fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#MovieGuide : 5 หนังว่าด้วยความสัมพันธ์สุด Weird
date : 13.พฤษภาคม.2016 tag :

5 Weird Relationship films Dooddot Cover

ตั้งแต่โลกนี้มีมนุษย์มากกว่า 1 คน วิชาที่เรียกว่า ‘มนุษย์สัมพันธ์’ ก็ถูกนำมาพร่ำสอนซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เราอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ แต่ในหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดประวัติศาสตร์โลก ก็ชวนให้ตั้งคำถามเสียเหลือเกินว่าตกลงแล้วมนุษย์ ‘เข้าใจ’ จริงๆ หรือในเรื่องความสัมพันธ์ ที่ไม่ใช่แค่กับมนุษย์ แต่ยังรวมถึง ธรรมชาติ สัตว์ และสิ่งของ วิชาที่ไม่เคยง่ายนี้จึงถูกใส่มาอย่างแนบเนียนผ่านแผ่นฟิล์มหลายต่อหลายเรื่องเพื่อสะกิดเราให้กลับมาลงทะเบียนนั่งเรียนกันอีกครั้งหนึ่ง

5 Weird Relationship films Dooddot 1

5 Weird Relationship films Dooddot 2

1. Lars and the Real Girl (2007)
Director: Craig Gillespie

เชื่อว่าทุกคนต่างมี ‘Comfort Zone’ เป็นของตัวเอง ในโซนอุ่นใจนั้นอาจใช้เป็นที่หลบภัย เป็นที่พักใจ หรือเอาไว้ปล่อยความฝันที่ไม่มีทางเป็นไปได้ในชีวิตจริงออกมาวิ่งเล่น เหมือนกับ ‘ลาร์ส ลินสตอร์ม’ (Ryan Gosling) มนุษย์เงินเดือนผู้มีปัญหากับการเข้าสังคม มักจะสะดุ้งโหยงทุกครั้งหากมีใครเข้าใกล้ มีชีวิตอยู่ในที่ทำงานแล้วก็กลับมานั่งหงอยๆ คนเดียวที่บ้านในตอนค่ำ ทุกวันของลาร์สดำเนินไปอย่างเงียบเหงาซ้ำไปซ้ำมาเหมือนนิยายเรื่องเดิม วันหนึ่งเขาตัดสินใจซื้อตุ๊กตายางสาวหน้าตาคมเข้ม ขนาดตัวเท่าคนจริงจากเว็บไซต์ขาย Sex Doll และเริ่มแนะนำกับใครต่อใครว่า ‘บิอังก้า’ คน (ตัว) นี้นี่ละคือแฟนสาวของเขาเอง ท่ามกลางความมึนตึบของคนรอบข้าง พี่ชายและพี่สะใภ้ของลาร์สจึงต้องพาไปปรึกษาจิตแพทย์แบบด่วนๆ เรื่องราวประเภทคนมีความสัมพันธ์ตุ๊กตาอาจไม่ใช่เรื่องใหม่จนถึงกับว้าว แต่เราชอบตรงที่หนังไม่ได้วิพากษ์ว่าอาการป่วยทางใจเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะ กลับรักษาอุณหภูมิของเรื่องให้รู้สึกฟีลกู้ดอบอุ่บและซาบซึ้งด้วยความเข้าใจและความเอื้ออาทรอย่างไม่มีเงื่อนไขของครอบครัว เพื่อนฝูง รวมถึงคนรอบข้าง ซึ่งทั้งหมดเป็นยาใจขนานดีที่เราต่างต้องการจากมนุษย์ด้วยกัน ไม่ใช่ตุ๊กตาที่ไหนจะทำได้

5 Weird Relationship films Dooddot 3

5 Weird Relationship films Dooddot 4

2. Her (2013)
Director: Spike Jonze

พูดถึงความสัมพันธ์แปลก ขาดหนังเรื่องนี้ไปก็คงกระไรอยู่ เพราะ Her ได้สร้างความ Epic  ในรอบหลายปีมานี้นับตั้งแต่ออกฉาย ทั้งในแง่นักวิจารณ์และความรู้สึกอิมแพ็คบางอย่างที่เกิดขึ้นกับคนดู ทั้งองค์ประกอบดีงาม ฉาก เสื้อผ้าหน้าผม บทพูด ซาวนด์แทร็กเคว้งคว้างฝีมือวง Arcade Fire ไปจนถึงสัญลักษณ์มากมายที่หนังใส่ไว้เต็มไปหมดจนถึงขั้นมีคนจับมาถอดรหัสได้เป็นฉากๆ

คงเป็นเพราะโลกสีฝุ่นในหนังเรื่องนี้ดูไม่ไกลเกินความจริงกับสิ่งที่มนุษย์ยุคเรากำลังเผชิญ อยู่เท่าไร เรามีรถหรูๆ ขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปได้ เทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้า แต่ทำไมยังเหว่ว้าและรู้สึกว่าไร้ที่พึ่ง ตึกสูงเป็นได้แค่ที่พักกายแต่ไม่เคยเป็นที่พักใจ หรือแม้กระทั่งจะติดต่อสื่อสารกันด้วยเรื่องธรรมดาๆ ก็ยังต้องผ่านตัวกลางช่วยกรองออกมาเป็นคำพูดสวยๆ ก่อน สิ่งนี้ยิ่งทำมนุษย์  ‘ห่าง’ กันออกไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว

