fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#Entrepreneur : ‘The Way of Success’ ชีวิตก่อนจะประสบความสำเร็จของเหล่า Inspirater ที่สร้างแรงบันดาลให้เด็กยุคใหม่
date : 26.กันยายน.2016 tag :

careerVisa the way of success Dooddot 1

เคยสงสัยกันไหมว่าคนที่ประสบความสำเร็จ เค้ามีเรื่องราวชีวิตอย่างไรกัน ใครที่คิดว่าเด็กเรียนเก่ง จบมาทำอะไรก็ต้องสำเร็จ ในความเป็นจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ในขณะที่เด็กบางคนที่ชีวิตไม่เคยมีทิศทาง แต่เมื่อถึงจุดที่ชีวิตพลิกผัน วันหนึ่งเค้าจะกลายเป็นคนที่ผู้คนชื่นชมมากมาย วันนี้ดู๊ดดอทมีบทสนทนาจาก พี่โท (นิพันธ์ ศรีสุขุมบวรชัย) Partner อายุน้อยจาก PwC พี่เอม (อมฤต เจริญพันธ์) Co-Founder และ CEO ของ Hubba พี่ก่าก๊า (กุลภาอร จันทร์สระแก้ว) เจ้าของ BrandAholics และ พี่นิ้ง (ศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย) Head of SMB Marketing จาก Google พี่ๆทั้งสี่คนจะมีเรื่องราวความเป็นมาอย่างไรกว่าจะมาถึงวันนี้ได้มาติดตามกันเลย

careerVisa the way of success Dooddot 2

ถ้าย้อนเวลากลับไปในช่วงมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเตรียมตัวหางานอย่างไร?

พี่ก่าก๊า: ตอนเรียนจบก็คงเหมือนทุกคนที่จะต้องหางาน พี่ก็ทำ Resume แล้วก็คิดว่า Resume เราเจ๋งมากเลย เพราะเรามีภาษีดีกว่าคนอื่นตรงที่เราได้ฝึกงาน ใช้เวลาปั้น Resume อยู่นานมากว่าอะไรคือสิ่งที่เราเจ๋ง พี่มีความฝันเลยว่าเราต้องเข้าบริษัทโฆษณา อานิสงค์ที่ได้เข้าทำงานไม่ได้มาจาก Resume อะไรพวกนี้เลย แต่มาจากการฝึกงาน เพราะพอเราได้ฝึกงาน พี่ที่ทำงานเค้าก็เห็นแวว เห็นว่าเราทำงานจริงจัง ยังไม่ทันเรียนจบเค้าก็ชวนให้มาทำงานด้วยเลย พี่เลยไม่ได้ผ่านกระบวนการหางานหรือสัมภาษณ์ เพราะว่าการฝึกงานได้เป็นใบเบิกทางไปแล้ว

พี่เอม: เป็นคนที่ไม่ได้ไม่เก่งแต่ไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร ก็เลือกเรียนบัญชีเพราะพ่อเห็นว่าอยากเป็นผู้ประกอบการ พ่อทำธนาคารมาก่อนเค้าก็คิดว่าเราควรเรียนบัญชี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือไม่ค่อยตั้งใจเรียน เราเรียนจบสี่ปีครึ่ง ช่วงที่เพื่อนๆสมัครงานกันเราก็ไม่กล้าสมัคร เราหลงทางแต่เราก็กลับมาตั้งศูนย์ใหม่ ว่าเราอยากได้อะไรแน่ๆในชีวิต ตอนนั้นรู้อย่างเดียวว่าเป้าสุดท้ายปลายทางอยากเป็นผู้ประกอบการ แต่ไม่รู้จะไปทางนั้นยังไง ก็เลยเกิดอาการน็อตหลุด ในเมื่อเราเรียนไม่เก่ง เราก็ควรจะมีประสบการณ์เยอะเผื่อเราจะได้เก่งอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เราเรียนมา เลยบ้าสมัครฝึกงาน เข้าโครงการต่างๆเต็มไปหมด ทำกับข้าว เล่นหุ้น ทำงาน Consult ทำหลายอย่างมาก สุดท้ายแล้วยิ่งลองมากยิ่งค้นพบตัวเองว่าเราไม่ชอบอะไร ใช้เวลาหลงทาง 3 ถึง 4 ปี กว่าจะพบทางสว่าง

