
วันนี้ดู๊ดดอทได้รับเชิญจาก Bo.lan Educational Program (BEP) หรือโรงเรียนสอนทำอาหารของ ‘เชฟโบ’ ดวงพร ทรงวิศวะ จากร้านโบ.ลาน ที่อยากแชร์เรื่องราวของอาหารโดยเฉพาะอาหารไทยให้รู้จักและเข้าใจต้นทางของแต่ละจาน
โดยเวิร์คช็อปจะเป็น ‘Thai Cusine 101 – 108’ ทำอาหารแบบครึ่งวันจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง กับ 3 เมนูอาหารไทยยอดนิยม ซึ่งคลาส 101 – 108 จะมีเมนูที่แตกต่างออกไป พะแนง แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดไท ส้มตำ ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น
เชฟโบเล่าให้ฟังว่าการทำเรียนที่นี่ไม่เพียงแค่สอนให้ทำอาหารเป็น แต่ยังเข้าใจที่มาที่ไปของอาหารอีกด้วย “นอกจากเราจะเน้นให้คนทำอาหารเป็น เรายังเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมและระบบอาหาร เราจะเล่าเรื่องเหล่านี้ผ่านการเรียนทำอาหาร” วัตถุดิบที่ใช้ในคลาสเรียนและร้านโบ.ลาน ล้วนอินทรีย์ทั้งสิ้น “วัตถุดิบที่เราใช้เราซื้อตรงกับเกษตรกรรายย่อย เพราะฉะนั้นวัตถุดิบที่ทุกคนใช้ในคลาสจะเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในร้านโบ.ลาน ทุกอย่างล้วนเป็นวัตถุดิบอินทรีย์”
ในคลาสวันนี้เราเรียน ‘Thai Cusine 104’ แกงเขียวหวานไก่, ปลาสามรส และ ส้มตำไทย โดยเชฟโบเน้นย้ำว่าการทำคลาสเพื่อให้ทุกคนที่มาเรียนเข้าใจอาหารมากขึ้น “ความเป็นโบ.ลาน ก็อยากให้ทุกคนได้เห็น ได้เข้าใจ กระบวนการและภูมิปัญญาที่อยู่ในอาหาร เมื่อเข้าใจตรงนี้แล้วมูลค่าและคุณค่าของอาหารไทยจะถูกเชิดชูขึ้นไปอีก”
เมื่อถึงเวลาเรียนเชฟโบบอกว่าจะทำให้ดูก่อนแล้วค่อยกลับไปทำที่โต๊ะของตัวเอง โดยจะมีวัตถุดิบเตรียมไว้ให้เรียบร้อย แต่ที่น่าตกใจคือเครื่องปรุงที่วางบนโต๊ะ มีเพียง เกลือ, น้ำปลา และน้ำตาลมะพร้าวเท่านั้น “โบอยากทำให้รู้ว่าถ้าเราเข้าใจอาหาร เข้าใจวัตถุดิบและมีเครื่องปรุงที่ดี เราแทบไม่ต้องใส่อะไรเยอะ”
1. แกงเขียวหวานไก่
แกงเขียวหวานที่ได้รสหวานจากกะทิคั้นสดโดยไม่พึ่งน้ำตาล หวานและมันตามธรรมชาติ เป็นหนึ่งในแกงที่ทุกคนรัก อยู่เคียงคู่โต๊ะกับข้าวมาตั้งแต่จำความได้ แกงที่เชฟโบสอนรสชาติเริ่มจากเผ็ด เค็ม และหวานมันจากกะทิ หอมใบโหรพา เนื้อไก่ที่ใช้วันนี้มาเป็นไก่สุขภาพดี เลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติให้ได้เนื้อที่แน่นใส่ในแกงได้เคี้ยวสนุก มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยนิดนึง เชฟโบบอกว่าแกงกะทิควรใส่มะเขือพวงลงไปหน่อย เพราะมีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาที่รักษากันมายาวนาน และอีกอย่าง การเคี่ยวกะทิให้แตกมันเป็นขี้โล้ก่อนใส่เครื่องแกง จะทำให้น้ำแกงหอมขึ้นอีกด้วย
เครื่องปรุงที่ใช้มีเพียงเกลือและน้ำปลาเท่านั้น แต่ความหวานธรรมชาติจากกะทิคั้นสดเติมเต็มความสดชื่นได้อย่างน่าสนใจ
______________________
2. ปลาสามรส
รสชาติของปลาสามรสเริ่มจากตรงนี้ รากผักชี กระเทียม ข่า พริกไทยอ่อน โขลกพอหยาบลงไปผัดกับน้ำมันให้หอมสุก ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก น้ำตาลมะพร้าวและน้ำปลา เมื่อได้รสชาติและน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีคาราเมลสวยงาม เราไปทอดปลากันต่อ วันนี้ใช้ปลากะพงแดงสดจากเครือข่ายรักษ์ปลา-รักษ์ทะเล แล่เนื้อปลาให้เรียบร้อย เหยาะน้ำปลาลงนิดนึงแล้วคลุกกับแป้งแป้งข้าวเจ้า จากนั้นทอดให้เหลืองกรอบ และนำไปคลุกกับน้ำสามรส ยกลงจานโรยด้วยหอมเจียว กระเทียมเจียว พริกแดดทอด ปิดท้ายด้วยใบมะกรูดซอยบางๆ ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ สดชื่น
