CONTACT US

#EAT — ‘บ้านนวล’ กับกลิ่นอายมื้ออาหารแบบบ้านๆ และรสชาติที่เหมือนคนในครอบครัวมาทำให้กิน
date : 18.ธันวาคม.2017 tag :

วันที่ทาง dooddot รู้ว่าจะได้เข้าไปสัมภาษณ์พี่ทอมมี่ – เจ้าของร้าน ‘บ้านนวล’ พร้อมกับได้สัมผัสบรรยากาศที่ร่ำลือหนาหู รวมถึงเห็นผ่านรีวิวต่างๆ บอกเลยว่าทุกคนต้องไปตำให้ได้! และยิ่งทำให้เราตื่นเต้นมากๆ เพราะไม่ใช่แค่ลูกค้าของทางร้านเท่านั้นที่ต้องจองและรอคิวล่วงหน้ากันแบบยาวๆ แต่เราเองก็ต้องรอนะ

เพราะตั้งแต่เปิดมาเกือบเข้า 1 ปี เรียกได้ว่าร้านอาหารแห่งนี้มีแต่คนพูดถึง และหลายต่อหลายคนอยากไปลิ้มรสชาติอาหาร อะไรเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ทุกคนต้องมาที่นี่ และอะไรทำให้ทุกคนที่มา (รวมถึงเรา) หลงรักอาหารของร้าน ‘บ้านนวล’ วันนี้ทุกคนจะได้รู้คำตอบ…

—————

“เราเหมือนห้องกินข้าวของครอบครัว และทุกคนได้มาใช้เวลาอยู่ที่นี่กับแบบครอบครัว”

ประโยคที่พี่ทอมมี่บอกกับเรา หากคุณยังไม่เคยมาที่บ้านนวลแห่งนี้ ก็ลองนึกภาพตามได้ แต่ถ้าภาพยังไม่ชัดก็ต้องเลื่อนลงไปทำความรู้จักกันต่อไป

ทำไมต้องเป็นร้านอาหาร?

เริ่มประโยคสนทนาในขณะที่พี่ทอมมี่กำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารสำหรับลูกค้าที่จองล่วงหน้าไว้ พร้อมกับเสียงโขลกน้ำพริกที่เราได้ยินพี่ยุ (พี่สาวของพี่ทอมมี่) กำลังเตรียมอาหารรอแขกที่จะมาเยือนบ้านหลังนี้อยู่เช่นกัน

“มันคือความชอบ จริงๆ พี่กับพี่สาวชอบทำอาหาร เราก็เคยทดลองทำด้วยการเปิดเพจบนเฟซบุ๊ก แต่อันนั้นมีเงื่อนไขที่ว่า ถ้าเราว่างเราถึงจะทำ และก็จะเป็นอาหารประจำสัปดาห์นั้นๆ และส่งตามระยะทางรถไฟฟ้า (จริงๆ เรามีฐานแฟนประจำจากตรงนั้นด้วย) อีกอย่างที่ตัดสินใจทำก็มาจากเพื่อน เพราะปกติเวลาจัดปาร์ตี้กันเองก็จะแบ่งกันทำอาหาร เราก็ชอบทำอยู่แล้ว ยิ่งเวลาที่เห็นเพื่อนกินอาหารที่เราทำแล้วแฮปปี้ เราก็รู้สึกดี พอเพื่อนเชียร์ว่าเปิดร้านสิ ตอนนั้นก็ยังรู้สึกว่าห่างไกล เพราะว่าพอพูดถึงธุรกิจมันหลายสิ่ง จนพอมาได้ลงสนามจริงอีกครั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว เรามีโอกาสได้ทำร้านข้าวแกงกับเพื่อน ก็โอเค มันเหมือนเตรียมความเหนื่อย และมีพื้นฐานหน่อยละ”

จากร้านข้าวแกง สู่ ‘บ้านนวล’

