หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน (The Jim Thompson Art Center), KADIST (San Francisco/Paris), Para Site (Hong Kong) ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย นำเสนอ Soil and Stones, Souls and Songs นิทรรศการสัญจรบนพื้นฐานของสายสัมพันธ์เชิงศิลปะวัฒนธรรมและแนวคิดร่วมสมัยในเขตเอเชียรวมถึงในพื้นที่อื่นๆ คัดสรรผลงานโดย คอสมิน คอสตินาส (Cosmin Costinas) ผู้อำนวยการของพื้นที่ศิลปะ Para Site ฮ่องกง และอินทิ เกเรโร่ (Inti Guerrero) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และภัณฑารักษ์ร่วมของ TEOR/éTica พื้นที่ศิลปะแบบไม่แสวงหาผลกำไรที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคละตินอเมริกา

โดยศิลปิน อาทิ หลี่ หราน / ประภาการ์ พัชปุเต / ปรัชญา พิณทอง / ชิตะมิจิ โมโตยูกิ / จุฬญาณนนท์ ศิริผล / สุทธิรัตน์ ศุภปริญญา / ชึง คอง ตุง / แฮก หยาง / เทรเวอร์ ยัง ได้ทดลองสร้างงานศิลปะทั้งอย่างตรงไปตรงมา และเชิงสัญลักษณ์ในประเด็นต่างๆ เช่น การเปลี่ยนถ่ายเชิงการเมือง โครงสร้างทางสังคม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการคุกคามสภาพแวดล้อม เป็นต้น

นิทรรศการ Soil and Stones, Souls and Songs พูดถึงเรื่องราวของพลังตลาดโลกที่ระเบิดออกมาในภูมิภาคเอเชียได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของการผลิต แรงงาน ภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อม รวมถึงโครงสร้างทางสังคมที่ส่งผลกระทบไปทั่วภูมิภาค ความวิตกกังวลของโลกใหม่ และความทะเยอทะยานในการแข่งขันกันในสังคม

ความคิดเหล่านี้ที่ส่วนใหญ่พยายามวางตัวเองลงในตำแหน่งขั้วตรงข้ามในประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม ที่มักถูกมองว่าเป็นแนวคิดนอกคอก กระทั่งไม่อยู่ในมาตรวัดของความเป็นสมัยใหม่แบบตะวันตก บ่อยครั้งที่ความคิดเหล่านี้ถูกพัฒนาไปเป็นงานที่เกิดขึ้นบนฐานของอุดมการณ์ทางความคิดแบบผสมผสานและซับซ้อน ซึ่งงานเหล่านี้ต่อยอดมาจากการดิ้นรนต่อต้านอาณานิคม และจากกระบวนการสร้างชาติในยุคหลังอาณานิคม ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นคืนชีพของภูมิภาค และอาจมองได้ว่ากำลังเป็นวิกฤตการณ์ในโลกตะวันตก

กล่าวได้ว่าแนวคิดดูต่างกันสิ้นเชิง ระหว่างลัทธิขงจื๊อใหม่ที่กำลังถูกรื้อฟื้นโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน เข้ากับแนวคิดใหม่ของการเป็นชนพื้นถิ่นในทั่วทุกภูมิภาคที่เคยตกเป็นเมืองอาณานิคม ตั้งแต่เมลานีเซียไปจนถึงอเมริกา ซึ่งอาจเป็นการฟื้นคืนของลัทธิชาตินิยมในหลายประเทศทั่วโลก ปรากฏการณ์หลังนี้เองที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการชำระประเด็นทางประวัติศาสตร์และตำนาน (ทั้งของชุมชนต่างๆ และของโลกเอง) เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และเชิงนิเวศน์

อย่างไรก็ดี ความหวาดกลัวนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นในเอเชีย การแสวงหาพื้นที่ยิ่งชัดเจนขึ้นจากการสูญเสียความแน่นอน ความวิตกกังวลในการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์ในยุคหลังอาณานิคมและยุคหลังสงครามเย็น และจากความยากลำบากและความโหดร้าย ซึ่งบ่อยครั้งมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม

นิทรรศการครั้งนี้จะส่งผ่านความซับซ้อนนี้ออกไปในรูปแบบ วัตถุ และสาระของงานศิลปะ จะแปลบริบทความวิตกกังวลที่เรากำลังชี้ให้เห็นนี้ถึงขอบเขตของความซับซ้อนอันไม่สิ้นสุดในภูมิภาคของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงความความซับซ้อนในการนิยามวัตถุและภาพของจีนที่เป็นศูนย์กลางของประเด็นต่างๆ เหล่านี้

นิทรรศการนี้พยายามตอบคำถามต่างๆ ผ่านสายสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องกัน และผ่านกรณีศึกษาแยกเดี่ยวต่างๆ ที่เมื่อรวมกันสร้างมุมมองที่หลากหลายต่อเรื่องของเรา นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับศัพท์เชิงสุนทรียศาสตร์และการสืบหาความเป็นสมัยใหม่แบบไม่ตะวันตก ว่าถูกสะท้อนออกมาอย่างไรในการอ้างอิงรูปแบบทางศิลปะที่ศิลปินในแต่ละรุ่น จากแต่ละพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เลือกใช้ในกระบวนการสร้างงาน ในขณะที่เรื่องราวจำนวนไม่น้อยสืบย้อนต้นกำเนิดได้ในภูมิภาคเอเชีย

อีกทั้งพยายามทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ ด้วยการสืบค้นต้นตอกลับไปหาเสียงและเงาสะท้อนที่อยู่นอกเหนือฟากฝั่งทวีปออกไป ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล

นิทรรศการ Soil and Stones, Souls and Songs
WHERE : หอศิลป์  บ้านจิม ทอมป์สัน
WHEN : 15 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2560 / 9.00 น. – 20.00 น.
ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม (FREE ENTRY)
โทร.02-612-6741
https://www.facebook.com/jimthompsonartcenter/

—