รวม 5 ศัลยกรรมและหัตถการความงาม เสริมใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ผิวดูสดใสมากขึ้น!
จากผิวที่เคยตึงกระชับก็ค่อยๆ หย่อนคล้อย จากผิวที่เคยเรียบเนียน ก็ค่อยๆ มีริ้วรอย รวมถึงดวงตาและชั้นตาที่เคยเปล่งประกาย เห็นได้ชัด ก็มักจะมีก้อนไขมันมาสะสม หรือหางตาตกลง สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้คือหนึ่งในปัญหาที่เมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 35-40 ปีขึ้นไปมักจะต้องเผชิญ ซึ่งเป็นตัวการทำให้ใบหน้าดูโทรม หมองคล้ำ แต่งหน้าได้ยากมากขึ้น แม้จะพักผ่อนให้เพียงพอ หรือใช้สกินแคร์ช่วยขนาดไหนก็ไม่ให้ผลลัพธ์ดีเท่ากับช่วงวัยรุ่นหรือช่วงอายุ 20 ปี
การทำศัลยกรรมและหัตถการความงามจึงเป็นทางเลือกที่กลุ่มอายุ 35-40 ปีขึ้นไปหันมาให้ความสนใจมากขึ้น เพราะเป็นการใช้เทคนิคทางการแพทย์ผสานกับฝีมือมากประสบการณ์ของแพทย์ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับองค์ประกอบของใบหน้าและผิวพรรณ มาแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและล้ำลึกนั่นเอง วันนี้เราได้รวบรวม 5 การทำศัลยกรรมและหัตถการความงามที่เหมาะกับกลุ่มอายุ 35-40 ปีขึ้นไปที่อยากชะลออายุ เสริมใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ช่วยให้ผิวดูสดใสมากขึ้นมาฝาก เมื่ออายุมากขึ้น มีปัญหาผิวและใบหน้า ควรทำศัลยกรรมและหัตถการความงามไหนดี? ตามมาดูพร้อมกันเลย~
1. ผ่าตัดถุงใต้ตา
ปัญหาถุงใต้ตา ผิวหนังตาหย่อนคล้อยเป็นปัญหาสุดฮิตที่พบได้บ่อยในกลุ่มที่อายุมากขึ้น เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและถุงใต้ตามักไม่แข็งแรงเหมือนเก่า โดยจะหย่อนยานหรือยืดตัวออกมากกว่าเดิม จึงทำให้ไขมันใต้ตาเริ่มปูดนูน จนกลายเป็น ‘ถุงใต้ตา’ ขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเพลีย เหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ ยิ่งบางคนเริ่มมีถุงใต้ตาตั้งแต่อายุยังน้อย ยี่สิบต้นๆ สามสิบต้นๆ ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ดูมีอายุมากกว่าวัยนั่นเอง ‘การผ่าตัดถุงใต้ตา’ สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยเป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดถุงใต้ตาและเติมผิวรอบดวงตาให้ดูตึงกระชับ แข็งแรงมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาขนาดใหญ่ กลุ่มอายุ 35-40 ปีขึ้นไป หรือผู้สูงอายุที่ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยมากจนกระทบกับการมองเห็น สำหรับเทคนิคการผ่าตัดถุงใต้ตา ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ คือ
ผ่าตัดถุงใต้ตาแบบแผลด้านนอก
เป็นการการผ่าตัดแบบดั้งเดิมทั่วๆ ไป ผ่าตัดบริเวณผิวหนังใต้ขนตาล่างยาวไปตั้งแต่หัวตาถึงหางตา โดยจะตัดแต่งนำไขมันส่วนเกินออกไป เพื่อให้ถุงใต้ตามีขนาดที่เล็กลง จุดเด่นของเทคนี้คือทำได้ค่อนข้างง่าย สามารถตัดไขมันส่วนเกินออกได้ในปริมาณมาก แต่มีข้อเสียคืออาจเห็นแผลเป็นปรากฎอยู่บริเวณผิวหนังรอบดวงตา และอาจเจอผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมา เช่น เกิดปัญหาแผลเป็นดึงรั้งจนเห็นตาขาว หรืออาจตัดผิวหนังออกมาเกินไป เป็นต้น
ผ่าตัดถุงใต้ตาแบบแผลด้านใน
การผ่าตัดถุงใต้ตาแบบแผลด้านใน หรือแบบไร้แผลจะเริ่มต้นจากย้ายไขมันรอบๆ ดวงตาออกมารองร่องรูปโค้งพระจันทร์ใต้ตา ภายหลังการตัดพังผืดระหว่างผิวหนังและกระบอกตาออก เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นรอยใหม่ และจะทำผ่านแผลบริเวณด้านในเยื่อบุตาอย่างเดียว เพื่อให้ได้แผลที่มีขนาดเล็กมากๆ ยกเว้นในกลุ่มอายุมากที่มีถุงใต้ตาห้อยย้อยขนาดใหญ่ อาจจะมีแผลยาว 5-6 มิลลิเมตรที่หางตาเพราะต้องตัดเนื้อบางส่วนด้วยนั่นเอง ซึ่งจุดเด่นของเทคนี้คือลดการเกิดปัญหาแผลเป็นดึงรั้งจนเห็นตาขาว และการตัดผิวหนังที่มากเกินไปได้
