ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย เป็นที่ทราบกันดีว่าศิลปิน นักดนตรีที่มีชื่อเสียงสามารถมีอิทธิพลและสร้างพลังขับเคลื่อนต่อกลุ่มคนทั่วโลก ตั้งแต่ Kurt Cobain, Bob Marley, Pharrell Williams ไปจนถึง Jimi Hendrix พวกเขาเหล่านี้ไม่เพียงแค่เป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ หากแต่พวกเขายังผสมผสานโลกของแฟชั่นและดนตรีเข้าไว้ด้วยกัน จนเกิดบางสิ่งบางอย่างที่สุดแสนจะไอคอนิค ไร้การเวลา และตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ นี่คือสุดยอดศิลปิน นักดนตรีชายทั้ง 15 คน ที่มีสไตล์เป็นที่จดจำมากที่สุดตลอดกาล
Bob Marley
เริ่มต้นที่คนแรกด้วยเขาคนนี้ นอกจากจะคอยเผยแพร่ความรัก สามัคคี ผ่านบทเพลงไอคอนิคต่างๆมากมายแล้ว Bob Marley ยังมีอิทธิพลต่อการแต่งตัวของหนุ่มสาวชาวฮิปปี้ บุปผาชนยุค ‘70s ด้วยเสื้อผ้าสไตล์สบายๆชิลล์ๆ อย่างเช่นเสื้อเชิ้ตติดกระดุม แว่นกันแดด กางเกงขาม้า แจ็คเก็ตทหาร หมวกไหมพรมสไตล์ราสต้า และรองเท้าผ้าใบ แต่เสื้อผ้าชิ้นที่โดดเด่นมากที่สุดที่ Marley นำมาใส่แล้วถือว่าฮิปมากๆก็คือแจ็คเก็ตทหาร ที่ก่อนหน้านี้ถือเป็นเครื่องแบบที่มีแต่เหล่าทหาร นักปฏิวัติ และผู้นำทางการเมืองที่ใส่ แต่ Marley กลับนำแจ็คเก็ตรุ่น M-65 มาใส่จนเป็นไอเท็มฮอตฮิตขึ้นมา และกลายเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ลุคสำคัญของเขาไปโดยปริยาย
David Bowie
เขาคนนี้คือ style icon จากเกาะอังกฤษ ที่ตั้งแต่แจ้งเกิดครั้งแรกในยุค 1960s สไตล์การแต่งตัวที่ไม่เคยหยุดนิ่งของเขาก็ได้สร้างสีสัน และเรียกเสียงฮือฮาจากวงการแฟชั่นได้ตลอดเวลาจนถึงทุกวันนี้ Bowie ได้ทดลองมาแล้วเกือบทุกลุค ตั้งแต่ลุค mod หนุ่มสำอางใส่กางเกงขาสอบจากยุค ‘60s ลุคฮิปปี้หนุ่มผมยาวใส่ชุดกระโปรง “man dress” จากต้นยุค ‘70s ลุค glam rock สุดไอคอนิคกับผมสีแดงเพลิงและลายเพ้นท์รูปสายฟ้าบนใบหน้าจากช่วงกลางยุค ‘70s ไปจนถึงลุคที่เขาเรียกกันว่า neo-classicist กับการหันมาแต่งตัวสไตล์ร็อคเกอร์คลาสสิคใส่สูทเล่นคอนเสิร์ตในช่วงยุค 2000 ต้นๆ นอกจากนี้ Bowie ยังแจ้งเกิดสไตล์การแต่งตัวที่เรียกว่า “androgyny” (แอนดรอจินี) หรือการแต่งตัวที่ดูมีทั้งความเป็นชายและหญิงให้ระบาดไปทั่วเกาะอังกฤษ และยังมีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นทั่วโลกเป็นอย่างสูงมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งอิทธิพลในเรื่องของการแต่งตัวของเขาคนนี้ก็ได้ถูกนำจัดแสดงเป็นนิทรรสการมาแล้วที่ Victoria and Albert Museum ในกรุงลอนดอน
Kurt Cobain