เมื่อความสัมพันธ์สัมพันธ์ในชีวิตจริงล้มเหลว จึงไม่แปลกหากธีโอดอร์ (Joaquin Phoenix) จะตกหลุมรักอย่างง่ายดายกับคอมพิวเตอร์สาวเสียงเซ็กซี่ ‘ซาแมนธา’ (Scarlett Johansson) ที่เข้ามาเยียวยาความเจ็บปวดของเขาในเวลานั้น แสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลาที่อ้างว้างที่สุด มนุษย์พร้อมจะยึดเหนี่ยวบางอย่างโดยไม่สนว่าสิ่งนั้นจะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตาม แต่หากความเห็นอกเห็นใจและการแชร์ทุกข์สุขร่วมกันเป็นองค์ประกอบหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่าความรัก ก็ไม่อาจเถียงได้เลยว่าความสัมพันธ์ของคนกับคอมพิวเตอร์ ณ  ขณะนั้นไม่ใช่รัก แม้เวลาที่ต้องพรากจาก มันก็ยังสามารถทำเราเสียน้ำตาได้ไม่ต่างกับความสัมพันธ์ของคนกับคนสักนิด นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนจึงหลงรักโลกหม่นๆ ของผู้กำกับฯ Spike Jonze ที่ทั้งสวยงาม แสนเศร้า และเหงาโคตรไปพร้อมกัน 

5 Weird Relationship films Dooddot 5

5 Weird Relationship films Dooddot 6

3. The Tree (2010)
Director: Julie Bertuccelli

ถ้าผลงาน The Tree of Life ของผู้กำกับฯ เทอเลนซ์ มาลิค หมายถึงต้นไม้แห่งชีวิต The Tree เรื่องนี้ก็คงเป็นต้นไม้แห่งความตาย มันเริ่มจากความดราม่าบังเกิดกับครอบครัวหนึ่ง ณ เมืองเงียบเหงาในควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย เมื่อผู้เป็นพ่อขับรถพุ่งชนต้นไม้เสียชีวิต ซึ่งต้นไม้เจ้ากรรมขนาดใหญ่ต้นนี้ก็ดันอยู่หน้าบ้านพอดิบพอดีเสียด้วย หลังจากโศกนาฏกรรมของพ่อผ่านไปไม่นานคนในบ้านก็พบว่ามักจะมีเหตุการณ์ประหลาดๆ เกิดขึ้น ลูกสาวตัวน้อยจึงเริ่มเชื่อว่าพ่อของเธอต้องมาสิงอยู่ในต้นไม้แน่ๆ เวลาผ่านไป ต้นไม้แผ่กิ่งก้านสาขา ชอนไชรากจนเกือบจะทำให้บ้านพังแหล่ มิพังแหล่ ชาวบ้านแถวนั้นจึงพยายามส่งคนมาโค่นมันทิ้งเสีย แต่ครอบครัวนี้กลับดึงดันไม่ยอมให้ใครมาโค่นลูกเดียว หนังยาวเรื่องแรกของผู้กำกับฯ Julie Bertuccelli ที่เคยทำงานสารคดีมาก่อนอาจไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าไรในแง่ของการดำเนินเรื่องแบบเอื่อยๆ แล้วความสัมพันธ์ของคนกับต้นไม้ใน The Tree ก็ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาจะมาบอกว่า ‘อย่าทำลายต้นไม้กันนะ’ แต่กำลังใช้ต้นไม้เป็นตัวตั้งคำถามว่าไอ้สิ่งที่เรากำลังเชื่ออยู่นั้นมันจริงแท้แค่ไหน ความยึดมั่นอย่างเอาเป็นเอาตายก่อให้เกิดทุกข์หรือสุขกันแน่ หรือบางครั้งเราอาจต้องยอมปล่อยวางเรื่องที่ผ่านไปแล้วเพียงเพื่อเรียนรู้ที่จะเริ่มต้นใหม่ให้เป็นเท่านั้นเอง

5 Weird Relationship films Dooddot 7

EXM_D018_02799.jpg HAND OUT PRESS PHOTOGRAPH / FILM STILL FROM THE MOVIE EX MACHINA. DOWNLOADED FROMTHE UPI MEDIA SITE

4. Ex Machina (2015)
Director: Alex Garland

เราคุ้ยเคยกับหนังประเภทมนุษย์กับหุ่นยนตร์กันมาตั้งแต่ไหนไร ไม่ว่าจะหุ่นพี่ Robocop สุดเท่ปี 1987, หุ่นมุ้งมิ้งกู้โลก Wall-E ในแอนิเมชันปี 2008, หุ่นนักมวยรักเด็ก Real Steal ปี 2011, หุ่นฮิปฮอปพูดมากใน Chappie เมื่อปีที่แล้ว และอีกมากมายหลายหุ่น ซึ่งส่วนใหญ่อาจไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์กับหุ่นยนตร์แบบลงลึกมากไปกว่าโชว์วิวัฒนาการ ความล้ำของเทคโนโลยีโน่นนั่นนี่ หรือความอัจฉริยะของมนุษย์แห่งโลกอนาคตผ่านมุมมองในแต่ละยุค