2. ศัลยกรรมตาตก
นอกจากปัญหาถุงใต้ตาแล้ว ปัญหาหางตาตกหรือหนังตาตกก็พบได้บ่อยเช่นเดียวกันในกลุ่มที่มีอายุมากขึ้น โดยมีสาเหตุมากจากความสามารถในการยืดหดของพังผืดกล้ามเนื้อยกตาลด กล้ามเนื้อตาและผิวหนังรอบเปลือกตาจึงตกลงมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ดูทรุดโทรม ไม่สดใส ดูมีอายุมากขึ้น และส่งผลต่อการมองเห็นในชีวิตประจำวันด้วย ‘การศัลยกรรมตาตก’ เป็นหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหานี้ ฟื้นฟูให้ผิวบริเวณรอบดวงตากลับมาตึงระชับ ชั้นตาชัดเจน ดูสดใสมากขึ้น ผ่านการผ่าตัดแก้ไขบริเวณหนังตาที่ตก แต่การศัลยกรรมตาตกในกลุ่มที่มีอายุมากขึ้นอาจมีข้อแตกต่างจากการศัลยกรรมดวงตาทั่วๆ ไป เพราะในกลุ่มอายุมาก ในช่วง 40-60 ปี อาจมีภาวะกล้ามเนื้อเปิดตาอ่อนแรงร่วมด้วย จึงต้องทำการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์มากประสบการณ์ก่อน เพื่อประเมินอาการ หาแนวทางหรือวิธีการรักษาที่เหมาะสมมากที่สุดในแต่ละเคสนั่นเอง
3. Face Lift
เมื่ออายุมากขึ้น ยิ่งในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไปชั้นผิวก็จะเริ่มอ่อนแอ ความยืดหยุ่นของผิวก็จะเริ่มน้อยลง ผิวเกิดการยุบตัวไม่ตึงกระชับเหมือนเดิม เกิดเป็นริ้วรอย ความหย่อนคล้อยทั่วผิวหน้าและลำคอ ทั้งคิ้วตก หนังตาด้านข้างหนาขึ้น แก้มห้อยย้อย มุมปากตก ร่องแก้มลึก ซึ่งเมื่อรวมๆ กันแล้วก็ทำให้ภาพลักษณ์ดูทรุดโทรม ไม่สดใส ‘การทำ Face Lift’ จึงเป็นอีกหนึ่งรูปแบบศัลยกรรมที่เหมาะกับกลุ่มที่มีอายุมากขึ้นและมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก ช่วยฟื้นคืนผิวให้เหมือนกับวัยเยาว์ โดยเป็นการศัลยกรรมผ่าตัดยกกระชับ ผ่านการตัดผิวหนังส่วนเกินที่หย่อนคล้อยออก แล้วเก็บยกผิวหนังทั้งสองชั้น คือ ชั้นผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ SMAS หรือกล้ามเนื้อบางที่เป็นชั้นใต้ผิวหนังที่เราใช้แสดงสีหน้าและอารมณ์นั่นเอง จุดเด่นของ การทำ Face Lift สามารถเพิ่มความตึงกระชับได้หลายส่วนบนใบหน้า สามารถผ่าตัดดึงได้ทั้งหน้าผาก ผิวหนัง ใบหน้าส่วนบนและหางตา ใบหน้าส่วนกลางเเละส่วนล่าง รวมถึงลำคอที่มักจะมีเหนียงด้วย
4. โบท็อกซ์ (Botox)
นอกเหนือจากการศัลยกรรมที่เป็นการผ่าตัดและปรับแต่งชั้นผิวหนังให้ตึงกระชับ ในด้านหัตถการความงามก็ได้รับความนิยม และสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวพรรณและรูปหน้าไม่ชัดเจน หย่อนคล้อยที่มีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นได้เช่นเดียวกัน ทั้งยังเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการการผ่าตัด ไม่ต้องการพักฟื้นนาน และชอบผลลัพธ์แบบธรรมชาติที่จะค่อยๆ ไล่ระดับ ซึ่งหากพูดถึงหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ผิวพรรณไม่กระชับจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น จะไม่พูดถึง ‘โบท็อกซ์’ (Botox) หรือ Botulinum Toxin คงไม่ได้ โดยสกัดมาจากเชื้อแบคทีเรีย Clostidium Botulinum โดยมีกลไกการออกฤทธิ์ที่จะเข้าไปยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาท Acetylcholine ที่ปลายประสาท ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ และปรับให้รูปหน้าชัดขึ้นได้ ทั้งนี้ Botox มีหลากหลายยี่ห้อ แต่ที่มีการใช้มาเป็นระยะเวลานานและเป็นที่ยอมรับทั่วโลกคือ Botulinum Toxin Type A ที่ผลิตจากอเมริกา (Botox) ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์มากประสบการณ์ก่อนทำทุกครั้ง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อันตรายและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง
5. Radiesse Filler