แหม่….ลิสต์นี้จะไม่สมบูรณ์ทันทีหากไม่มีชื่อพี่ Kurt ติดอยู่ด้วย เพราะนักร้องนำแห่งวง Nirvana คนนี้ถือเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่เปลี่ยนแปลงทั้งวงการเพลง และวงการแฟชั่นของยุค 1990s เชียวนะ Kurt Cobain คือจุดศูนย์กลางของความกรั้นจ์ (grunge) ถ้านึกถึงกรั้นจ์ ต้องนึกถึง Kurt Cobain ถ้านึกถึง Kurt Cobain ต้องนึกถึงกรั้นจ์ คุณอาจไม่เชื่อว่าสไตล์การแต่งตัวของเขาคนนี้ที่แฟนๆต่างหลงใหลและเลียนแบบตามนั้นมาจากร้านเสื้อผ้ามือสองธรรมดาๆในเมือง Seattle ที่เขาอยู่ ซึ่งซิกเนเจอร์ลุคของเขาที่เห็นใส่อยู่เป็นประจำก็คือ กางเกงยีนส์ขาดๆ เสื้อยืดคอกลม เสื้อคาร์ดิแกนตัวโคร่ง เสื้อเชิ้ตลายสก๊อต และรองเท้าคอนเวิร์ส Chuck Taylor แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ลุคธรรมดาๆติดดินนี้ดูเท่ และมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจก็คือบุคลิก หรือแอทติจูดของเขาที่ดูช่างแม่ง ไม่แยแสต่ออะไรทั้งสิ้นนั่นเอง ถ้าไปถามแฟนๆ วัยรุ่น และหนุ่มสาวในยุคนั้น ว่าอะไรคือความเท่ที่สุดสำหรับพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องตอบว่าไม่มีอะไรจะเท่ไปกว่าการ “not giving a f***” แบบไอดอล Kurt Cobain ของพวกเขาอีกแล้ว
Jack White
แฟนๆของ Jack White คงจะเห็นด้วยกับเราว่ามีอะไรบางอย่างในตัวเขาที่พิเศษไม่เหมือนใคร ตั้งแต่สไตล์การแต่งตัวแนวกอธ (goth) แปลกๆที่มีกลิ่นอายความกรั้นจ์และคันทรี่อเมริกันปนอยู่หน่อยๆ ไปจนถึงความสามารถในการแต่งเพลงของเขาที่บอกได้อย่างเดียวว่าโคตรเจ๋ง ในยุคที่เขายังอยู่ในวง The White Stripes พวกเราจะเห็นว่าเขามักใส่เสื้อผ้าที่มีแต่สีแดง ขาว และดำ แต่เมื่อแนวดนตรีของเขาเปลี่ยน สไตล์การแต่งตัวของเขาก็เปลี่ยนตามไปด้วย กับลุคของหนุ่มกอธผสมคันทรี่ในวง The Raconteurs และลุคหนุ่มอินดี้กอธในวง The Dead Weather เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าลุคกอธก็สามารถผสมผสานกับลุคอื่นให้ออกมาดูเท่ได้ขนาดนี้
Pharrell Williams
จะต้องให้อธิบายอะไรอีกถึงสไตล์การแต่งตัวของพ่อหนุ่ม Pharrell Williams นักดนตรี นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ แร็ปเปอร์ แฟชั่นไอคอน และผู้นำทางด้านคัลเจอร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคคนนี้? ไม่ว่าเขาจะหยิบอะไรมาใส่ก็ดูเข้ากันอย่างน่าประหลาด และมีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่สามารถ ‘pull it off’ ได้แทบจะทุกลุค ซึ่งถ้าอยู่ดีๆพวกเราลองลุกขึ้นมาแต่งตัวเหมือนเขา คงจะดูเหมือนคนเพี้ยนพิลึก ลองนึกภาพพวกเราใส่หมวกทรงสูงของดีไซเนอร์ Vivien Westwood โค้ทขนเฟอร์สีรุ้ง กางเกงยีนส์ขาดวิ่น รองเท้าสนีกเกอร์ adidas สีแสบตา และสร้อยคอเส้นยาวหลากเส้นห้อยถึงสะดือสิ คนอื่นคงถามว่า “ก่อนออกจากบ้านนี่ลืมส่องกระจกหรือเปล่าเนี่ย?!” แต่ที่ลิสต์มาทั้งหมดคือลุคที่หนุ่ม Pharrell ใส่อยู่บ่อยๆ ซึ่งทุกครั้งที่เห็นเราก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูดออกมาว่า “ผู้ชายอะไร ทำไมถึงเท่ได้ขนาดนี้?”
