
ในเวลานี้คงพูดได้ว่าแทบไม่มีใครไม่รู้จัก Kendall Jenner เด็กสาววัย 22 ปี ที่ขึ้นแท่นนางแบบค่าตัวแพงที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes ไอค่อนคนสำคัญของสาวๆ รุ่นใหม่ที่ไม่ว่าเธอจะหยิบจะจับอะไร สิ่งของเหล่านั้นก็จะกลายเป็นเทรนด์ขนาดใหญ่ที่คนต้องใส่ตาม (ลองนึกถึงสร้อยคอโช๊คเกอร์ที่ฮิตกันทั่วโลกเมื่อปีที่แล้วดูสิ)
การเกิดมาในตระกูล Jenner-Kardashians คงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ชื่อของ Kendall เป็นที่คุ้นเคยของผู้คนในวงการฮอลลีวู้ด การเป็นดาราเรียลลิตี้ Keeping Up with the Kardashians ตั้งแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะทำให้เธอเป็นที่จับตาของผู้คนมากมายจนเราอดไม่ได้ที่จะคิดถึงภาพยนต์เรื่อง The Truman Show (1998) เมื่อเห็นใบหน้าของเธอบนสื่อต่างๆ แต่แน่นอนว่ามันไม่เหมือนกันซักนิดเดียว เพราะชีวิตของ Kendall คือชีวิตจริงๆ ครอบครัว และตัวตนที่เราเห็นในทุกวันนี้คือตัวตนจริงๆ ของ Kendall Jenner
“ฉันต้องการเป็นมืออาชีพ ฉันต้องทำงานหนักกว่ามากเพื่อให้ได้งานที่ต้องการ ทุกคนคิดว่าฉันไม่ได้อยากทำอาชีพนางแบบอย่างจริงจัง เพราะ TV Show เพราะชื่อของ Kardashian” การเติบโตมาท่ามกลางสปอร์ตไลท์ดูจะเป็นดาบสองคมที่ Kendall เลี่ยงไม่ได้ “คุณไม่รู้หรอกว่าฉันถูกปิดโอกาสมากแค่ไหน มีผู้ใหญ่มากมายที่ไม่อยากทำงานกับฉัน หรือมีใครบ้างที่หัวเราะฉันลับหลัง มันยากมากที่จะเดินต่อไปและพยายามให้ถึงที่สุดในการเข้าสู่วงการนี้ในตอนที่คุณยังเป็นวัยรุ่น”
“เป้าหมายในชีวิตของฉันคือการได้เป็นนางแบบที่โด่งดังและได้ท่องเที่ยวไปในที่ที่มหัศจรรย์” จดหมายถึงตนเองในวัย 14 ปี วัยที่การเป็นดาราเรียลลิตี้เป็นเรื่องหน้าเบื่อเกินไปสำหรับเด็กสาวในวัยอยากรู้อยากลอง การเดินทางตามความฝันของ Kendall ได้รับแรงสนับสนุนมากมาย ในเวลาเดียวกันก็มีผู้คนไม่น้อยที่บอกว่าเธอไม่มี ‘Model Material’ แต่เวลาที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันมีอะไรมากกว่ารูปร่าง หน้าตาที่ทำให้เธอได้ก้าวขึ้นมาเป็น Top Model แห่งยุค
จำนวนผู้ติดตามมากกว่า 85 ล้านคนในอินสตาแกรมกลายเป็นเหตุผลใหญ่สำหรับการประสบความสำเร็จในอาชีพของเธอ Kendall เป็นหนึ่งในนางแบบที่สร้าง Movement สำคัญของวงการแฟชั่นในปัจจุบันอย่าง ‘Social Media Modeling’ เธอกลายเป็นตัวแทนของเด็กสาวที่แฟนๆผลักดันให้สามารถเฉิดฉายบนรันเวย์ได้ และยังสะท้อนความต้องการของผู้ซื้อในตลาดว่า นางแบบของพวกเขาไม่จำเป็นต้องผมสีทอง ตาสีฟ้าหรือต้องมี ‘Model Material’ แบบที่โมเดลลิ่งมองหาเท่านั้น