พี่นิ้ง: เป็นสายเนิร์ด ตั้งใจเรียนมาเล้วก็เป็นสายชอบแข่งขัน มีแข่งแผนธุรกิจ การตลาดอะไรลงแข่งหมด ไปบ้านเพื่อนค้างคืน ทำแผนธุรกิจ มองกลับไปนิ้งรู้สึกเลยว่าเรียนอย่างเดียวไม่พอ ควรจะต้องไปฝึกงาน แข่งแผน หรือมาเข้ากิจกรรมอื่นๆวันเสาร์อาทิตย์ ที่ทำให้เราได้เห็นโลกแห่งความเป็นจริง เพราะการเรียนค่อนข้างเป็นภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติแทบไม่มี นิ้งก็แข่งๆ ตอนนั้นก็รู้เลยว่ารักในการตลาด  ชอบพูดภาษาอังกฤษ เลยรู้สึกว่าเราต้องไปทำงานเมืองนอกให้ได้ อันนี้มุ่งมั่นตั้งแต่ปี 3 เลยไปโครงการแลกเปลื่ยนที่นิวยอร์กครึ่งปี กลับมาก็ตั้งใจเรียนว่าเดี๋ยววันหนึ่งจะไปทำงานที่นิวยอร์ก จะทำงานฝั่งมาร์เก็ตติ้ง แล้วชีวิตมันก็มาทางนี้เลย

พี่โท: เราเกเรแต่เด็ก ชีวิตไม่มีทิศทาง จนเกินอุบัติเหตุกับตัวเองตอนปี 3 ต้องฝึกกิน ฝึกเดิน จนได้คิดว่าชีวิตเราเกิดมาทำไม เราเห็นพ่อแม่มาเยี่ยมเราจากกระจกข้างนอกน้ำตาไหล เราก็ถามตัวเองว่าไอ้เหตุการณ์อย่างนี้คือชีวิตหรอ พอวันที่เราเดินได้เราก็เปลี่ยนความคิดใหม่ว่าจากนี้ไปเราจะทำเพื่อพ่อแม่ หลังจากนั้นก็เรียนได้เกรดสี่กลับมาหมด สมัยนั้นจบปริญญาตรีมาก็ไม่มีใครแนะนำเรา พี่ชายได้ทุน ก.พ. ไปเรียนต่อที่อเมริกาเลยให้เราไปอยู่ที่อเมริกาด้วย เรารู้ว่าไม่มีทางเข้ามหาวิทยาลัยดังๆได้ก็เลยเอาแค่ College ก็พอ พอจบมาก็ไปสมัครงานที่ PwC ทั้งที่รู้ว่าส่วนใหญ่เค้าจะรับแต่เด็กจบจากมหาวิทยาลัยดังๆ เรากล้าสมัคร เค้าก็กล้าเรียกสัมภาษณ์ เราก็ผ่านข้อเขียนไปถึงรอบสัมภาษณ์ โดยเค้าเรียกลับมาสัมภาษณ์รอบสอง ผมคิดว่าเค้าน่าจะมีความสงสัยในตัวผมอยู่ว่าใช่ไหมเพราะปกติไม่มีการเรียกสัมภาษณ์รอบสอง เค้าอ่านและดูโปรไฟล์ผมแล้วก็ถามว่าเงินเดือนที่ขอมาลดได้ไหม ผมตอบว่าผมมีต้นทุน แต่ผมไม่ได้เอาต้นทุนทางการศึกษา การไปอยู่เมืองนอกมาคิด แต่ขอให้แค่ผม survive อยู่ได้ในการทำงาน ไม่ต้องขอเงินจากที่บ้าน ผมไม่ได้หวังกำไรจากการทำงาน เค้าบอกว่าเค้ารับเลยจากตรงนั้น

careerVisa the way of success Dooddot 3

มาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร ก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้อย่างไร?

พี่โท: ผมคิดว่าต้นทุนผมต่ำมากๆ เลยจะพยายามทุกอย่างให้เราเรียนรู้เร็วที่สุด รอบๆตัวเรามีแต่คนเก่ง ทำให้เรายิ่งมุ่งมั่นต้องฉีกตัวเอง มาช่วยรปภ.เปิด ปิดออฟฟิศ อยู่หลายปี แต่ช่วงที่ critical คือในเดือนแรก เรารู้สึกว่าทำไมทำงานมันยากอย่างนี้ พี่เค้าไม่สอนงาน เราต้องขวนขวายเอง แล้วเราไม่มีไกด์เลย ตอนนั้นรู้สึกอยากจะออก ก็เลยไปปรึกษาแม่เพื่อนว่าเราอยากจะลาออก แม่เค้าบอกว่าลูกแม่ก็อยากทำงานที่ PwC ให้โทไปคุยกับเจ้านายขอสลับตัวสักเดือนหนึ่ง ให้ลูกแม่มาทำงานแทนโทสักหนึ่งเดือน แล้วโทไปพัก ผมตอบกลับไปว่าแม่ครับกว่าผมจะเข้ามาถึงจุดๆนี้ได้มันต้องผ่านกระบวนการมากมาย แม่เลยบอกว่านั่นไงมีคนอีกเป็นร้อยที่อยากนั่งอยู่ตรงนั้น แต่โทได้แล้วแต่อยากจะออก แล้วผ่านไปแค่เดือนเดียวเอง Give up เร็วมากเลยลูก จากวันนั้นผมเลยเริ่มคิดได้ว่ามันเป็นที่ทัศนคติของเราเอง ทุกวันๆตอนเช้าเราถามตัวเองได้ตลอดเวลาว่าเมื่อวานเราเรียนรู้อะไร จนถึงวันนี้ผ่านมากว่า 18 ปี ผมก็ยังเรียนรู้อยู่เลย

