หากจะพูดถึงสถานที่ซึ่งมีบรรยากาศอันงดงามแฝงกลิ่นอายความเป็นไทยได้อย่างลงตัวในกรุงเทพฯ สิ่งที่หลายคนคงนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ ก็คงหนีไม่พ้นสถานที่ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งด้วยจุดเด่นในข้อนี้เองที่ทำให้ ศาลารีสอร์ต ซึ่งมีเจ้าของโครงการคือ SALA HOSPITALITY GROUP ริเริ่มที่จะนำจุดเด่นของความเป็นไทย ในเรื่องศิลปวัฒนธรรมอันประณีตสวยงามที่มีมาแต่โบราณ มาเป็นธีมหลักสำหรับโปรเจกต์ใหญ่อย่าง “เดอะ ทรี คิงดอมส์” Boutique hotel ที่มีทำเลติดริมแม่น้ำสายสำคัญ และอยู่ใจกลางโบราณสถานหรือแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ชื่อดัง ซึ่งประกอบด้วย 3 โครงการคือ ศาลารัตนโกสินทร์ (salarattanakosin), ศาลาล้านนา (salalanna) และศาลาอยุธยา (salaayutthaya)
สำหรับโครงการที่เปิดแห่งแรกก็คือ ศาลาล้านนา มีที่ตั้งอยู่ใกล้วัดเกตุ ติดกับแม่น้ำปิงและสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างตลาดวโรรสได้อย่างง่ายดาย ต่อมาศาลารัตนโกสินทร์ก็ได้เปิดให้บริการ โดยมีจุดเด่นก็คือสถานที่ตั้งซึ่งอยู่บริเวณท่าเตียน จึงทำให้ผู้ที่เข้าพักสามารถสัมผัสบรรยากาศของเกาะรัตนโกสินทร์ได้อย่างเต็มที่ จากห้องพักสามารถมองเห็นวิวของชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน รวมถึงได้ชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับศาลาอยุธยาอันเป็นโครงการสุดท้ายนั้นที่ตั้งจะอยู่ริมแม่น้ำตรงข้ามวัดพุทธไธสวรรค์ ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงต้นปีหน้า
ศาลารัตนโกสินทร์ ให้บริการทั้งหมด 17 ห้องพัก ซึ่งตกแต่งแบบ minimalism เน้นกำแพงปูนเปลือย และโทนสีขาวดำเป็นหลัก โดยจัดบรรยากาศแต่ละห้องตามธีมซึ่งกำหนดด้วยวิวทิวทัศน์หลักที่เห็นแตกต่างกันอันประกอบด้วย ARUN RIVER VIEW SUITE , RIVER VIEW DELUXE, WAT PO DELUXE จุดเด่นอีกอย่างของ Boutique hotel แห่งนี้ก็คือร้านอาหารริมแม่น้ำชั้นสองซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามพระปรางค์วัดอรุณ และ Sky Bar บนชั้นดาดฟ้าที่สามารถเห็นวิวของเกาะรัตนโกสินทร์ได้แบบ 360 องศา ทำให้มองเห็น 5 วัดเก่าแก่คือ วัดอรุณ วัดโพธิ์ วัดพระแก้ว วัดโมลีโลกยาราม และวัดกัลยาณมิตรได้อย่างชัดเจน
และสิ่งที่ได้รับความนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไม่แพ้สถานที่ ก็คือบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดินอันสวยงาม ที่ทำให้ศาลารัตนโกสินทร์ติดอันดับต้นๆ ของสถานที่ดินเนอร์สุดโรแมนติกแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว โดยอาหารเป็นฝีมือการปรุงของมร.โทนี่ ริกลี่ย์ เชฟชื่อดังชาวอังกฤษซึ่งมีประสบการณ์ด้านอาหารไทยมาแล้วหลายปี และเน้นเสิร์ฟอาหารไทยสูตรดั้งเดิมและสไตล์ฟิวชั่นเป็นหลัก โดยให้บริการพร้อมกับเครื่องดื่มชั้นยอดตลอดทุกวัน
นอกจากบรรยากาศและอาหารที่เป็นจุดขายหลักแล้ว ก็คือการเดินทางที่สะดวกสบายสามารถที่จะโดยสารรถไฟฟ้า แล้วต่อเรือด่วนเจ้าพระยาเพื่อเดินทางมายังโรงแรมได้อย่างง่ายดาย ซึ่งก็หมายถึงว่าหากพักที่ศาลารัตนโกสินทร์แล้วก็จะสามารถไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งแสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้ ทั้งสะพานพุทธ ไนท์ มาร์เก็ต, มิวเซียม ออฟ สยาม หรือแม้กระทั่งปากคลองตลาดโดยใช้เวลาไม่นานอีกด้วย รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.salaresorts.com/rattanakosin และ www.facebook.com/salarattanakosin
ศาลา รัตนโกสินทร์ เปิดบริการทุกวัน 11.00-22.00 น.โทร.0 2622 1388 คลิก www.SalaRattanakosin.com จอดรถได้ที่ซอยวัดโพธิ์
RECOMMENDED CONTENT
“TIME TO AWAKEN YOUR ZIMBE SPIRIT” ถึงเวลาเดินทางให้สุด ไม่หยุดไปต่อ เรื่องราวการปลุกจิตวิญญาณของนักเดินทางอย่าง ZIMBE (จิมเบ) พร้อมกับเพื่อนผู้สร้างตำนานการเดินทางร่วมกันอย่าง อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ที่ครั้งนี้กลับมาในฐานะ Seiko brand friend คนแรกของปี 2022 และมาพร้อมเรื่องราวจากการกลับมาออกเดินทางอีกครั้ง หลังจากที่โลกหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง มาดูกันว่าในครั้งนี้ นักเดินทางผู้สร้างตำนานจะพาพวกเราไปเจอกับอะไรบ้าง?


