CONTACT US

Nike ก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยไอเดีย “Move to Zero” กับรองเท้าที่ใช้วัสดุรีไซเคิลเพื่อความยั่งยืนของโลกใบนี้
date : 26.เมษายน.2021 tag :

ไนกี้ยกระดับทั้งงานออกแบบและสานต่อตำนานด้วยรองเท้าที่พัฒนาตามแนวคิด Move to Zero เพื่อต้อนรับฤดูร้อนปี 2021 ซึ่งประกอบไปด้วยรองเท้าไลฟ์สไตล์ที่ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ รวมไปถึงรองเท้ากีฬาอีกหลายรุ่น

รองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แมกซ์ 2021 (ซ้าย) และรองเท้าไนกี้ แอร์แมกซ์ จีโนม (ขวา)

ไนกี้ใช้แนวคิดการออกแบบแบบหมุนเวียนในหลากหลายองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ เช่น ไนกี้ แอร์ เวเปอร์แมกซ์ 2021 (Nike Air VaporMax 2021) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรองเท้าที่มีความยั่งยืนที่สุดรุ่นหนึ่งของไนกี้ เนื่องจากใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 55 ของน้ำหนัก ไนกี้ออกแบบรองเท้ารุ่นดังกล่าวโดยคำนึงถึงการใช้วัสดุเพื่อความยั่งยืนเป็นอย่างแรก โดยนวัตกรรมเวเปอร์แมกซ์ ไนกี้ แอร์ (VaporMax Nike Air) แบบยาวตลอดพื้นรองเท้านั้นใช้วัสดุรีไซเคิลประมาณร้อยละ 75 เป็นส่วนประกอบ ส่วนวัสดุทีพียูที่ส้นเท้าและส่วนปลายสุดเท้านั้นใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 60 และพื้นรองเท้ายังผลิตโดยผสมผสานวัสดุไนกี้ ไกรน์ (Nike Grind) แฟนๆ ยังอาจสังเกตได้ว่าหน้ารองเท้าของรุ่นแอร์ แมกซ์ พรี-เดย์ (Air Max Pre-Day) นั้นดูเรียบง่ายขึ้นเพื่อลดจำนวนเศษวัสดุจากกระบวนการผลิตลงอย่างน้อยร้อยละ 20 ต่อน้ำหนัก นอกจากนี้ ไนกี้ยังนำเสนอรองเท้าไนกี้ แอร์แมกซ์ จีโนม (Nike Air Max Genome) ที่มีหน้ารองเท้าแบบเรียบหรูและได้แรงบันดาลใจจากยุคทศวรรษ 2000 โดยถุงลมไนกี้ แอร์ ของรองเท้ารุ่นนี้ผลิตจากวัสดุทีพียูรีไซเคิลกว่าร้อยละ 75

รองเท้าไนกี้ แอร์ฟอร์ซ 1 (ซ้าย) และรองเท้าไนกี้ เบลเซอร์ (ขวา)

ไนกี้นำเสนอรองเท้ากลุ่มแพลนท์ คอร์ค แพ็ก (Plant Cork Pack) ที่ประกอบไปด้วยรองเท้าทั้งสไตล์คลาสสิกและสไตล์ใหม่ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกธรรรมชาติ โดยรองเท้าแต่ละรุ่นในกลุ่มแพลนท์ คอร์ค แพ็กถูกผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล เช่น แผ่นโพลีเอสเตอร์และผ้าชนิดอื่นๆ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของหน้ารองเท้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 พื้นของรองเท้ารุ่น ไนกี้ แอร์ฟอร์ซ 1 (Nike Air Force 1), เบลเซอร์ (Blazer) และเดย์เบรก (Daybreak) นั้นใช้จุกไม้ก๊อกที่บางส่วนรีไซเคิลมาจากอุตสาหกรรมการผลิตไวน์มาผสานลงไปกับเนื้อยางที่อัตราส่วนร้อยละ 9 เพื่อสร้างสไตล์การออกแบบแบบธรรมชาติ และเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้วัสดุต่างๆ ที่ลดน้อยลง