เครื่องปรุงมีแค่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลมะพร้าวและน้ำปลา เท่านั้น แต่ทำรสชาติออกมาได้อร่อย โดยที่รสชาติเปรี้ยว เค็มและหวาน ไม่ได้ทำลายรสชาติของปลาแม้แต่น้อย กลายเป็นช่วยผลักดันกันไปข้างหน้า แถมยังได้ความกรอบของกระเทียมเจียวและหอมเจียว ช่วยกันให้จานนี้เคี้ยวสนุกขึ้นไปอีก
______________________
3. ส้มตำไทย
ปิดท้ายด้วยเมนูที่เราคุ้นเคยอย่างส้มตำไทยที่มีภาพจำว่าใส่ผงนัวร์สิจะได้อร่อย ยิ่งใส่เยอะยิ่งนัวร์ประมาณนั้น แต่เชฟโบบอกว่าถ้าเราปรุงรสชาติอย่างเข้าใจ เมนูดั้งเดิมนี้แทบไม่มีอะไรซับซ้อนและกลับไปทำเองที่บ้านได้สบายใจ
เริ่มจากโขลกกระเทียมกับพริกจินดาให้พอหยาบ จากนั้นใส่กุ้งแห้ง หั่นถั่วฝักยาวและมะเขือสีดาตำพอแหลกให้รสเปรี้ยวเล็กๆ ของมะเขือเทศสีดาออกมา ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำมะขามเปียก น้ำตาลมะพร้ามและน้ำปลา ให้มีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน ใส่มะละกอดิบสับเป็นเส้นลงไป ตำเบามือให้น้ำมะละกอออกมาแล้วใส่ถั่วลิสงคั่วเป็นอันจบ ตักใส่จานพร้อมข้าวเหนียวไก่ย่าง
สิ่งที่น่าตกใจเมื่อตำเสร็จ เชฟโบหันมาถามว่าอร่อยไหม ซึ่งทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน “เห็นไหมว่าอร่อยได้โดยไม่ต้องใส่ผงนัวร์” เชฟโบย้ำ ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันอีกครั้ง เพราะส้มตำจานนี้อร่อยจริง
และข้อย้ำอีกครั้งว่าจานนี้มีเครื่องปรุงแค่ มะนาว มะขามเปียก น้ำตาลมะพร้าวและน้ำปลาเท่านั้น
______________________
ก่อนกลับเชฟโบย้ำว่า ถ้าเราเข้าใจอาหารตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เราจะใช้วัตถุดิบอย่างเข้าใจ ไม่ใส่อะไรที่มากจนเกินไป ซึ่งสิ่งนี้เห็นด้วยเต็มๆ จากการเรียนวันนี้ ทำให้เข้าใจโครงสร้างอาหารมากขึ้น ซึ่งโปรแกรมนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เราเข้าใจเรื่องอาหารเท่านั้น แต่สำหรับคนที่อยากหากิจกรรมใหม่ๆ ให้กับตัวเอง การเข้าครัวได้ทำอาหารอร่อย ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย รวมถึงชาวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทยหรือมาอยู่ประเทศไทยครั้งแรก ที่นี่ก็พร้อมจะให้ความรู้เรื่องราวอาหารไทยอย่างแท้จริง
สำหรับ Bo.lan Educational Program เปิดวัน จันทร์ อังคาร พฤหัสบดี และวันศุกร์
มีคลาสครึ่งวันและเต็มวัน
เช้า 10:30 น.
บ่าย 13:30 น.
เย็น 18:00 น.
และเต็มวัน 10:30 – 16:00 น.
สามารถเข้าไปดูตารางสอนและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/bolaneduprogram/
Line @bo.lan หรือโทร. 02 260 2962
RECOMMENDED CONTENT
“TIME TO AWAKEN YOUR ZIMBE SPIRIT” ถึงเวลาเดินทางให้สุด ไม่หยุดไปต่อ เรื่องราวการปลุกจิตวิญญาณของนักเดินทางอย่าง ZIMBE (จิมเบ) พร้อมกับเพื่อนผู้สร้างตำนานการเดินทางร่วมกันอย่าง อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ที่ครั้งนี้กลับมาในฐานะ Seiko brand friend คนแรกของปี 2022 และมาพร้อมเรื่องราวจากการกลับมาออกเดินทางอีกครั้ง หลังจากที่โลกหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง มาดูกันว่าในครั้งนี้ นักเดินทางผู้สร้างตำนานจะพาพวกเราไปเจอกับอะไรบ้าง?