จนเมื่อปีก่อนผู้กำกับฯ ที่เคยทำเอาหลายคนประทับใจความคัลต์เลือดสาดจากหนังผีดิบเรื่อง 28 Days Later อย่าง อเล็กซ์ การ์แลนด์ ได้หยิบเอาหุ่นยนตร์มาเล่าอย่างมีชั้นเชิงใน Ex Machina ว่าด้วยเรื่องของเคเล็บ (Domhnall  Gleeson) โปรแกรมเมอร์หนุ่มที่อยู่ๆ ก็ได้รับเลือกให้ไปเป็นผู้ทดสอบหุ่นยนตร์ในคฤหาสน์หรูอันไกลลิบของโปรแกรมเมอร์มหาเศรษฐี (Oscar Isaac) ที่ใช้ชีวิต (เหมือนจะ) สันโดษหมกตัวอยู่กับการสร้างหุ่นให้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด ทุกวันเคเล็บต้องพูดคุยกับหุ่นสาว เอวา (Alicia Vikander) เพื่อทดสอบการทำงานของกลไกสมอง อารมณ์ และความรู้สึกนึกคิดของเธอ ความเจ๋งอยู่ตรงที่เรื่องราวถูกเล่าไปอย่างเรียบๆ แต่เต็มไปด้วยความอึดอัด ค่อยๆ พาเราดำดิ่งสู่ด้านมืดในจิตใจ แล้ว Ex Machina ก็ตลบหลังคนดูอย่างแสบสันด้วยการเผยให้เห็นผลลัพธ์ที่ตามมาจากอัตตาหนาแน่นของมนุษย์ที่มักจะทึกทัก เอาว่าตัวเองอยู่เหนือสิ่งอื่นใดในโลก เล่นเอาหงายเงิบไปตามๆ กันตอนท้ายเรื่อง

_DSC2825.NEF

5 Weird Relationship films Dooddot 10

5. Ruby Spark (2012)
Director: Jonathan Dayton, Valerie Faris 

หากยังจำได้ เราเคยจัดเรื่องนี้ไว้ใน 5 หนังสำหรับ Summer มาแล้วครั้งหนึ่ง และคราวนี้เราก็ไม่เกี่ยงถ้าจะยกมาไว้ในลิสต์ นี้อีก ก็เพราะทึ่งไอเดียหลุดโลกของผู้กำกับฯ คู่หูโจนาธาน เดย์ตัน กับวาเลอรี ฟาริส (Little Miss Sunshine) ที่เอาเรื่องยากๆ อย่างความสัมพันธ์มาเล่าด้วยอารมณ์ขัน นักเขียนสติเฟื่อง คาร์ลวิน เวียร์ฟิลด์ (Paul Dano) ตัวเอกของเรื่องผู้มีชีวิตคล้ายคลึงกับธีโอดอร์จากหนัง Her ตรงที่ความสัมพันธ์ในชีวิตจริงต่างก็ไม่เอาไหนกันทั้งคู่ จึงหนีไปสร้างสัมพันธ์กับสาวในจินตนาการแทน แต่ความเก่งฉกาจของ Ruby Spark คือการปล่อยให้สิ่งที่ดูเหมือนจะไม่มีชีวิตออกมาโลดแล่นเสมือนว่ามีชีวิตจริงซะงั้น ทำเราเพลินจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของมันได้อย่างน่าชื่นชม พร้อมกับค่อยๆ ตะล่อมสอนวิชาความสัมพันธ์ที่ไม่ว่าเราจะผ่านโลกมามากแค่ไหน ผมจะหงอกหรือตีนกาจะขึ้นไปแล้วกี่เส้น สุดท้ายแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งบทเรียนที่หนึ่งยังคงสำคัญเสมอจนต้องกลับไปเปิดทบทวนอยู่เรื่อยๆ จริงไหม?!

Writer: Wednesday Adam

RECOMMENDED CONTENT

1.กรกฎาคม.2024

เพลงนี้เล่าถึงแรงเสียดทานในชีวิตที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดบนโลกก็ล้วนแล้วแต่ต้องพบเจอแรงเสียดทานนี้ ที่เกิดขึ้นจากการกดทับโดยบริบททางสังคม วัฒนธรรม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันในแบบต่าง ๆ ที่คนคนหนึ่งต้องเจอ เพราะถึงแม้จะนับ 1 ถึง 100 เพื่อที่จะทำให้ตัวเองสงบใจ แต่สุดท้ายวันหนึ่งสิ่งนี้มันก็อาจจะเกินกว่าที่จะทนไหว และปลดปล่อยความรู้สึกที่ถูกเก็บไว้ออกมาก็เป็นได้