เคยไหมเวลาเดินเข้าร้านกาแฟสุดน่ารัก แล้วงงกับเมนูกาแฟที่มีอยู่ในร้านจนไม่รู้จะสั่งอะไรดี วันนี้เรามีไกด์ง่ายๆสำหรับมือใหม่หัดดื่มให้พวกเรา ได้เรียกกันถูกและยังดูดีมั่นใจในการสั่งเครื่องดื่มในร้านหรูเหล่านี้อีกด้วย !

Americano (อเมริกาโน่)

กาแฟดำที่ใส่ กาแฟ espresso ในปริมาณ 1 – 2 Shot และเติมน้ำร้อนตามเข้าไป ทำให้ต้องดื่มในแก้วที่ใหญ่กว่าการดื่ม Espresso

Caffè Mocha (มอคค่า)

กาแฟมอคค่า คือกาแฟ + นม + ช็อกโกแลต  และท๊อปด้วยวิปครีม (whipped cream) วิธีการชงสามารถทำได้ในหลายขั้นตอนอยู่ที่ผู้ชง

Espresso (เอสเพรสโซ่)

การกลั่นน้ำกาแฟออกมาจากเมล็ดที่บดแล้วโดยเครื่อง โดยที่จะให้รสเข้มของกาแฟแบบเข้มข้น และนิ่มนวลเป็นพิเศษ  โดยอาจจะใช้เวลา 18-23 วินาที จะได้น้ำกาแฟ Espresso 1 shot

Cappuccino (คาปูชิโน่)

กาแฟ espresso 1 – 2 shot เทลงในแก้วที่มีนมครึ่งหนึ่งและ โฟมของนมครึ่งหนึ่ง หรือจะได้เป็นส่วนประกอบ 3 ส่วนของ กาแฟ espresso, นม และ โฟม

Latte (ลาเต้)

การที่ผสมระหว่างนม และ กาแฟespresso

Macchiato (มัค-คีย-อา-โต้)

คำว่า Macchiato มาจากภาษา Italian แปลว่าทำให้เป็นรอย หรือ คราบ Caffé Macchiato  คือการทำ espresso มาผสมกับนม ในปริมาณไม่มาก และทำให้เกิดร่องรอยเป็นรสชาติของเครื่องดื่ม นิยมใส่รสชาติอื่นๆเข้าไปเช่นการทำ Caramel Macchiato (คาราเมล)  เช่น การดื่มที่จะได้รสนมก่อน แล้วค่อยลื้มรสของ กาแฟ espresso และคาราเมล

French Press (เฟรนช์-เพรส)

เครื่องมือชงกาแฟแบบโถหรือเหยือก การชงกาแฟวิธีนี้ ไม่ได้ใช้เครื่อง Espesso แต่เป็นการนำเมล็ดกาแฟที่บดแล้วมาแช่น้ำร้อนในเครื่อง  French Press แล้วกดก้านของตัวกลองลงเพื่อให้ได้กาแฟดำในเหยือกนั้น

decaffeinated coffee / decaf coffee  (ดี-แคฟ)

วิธีการชงกาแฟที่ลดปริมาณของคาเฟอีนลง หรือ ทำให้หมดไป

Barista (บาริสต้า)

คำศัพท์ที่ใช้เรียก นักชงกาแฟ มืออาชีพ