หลังจากทำข้าวแกงแล้ว พี่ทอมมี่ก็มาคุยกับพี่สาวและรู้สึกว่าโมเดลร้านข้าวแกงยังไม่ใช่สิ่งที่ชอบนัก ดังนั้นทั้งคู่จึงวางคอนเซ็ปต์ของตัวเอง โดยเริ่มจากการปรับตัว ปรับเวลาของทั้งคู่ จนมาสู่ร้าน ‘บ้านนวล’ ที่ต้องจองคิวล่วงหน้าผ่าน Instagram Direct เพราะทำกันสองคนพี่น้อง จึงเลือกเปิดเฉพาะพื้นที่ชั้นล่างของบ้านไม้หลังเก่าที่ถูกรีโนเวทใหม่ มีเพียง 3 โต๊ะ หรือรองรับลูกค้าเป็นกลุ่มต่อมื้อได้ไม่เกินคราวละ 10 คน

อาหารสไตล์บ้าน (พี่ทอมมี่)

“เราไม่เคยพูดว่า เราเป็นร้านอาหารไทย เพราะอาหารไทยครอบคลุมมาก แต่นี่คืออาหารแบบบ้านเรา เป็นอาหารที่เราชอบ จริงๆ เราชอบคำว่าอาหารบ้านๆ เพราะดูจับต้องได้ และได้กลับสู่สิ่งที่ง่ายที่สุด นั่นคือ ‘อาหาร’ อาหารไม่จำเป็นต้องยาก บางที่ยากไปเราก็จะรู้สึกเกร็ง ก็คืออาหารบ้านๆ นี่แหละ เหมือนเวลาไปบ้านใครแล้วแม่เขาทำอาหารให้เรากิน จะถือว่าเราแฮปปี้มาก เพราะนั่นคือสูตรจากบ้านเขาจริงๆ ”

เมื่อพูดถึงเมนูอาหารต้องบอกว่าพิเศษมาก เพราะนอกจากความเป็นกันเอง การบริการ และอัธยาศัยจากพี่ทอมมี่และพี่สาวแล้ว แต่ละเมนูล้วนมาจากสูตรของคุณแม่พี่ทอมมี่ และบางส่วนก็มาจากสูตรที่ทำขึ้นเอง แถมมีดึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาจากหนังสือตำราอาหารเก่าๆ ด้วยนะ ซึ่งอาหารที่เป็นจานแนะนำ ที่ใครมาก็ต้องสั่ง ได้แก่ น้ำพริกไข่ปู ถ้วยนี้รสชาติจัดจ้านชัดเจนมาก ส่วนไข่ปูก็ให้เยอะสะใจ, หมูผักกะปิ รสชาติกลมกล่อมหอมกะปิ กินกับข้าวสวยร้อนแล้วเข้ากันสุดๆ , มาถึงเมนูที่ทุกโต๊ะจะต้องประทับใจ และรับประกันความอร่อย นั่นคือ กุ้งผัดมันกุ้ง ด้วยรสชาติเฉพาะตัวทำให้น้ำซอสจานนี้เข้มข้น หอมมัน กินได้ทั้งกระเทียมและตัวกุ้ง เรียกว่าเป็นสามเมนูเด็ดที่ควรค่าแก่การลองเป็นอย่างยิ่ง

คัดแต่วัตถุดิบที่คิดว่าดี

“การทำเมนูต่างๆ เอามาจากประสบการณ์ตัวเอง ที่เวลากินข้าวควรจะอิ่มในระดับหนึ่ง เราเลยเต็มที่กับของทุกอย่าง และต้องมั่นใจว่าของที่เราเลือกเองสดและคุณภาพดี ซึ่งการบริหารจัดการเราทำสองคน หน้าที่แทบจะทุกอย่างต้องแชร์กัน โดยเฉพาะการไปตลาดตอนเช้า ด้วยเพราะเราโตมากับการไปจ่ายตลาดกับแม่ซึ่งเป็นคนมหาชัย ตอนเด็กว่างๆ แม่ก็พานั่งรถไฟไปตลาดมหาชัย เราก็จะเห็นความสดของวัตถุดิบต่างๆ ตลอดเวลา พอมาทำร้านนี้ เลยต้องไปซื้อของที่ตลาดเอง”