พี่นิ้ง: ตอนที่นิ้งจบมาเราคิดว่าเราเก่ง เป็นนักเรียนเหรียญทอง ไปแข่งเคสมาก็ชนะหมด ทำอะไรก็คงสำเร็จ แต่พอเราเข้าไปที่ทำงานที่แรกที่ P&G เราเป็นเด็กคนเดียวที่เรียนภาษาไทยมาตลอด คนอื่นจบโทเมืองนอกกัน แล้วเจ้านายเราเป็นคนอินเดีย พอเข้าที่ประชุมกับคนจากอีกหลายๆประเทศปรากฏว่าเราไม่เข้าใจ เข้าไปถึงฟังไม่รู้เรื่อง นี่คือความท้าทายอันแรก อันที่สอง เราคิดว่าเรารักการตลาด แต่เราชอบออกไปทาง Creative แต่ P&G เป็น Data driven คือต้องวิเคราะห์ตัวเลข สองสามเดือนแรกบอกแม่ว่าอยากลาออก คิดว่าจะเลี้ยวรถกลับบ้านทุกวัน เป็นเวลากว่าหกเดือน แต่เราก็พยายามก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ พอเราฟังไม่รู้เรื่อง ไม่กล้าพูดในห้องประชุม เลยตั้งเป้าว่าเข้าประชุมทุกครั้งต้องพูดสักครั้ง นอกจากนั้นเราก็บอกเจ้านายว่าวันเสาร์มาสอนทำข้อมูลได้ไหม เราทำไม่เป็น เราก็เรียนอยู่หลายๆเสาร์จนผ่านช่วงเวลาตอนนั้นมาได้ เลยอยากจะฝากไว้ว่าการเข้าไปทำงาน ชีวิตมันเป็นอีกแบบหนึ่งเลย มีคนที่เก่งกว่าเราเยอะ มีสิ่งที่เรายังไม่รู้ มีสิ่งที่เราคิดว่าเราไม่มีวันเก่งได้แต่ต้องเรียนรู้ แต่เราจะต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้

เรียกได้ว่าเรื่องราวของพี่แต่ละคนหลากหลายรสชาติกันจริงๆ การพูดคุยยังไม่จบเพียงเท่านี้ พี่เอมและพี่ก่าก๊าจะมีคำตอบอย่างไร แล้วพี่ๆจะมีเรื่องราวอะไรที่ทำให้เราได้คิดกันอีก ต้องติดตามตอนต่อไป แต่ที่รู้แน่ๆคือโครงการ Career Ready Boot Camp ได้กลับมาอีกครั้งปลายปีนี้ ภายใต้ตอน Shortcut to Be A Rising Star “ทางลัดสู่การเป็นดาวรุ่งในโลกการทำงาน” โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ สามารถลงทะเบียนได้ตามลิงค์นี้เลย: http://www.zipeventapp.com/e/career-ready-boot-camp-shortcut-to-be-a-rising-star และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ fb page: www.facebook.com/careervisathailand อย่าลืมรีบมาสมัครกัน เพราะความสำเร็จไม่เคยรอใคร…

RECOMMENDED CONTENT

22.กันยายน.2022

ประเดิมโปรเจกต์ “PUBG MOBILE x 4EVE ที่ #1 ในใจฟีฟเลย!” ด้วยการปล่อยซิงเกิลคอลแลปสุดพิเศษ JACKPOT เพลงจังหวะเร้าใจ ผสมบีทที่หนักแน่น มาพร้อมท่อนฮุคติดหู “ไม่คิดว่าจะได้เจอ คนน่ารักอย่างเธอ JACKPOT! ยิงเข้ามาที่ใจ BABY YOU’RE MY TYPE JACKPOT!” ให้สาวก For Aye และแฟนๆ ได้ฟังกันไปเมื่อ 14 กันยายนที่ผ่านมา และได้กระแสตอบรับแรงเกินต้าน โดยคอเกม PUBG MOBILE สามารถปลุกความมัน ฟังเพลงกันเพลินๆ ได้ที่ Lobby Music ภายในเกม