สุดท้ายกับ ‘Radiesse Filler’ ฟิลเลอร์ที่ต้องบอกต่อสำหรับกลุ่มวัย 35 ปีขึ้นไปและกลุ่มที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่ตึงกระชับ โดย Radiesse นั้นเป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยผิว มีส่วนประกอบหลักคือสาร CaHA microsphere ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในร่างกายโดยธรรมชาติและย่อยสลายไปตามธรรมชาติ ทำให้ Radiesse มีความปลอดภัยสูง เข้ากันได้ดีกับร่างกาย มีผลช่วยฟื้นฟูการทำงานของ Fibroblast ทำให้มีการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน ทั้ง Collagen Type I (1, 2) และ Collage Type III ช่วยเสริมความแข็งแรงให้เซลล์ผิวกระชับ ลดเลือนริ้วรอย และรอยสิวที่หายได้ช้ามากกว่าปกติ เสริมให้ผิวเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์มากขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้จุดเด่นของการทำ Radiesse Filler คือให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างยาวนาน หากมีการเติมเต็มอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอในความดูแลของแพทย์มากประสบการณ์
ใครว่าความสวย ความสดใสเป็นเรื่องของวัยเยาว์ สำหรับช่วงชีวิตวัยรุ่นและวัยยี่สิบเพียงอย่างเดียว แม้เราจะมีอายุที่มากขึ้น ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนของกระบวนการทำงานของร่างกายที่ช้าลง ผิวพรรณ รูปหน้ามีความหย่อนคล้อย ไม่ยืดหยุ่นเหมือนตอนวัยรุ่น ยี่สิบต้นๆ แต่หากเลือกวิธีการดูแลผิวพรรณ ปรับเปลี่ยนรูปหน้า และชั้นผิวหนังที่เหมาะสม ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และมีความปลอดภัยอย่างการทำศัลยกรรมและหัตถการความงามโดยแพทย์มากประสบการณ์ก็สามารถช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่มีสาเหตุมากจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นได้ เสริมใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ทั้งยังช่วยให้ผิวดูสดใสมากขึ้นได้ ดัง 5 ศัลยกรรมและหัตถการความงามที่เราหยิบยกมาฝากในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดถุงใต้ตา ศัลยกรรมตาตก การทำ Face Lift โบท็อกซ์ หรือ Radiesse Filler ก็ล้วนแต่มีจุดเด่นและช่วยแก้ปัญหาที่กลุ่มวัย 30-40 ปีขึ้นไป ต้องเผชิญได้แบบล้ำลึกตรงจุด ทั้งนี้ทุกๆ การศัลยกรรมและหัตถการความงามอาจมีความเสี่ยงและให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปแต่ละบุคคล ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและปรึกษาแพทย์มากประสบการณ์ก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง
สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ หรือใครที่กำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับผิวบริเวณรอบดวงตา ทั้งหนังตาตก ถุงใต้ตามีขนาดใหญ่ ดวงตาดำคล้ำ อยากแก้ปัญหาด้วยการผ่าตัดถุงใต้ตา การศัลยกรรมตาตก หรือทำตาสองชั้นให้ดวงตากลับมาสดใส สามารถมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ที่ เศาณานนท์คลินิก (Saonanon Clinic) คลินิกเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งที่มีจักษุแพทย์มากประสบการณ์ ให้บริการด้วยเครื่องมือและกระบวนการที่ได้มาตรฐานระดับสากล พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน เพื่อแก้ปัญหารอบดวงตาได้อย่างตรงจุด ให้ทุกคนมีดวงที่สดใส เรียกคืนความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง โทร. 090-946-3090 Line: @saonanon
RECOMMENDED CONTENT
พาเที่ยวในโตเกียว ซื้อรองเท้า ให้'สายวิ่ง' เก็บตก ที่เที่ยว ช้อปปิ้ง หลังจากงานวิ่ง Tokyo Marathon . INSIDER JOURNY EP5 : เมื่อ 'สายวิ่ง' เก็บตก Shopping หลัง วิ่งในงาน Tokyo Marathon . Dooddot x Running Insider x Runner’s journey