นอกจากนี้พี่ทอมมี่ยังบอกเราอีกว่า เหล่าเครื่องปรุงคู่ครัวของบ้านนี้ยังมาจากแหล่งผลิตที่รู้ใจ ได้คุณภาพ ยอมรับว่าดีจริงๆ ทั้งน้ำปลาจากตราด กะปิที่สั่งมาจากชุมพร (โดยแม่เพื่อนทำให้) แถมยังคัดเลือกพริก กระเทียม หรือแม้แต่ดอกเกลือ เพื่อให้ได้รสชาติอาหารตามที่ต้องการ

รีโนเวทจากบ้านไม้หลังเก่า สู่บ้านสีดำเปิดชั้นล่าง

ความเป็น ‘บ้านนวล’ จะขาดสถานที่อย่างบ้านหลังนี้ไปไม่ได้ ซึ่งก่อนจะเริ่มทำร้านอาหาร พี่ทอมมี่ใช้เวลาหาสถานที่ที่ถูกใจอยู่หลายแห่ง จนมาเจอบ้านไม้หลังเก่าในซอยสามเสน 2 แห่งนี้ เพราะทำให้นึกถึงบ้านไม้ของคุณปู่คุณย่าที่เคยอยู่เวลาไปเที่ยวหาเสมอทุกเสาร์และอาทิตย์ ความทรงจำวัยเด็กทำให้พี่ทอมมี่เข้าใจและคุ้นเคยกับสไตล์นี้ บวกกับจิตวิญญาณแห่งความเป็น stylish จากชีวิตการทำงานที่ผ่านมา

จึงสามารถจัดแต่งแต่ละโซนได้อย่างมีเอกลักษณ์ เรียบง่าย ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโล่งชั้นล่างแทนที่จะคงสภาพบ้านเดิมที่ดูทึบมืด รวมถึงการจัดดิสเพลย์หน้าบ้าน ด้วยการนำเตาถ่านมาวาง มุมตู้กับข้าวและชั้นวางหนังสือที่หยิบใช้งานได้จริง นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดวางดอกไม้ สร้างบรรยากาศบ้านสมัยก่อนแบบไทยๆ ได้อย่างนุ่มนวล เหมือนชื่อที่พยายามสื่อถึงความนุ่มนวลของกิริยาหญงไทยขณะทำอาหารนั่นเอง

หากต้องการหยุดความวุ่นวายจากการใช้ชีวิตแบบคนกรุงฯ มาอยู่ในบ้านที่สร้างความรู้สึกเย็น สบาย นุ่มนวล ปล่อยเวลาไปแบบเนิบช้า พร้อมลิ้มรสชาติอาหารฝีมือเจ้าของบ้านหลังนี้ คงต้องลองมาสัมผัสเองสักครั้ง รับรองว่าคุณจะต้องอยากกลับไปอีกครั้งเป็นแน่

—————

บ้านนวล (Baannual)

สามเสนซอย 2
พระนคร กรุงเทพฯ

จองโต๊ะอาหารได้ที่
instagram.com/baannual372

RECOMMENDED CONTENT

12.กันยายน.2022

“TIME TO AWAKEN YOUR ZIMBE SPIRIT” ถึงเวลาเดินทางให้สุด ไม่หยุดไปต่อ เรื่องราวการปลุกจิตวิญญาณของนักเดินทางอย่าง ZIMBE (จิมเบ) พร้อมกับเพื่อนผู้สร้างตำนานการเดินทางร่วมกันอย่าง อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ที่ครั้งนี้กลับมาในฐานะ Seiko brand friend คนแรกของปี 2022 และมาพร้อมเรื่องราวจากการกลับมาออกเดินทางอีกครั้ง หลังจากที่โลกหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง มาดูกันว่าในครั้งนี้ นักเดินทางผู้สร้างตำนานจะพาพวกเราไปเจอกับอะไรบ้าง?

preload imagepreload image