป็นมากกว่าความลุ่มหลงในความรัก แต่มันคือการปลดปล่อยตัวตนของ Gomez ออกมาแบบที่เธอไม่เคยมีโอกาส

“ฉันรู้สึกดีมากในฉากที่ได้หลุดการจากควบคุมของร่างกาย หลุดออกจากตัวตนของตัวเอง” หลังจากที่ใช้ชีวิตบนความคาดหวังของคนอื่นมานาน มันคงเป็นเวลาที่ Selena Gomez จะได้ทำงานเพลงเพื่อตนเองบ้าง

—