fbpx

CONTACT US

หวนคืนสู่ยุคอนาล็อกอย่างมีสไตล์! Maxell เปิดตัว MXCP-P100 เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตต์ดีไซน์เรโทร พร้อมฟังก์ชันสุดล้ำ
date : 5.กรกฎาคม.2025 tag :

หวนคืนสู่ยุคอนาล็อกอย่างมีสไตล์! Maxell เปิดตัว MXCP-P100 เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตต์ดีไซน์เรโทร พร้อมฟังก์ชันสุดล้ำ

ในยุคที่เทรนด์ Y2K และความวินเทจกลับมาครองใจผู้คนอีกครั้ง ดูเหมือนว่าสื่อรูปแบบเก่าๆ อย่างเทปคาสเซ็ตต์ก็กำลังกลับมาได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ล่าสุด Maxell แบรนด์ที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในฐานะผู้ผลิตเทปคาสเซ็ตต์ระดับตำนาน ก็ได้ปลุกชีพมนต์เสน่ห์แห่งอนาล็อกให้กลับมาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Maxell MXCP-P100 เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตต์พกพารุ่นใหม่ที่มาพร้อมการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างดีไซน์สุดคลาสสิกและเทคโนโลยีสมัยใหม่

เครื่องเล่นเทปรุ่นใหม่นี้ไม่ได้เป็นเพียงการย้อนอดีต แต่เป็นการอัปเดตให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ปัจจุบันอย่างแท้จริง ฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดคือการรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ให้คุณสามารถฟังเพลงจากเทปคาสเซ็ตต์ม้วนโปรดผ่านหูฟังหรือลำโพงไร้สายคู่ใจได้อย่างสะดวกสบาย แต่สำหรับใครที่ยังหลงใหลในความคลาสสิก ก็ยังมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้ใช้งานเช่นกัน

 

ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก MXCP-P100 ได้รับการออกแบบมาเพื่อคารวะยุค 80’s อย่างแท้จริง โดดเด่นด้วย ปุ่มควบคุมการเล่นขนาดใหญ่ ที่คุ้นตา ทั้งปุ่มเล่น (Play), หยุด (Stop), กรอไปข้างหน้า (Fast Forward) และกรอกลับ (Rewind) เพิ่มความพรีเมียมด้วย วงล้อทองเหลืองสำหรับปรับระดับเสียง ที่ให้สัมผัสสุดคลาสสิก นอกจากนี้ ด้วยน้ำหนักเพียง 210 กรัม ทำให้เป็นไอเทมที่พกพาไปสร้างบรรยากาศได้ทุกที่

Maxell ยังได้ใส่ใจในรายละเอียดที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยเปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ผ่านพอร์ต USB-C ซึ่งสามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้นาน 7-9 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หมดกังวลเรื่องการหาซื้อถ่านไปได้เลย 

Maxell MXCP-P100 ถือเป็นไอเทมที่นักสะสมหรือผู้ที่โหยหาเสน่ห์ของวันวานต้องมีไว้ในครอบครอง โดยมีให้เลือก 2 สี คือสีดำและสีขาว วางจำหน่ายแล้วในประเทศญี่ปุ่น ในราคา ¥13,000 เยน (หรือประมาณ 3,300 บาท)

RECOMMENDED CONTENT

8.มกราคม.2024

“Epic Worlds” โปรเจ็กต์ภาพยนตร์สั้นสุดพิเศษซึ่งถ่ายทำด้วย Galaxy S23 Ultra สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของการสร้างคอนเทนต์โดยใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งการถ่ายทำผ่านขั้นตอนการระดมทุนจากมวลชนก่อนจะนำมาตัดต่อเข้าด้วยกันและเผยแพร่สู่สาธารณะ โดย “Epic Worlds” เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของการทำงานร่วมกัน