ขณะที่ความนิยมของเธอเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา Kendall Jenner ก็ยังคงพยายามเว้นพื้นที่ในชีวิตส่วนตัวกับ Social Media เอาไว้ “ตอนที่ยังเด็กฉันเคยทวิตทุกอย่าง ทุกความรู้สึก แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะมันเหมือนกับการหยิบยื่นพื้นที่ให้ผู้คนตัดสินเรามากเกินไป ฉันไม่อยากให้มันมาสร้างอิทธิพลกับชีวิตมากมาย ฉันพยายามไม่อ่านอะไรก็ตามบนอินเทอร์เนต คุณอาจเจอคอมเม้นท์เป็นล้านที่บอกว่าคุณสวยแค่ไหน คุณเก่งอย่างไร แต่เพียงแค่คอมเม้นท์เดียวที่เกลียดคุณ ที่บอกว่าคุณน่าเกลียด มันจะเป็นคอมเม้นท์ที่ติดอยู่กับคุณไปตลอด”
หลายๆ ครั้งเรามักเห็นผู้คนสูญเสียตัวตนไปให้กับความโด่งดังที่โหมกระหน่ำ แต่สำหรับ Kendall Jenner กลับต่างออกไป มากกว่าการสูญเสียตัวตน เธอพบว่าอาชีพนางแบบเป็นเครื่องมือสำคัญในการหาความหมายของตัวเธอเอง “ฉันรู้สึกมั่นใจในตนเองมากขึ้นหลังจากการทำงานนี้ ช่วงอายุ 18-22 ปีนี้เป็นการเติบโตที่ฉันได้ค้นหาตัวเองจริงๆ ”
การเติบโตมาท่ามกลางสปอร์ตไลท์อาจมีข้อดีมากมาย แต่มันก็เต็มไปด้วยผลกระทบที่คนธรรมดาๆ อย่างเราคาดไม่ได้ แม้ในแง่หนึ่ง Kendall Jenner จะดูเป็นบุคคลที่มี Privilege มากจนน่าอิจฉา แต่เราก็รู้ว่าความสำเร็จที่เธอได้มาในตอนนี้เธอสร้างมันมาด้วยตนเอง
“ทุกคนคงคิดว่าฉันนั่งเฉยๆ แล้วก็ได้รับโทรศัพท์ว่า เฮ้! มาเดินแบบกับฉันสิ แต่มันไม่ใช่เลย ฉันอยู่ที่นี่ (วงการนี้) มานานพอ ฉันต้องไปเทสหน้ากล้อง ต้อง go-sees เหมือนกับคนอื่นๆ นางแบบไม่ใช่งานที่ฉันทำเพื่อความสนุกอย่างเดียว ไม่ใช่งานที่ฉันทำเพื่อพิสูจน์ว่าใครคิดผิด แต่เป็นงานที่ฉันทำเพราะฉันต้องการ และเป็นงานที่ฉันมีความสุขกับมัน”
RECOMMENDED CONTENT
เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนชาวไทย ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค จึงนำ “เสียง” หรือความคิดเห็นจากประชาชนภาคธุรกิจ มีส่วนร่วมในการส่งเสียงผ่านการสำรวจของ ‘Business of the People Poll’ ร่วมออกแบบและขับเคลื่อนโดย สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในจัดทำการสำรวจผ่านตัวแทนผู้ประกอบการไทยจำนวน 451 ตัวอย่าง โดยมุ่งเน้นหัวข้อไปที่ ‘ปัจจัย, ความท้าทาย, โอกาส และคำแนะนำ ในการเสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต’ เพื่อที่จะทราบถึงความเข้าใจ ข้อเท็จจริง และแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากผู้ที่มีบทบาทจริงในภาคธุรกิจของประเทศไทย