รองเท้าไนกี้ เครเตอร์ อิมแพ็ก

รองเท้าไนกี้ เครเตอร์ อิมแพ็กมีรากฐานจากรุ่นไนกี้ สเปซ ฮิปปี้ (Nike Space Hippie) โดยรองเท้ารุ่นนี้ใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบกว่าร้อยละ 25 ต่อน้ำหนัก โดยไนกี้ใช้การผสานชั้นวัสดุอย่างชาญฉลาด โดยใช้การเย็บบริเวณมุมรองเท้า และใช้ตราสัญลักษณ์สวูชของไนกี้แบบปักเพื่อช่วยลดเศษวัสดุ ส่วนกลางพื้นรองเท้าใช้ซอฟต์ เครเตอร์ โฟม (Soft Crater Foam) ที่มีนวัตกรรมไนกี้ ไกรน์เป็นส่วนประกอบที่ร้อยละ 10 ควบคู่กับวัสดุโฟมเพื่อความสวยงามและความมั่นคงขณะสวมใส่ การลดปริมาณวัสดุใหม่ที่ใช้ผลิตรองเท้ายังส่งผลให้คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon footprint) ของการผลิตรองเท้าลดลง นอกจากนี้ นวัตกรรมไนกี้ ไกรน์ยังส่งผลให้พื้นผิวของรองเท้ารุ่นนี้เป็นแบบเฉพาะตัว มีสีสันของส่วนกลางพื้นรองเท้าที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละคู่อีกด้วย

ในโอกาสนี้ ไนกี้ได้นำเสนอสีของรองเท้ากีฬาคอสมิก ยูนิตี้ (Cosmic Unity) ที่ผลิตโดยใช้วัสดุรีไซเคิลกว่าร้อยละ 25 ของน้ำหนักโดยรวม และใช้ส่วนกลางของพื้นรองเท้าแบบไนกี้ ไกรน์ เครเตอร์ โฟม (Nike Grind Crater Foam) ถึงร้อยละ 10 ช่วยเสริมความทนทานและการตอบสนองขณะแข่งขัน นอกเหนือไปจากรองเท้าคอสมิก ยูนิตี้แล้ว ไนกี้ยังนำเสนอรองเท้ากีฬาอีก 2 รุ่น คือรองเท้าไนกี้ แอร์ ซูม ซุเปอร์เรป 2 เน็กซ์ เนเจอร์ (Nike Air Zoom SuperRep 2 Next Nature) และรองเท้าไนกี้ วิกตอรี่ จี ไลท์ (Nike Victory G Lite) ซึ่งเป็นรองเท้าที่ใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นองค์ประกอบกว่าร้อยละ 20 ต่อน้ำหนักของรองเท้า เพื่อการระบายอากาศที่ดี

 

รองเท้ากีฬาคอสมิก ยูนิตี้ (ซ้าย) รองเท้าไนกี้ วิกตอรี่ จี ไลท์ (กลาง) และรองเท้าไนกี้ แอร์ ซูม ซุเปอร์เรป 2 เน็กซ์ เนเจอร์ (ขวา)

รองเท้าไนกี้ เครเตอร์ อิมแพ็ก วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 3,600 บาทที่ร้านไนกี้บางสาขา และบนเว็บไซต์ Nike.com

RECOMMENDED CONTENT

จบซีซั่นฟุตบอล FA Cup ไปแล้ว ก็ได้เวลาของ World Cup 2018 ที่ปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย โดยระหว่างการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล FA Cup รอบชิงชนะเลิศนั้น BBC Sport ก็ได้ปล่อยเทรลเลอร์สุดครีเอท เพื่อกระตุ้นให้คนตั้งหน้าตั้งตารอชมฟุตบอลโลกในปีนี้อย่างใจจดใจจ่อ

preload imagepreload image