Bruce Springsteen
ถ้าคำว่า “อเมริกัน” มีความหมายในเชิงของสไตล์แล้วล่ะก็ คงจะไม่ผิดถ้า the Boss คนนี้จะเป็นตัวแทน เพราะเขาสามารถใส่เสื้อผ้าไอเท็มที่เป็นอเมริกันคลาสสิคให้ออกมาดูหล่อ เท่ ดิบ และโคตรแมนได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่ลุคร็อคสตาร์สุดเซอร์บนหน้าปกอัลบั้ม “Born to Run” (1975) ที่เขาสวมแจ็คเก็ตหนังสีดำ เสื้อกล้ามขาวคอย้วย และกางเกงยีนส์ตัวฟิต ลุคหนุ่มเพร็ปปี้ (preppy) ผสมกลิ่นอายโฟล์คหน่อยๆ กับเสื้อโปโลผ้าคอตตอนลายทาง และผมหยักศก ไปจนถึงลุคขวัญใจชาวแรงงานในช่วงยุคที่ออกอัลบั้ม “Born in the USA” (1984) กับเสื้อแขนสั้นสีฟ้าผ้าคอตตอนพับแขน และกางเกงสแล็คจับจีบ
Jimi Hendrix
ถ้าจะพูดว่า Jimi Hendrix มือกีต้าร์ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เป็นคนช่างแต่งตัวนั้น อาจจะต้องเสริมด้วยว่าเขาเป็นคนช่าง “ตกแต่ง” ตัวเสียมากกว่า โดยเฉพาะเสื้อผ้าวินเทจที่เขาสุดจะโปรดปราน ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอลวดลายสีเจ็บๆที่เขาเอามาใช้พันหัว พันคอ พันเอว แจ็คเก็ตทหาร แจ็คเก็ตลายดอกไม้ เสื้อแขนพู่ระย้า กางเกงขาม้าผ้ากำมะหยี่ ไปจนถึงสร้อยคอ สร้อยข้อมือ เข็มขัด โอ้! หนุ่มคนนี้เขาจัดเต็ม ไม่มีกั๊ก ยิ่งบวกกับทรงผมฟูฟ่องนั่นด้วย เรียกได้ว่า Hendrix เป็นร็อคเกอร์ที่แต่งตัวได้เยอะ แต่มันส์ และมีสีสันมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการดนตรีเลย
Brandon Flowers
ปกติแฟชั่นของคนที่นับถือศาสนามอรมอน (Mormon) จะค่อนข้างเรียบง่าย และเคร่งครัดในระดับหนึ่ง นั่นก็คือหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันจัดจ้าน มีลวดลายเยอะๆ และเครื่องประดับ อะไรก็ได้ที่ไม่ดูมาก โดยเฉพาะผู้ชายที่ปกติแล้วจะใส่แต่เสื้อผ้าที่มีสีเรียบง่ายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สำหรับพี่ Brandon Flowers นักร้องนำวง The Killers เขากลับเลือกที่จะไม่ยึดติดกับขนบธรรมเนียมของศาสนาที่ตัวเขาเองนับถือ เพราะนอกจากการแต่งตัวของเขาจะแตกต่างจากนักร้องนำวงร็อคทั่วไปในยุคปัจจุบัน ที่มักเลือกใส่ยูนิฟอร์มของร็อคเกอร์ทั่วไป นั่นก็คือกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ เสื้อยืด เสื้อเชิ้ตลายสก๊อต และรองเท้าผ้าใบเปื่อยๆ หนุ่ม Brandon เขาเลือกที่จะแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยการเปลี่ยนลุคตัวเองอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเสื้อแจ็คเก็ตปักขนนกยูงบนบ่า สูททักซิโด้สีชมพูช็อคกิ้งพิ้งค์ หูกระต่ายแบบคาวบอย สูท three-piece สีทองอร่าม แจ็คเก็ตหนังงู ไปจนถึงการเขียนอายไลเนอร์ในการขึ้นแสดงคอนเสิร์ต มีให้เห็นไม่บ่อยนะนักร้องนำวงร็อคปัจจุบัน ที่จะแต่งตัวได้หล่อ เริ่ด อลังการขนาดนี้
Justin Timberlake
มาถึงหนุ่ม JT กันบ้าง ที่ถ้าเมื่อสิบปีที่แล้ว คงจะมีโอกาสเป็นไปได้น้อยมากที่ชื่อของเขาจะติดอยู่ในลิสต์นี้ เพราะในสมัยนั้นเขายังมีทรงผมหยิกหยองราวกับเส้นมาม่า และใส่แต่เสื้อผ้าแบบยุคบอยแบนด์ที่สุดแสนจะดูไม่จืด พูดง่ายๆคือยังไม่มีความแตกฉานในเรื่องของการแต่งตัวแม้แต่น้อย แต่ทุกวันนี้ทุกคนรู้จักเขาดีในฐานะป๊อปสตาร์รูปหล่อรวยเสน่ห์ ที่ขนาดหนุ่มๆยังยกให้เขาเป็นผู้ชายที่แต่งตัวดีที่สุดคนหนึ่ง โดยเฉพาะการใส่ suit and tie หรือชุดสูทและเนคไทที่ดูเหมือนจะเป็นลุคซิกเนเจอร์ของเขาไปแล้วเรียบร้อย ซึ่งหนุ่ม Justin ก็แต่งมันออกมาดูหล่อเนี้ยบทุกครั้ง ต้องขอชมวิวัฒนาการการแต่งตัวของหนุ่มคนนี้จริงๆ เพราะเขาได้เดินทางมาไกลจากยุคบอยแบนด์อย่างสง่างามมากๆ
Frank Sinatra
“Frank Sinatra” ชื่อของศิลปินและนักแสดงในตำนานที่ทุกคนต้องรู้จัก นอกจากเสียงร้องและดนตรีของเขาที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกแล้ว เรื่องของสไตล์การแต่งตัวของผู้ชายคนนี้ก็เป็นที่นับถือของเหล่า gentlemen ทุกยุคทุกสมัยเช่นกัน สำหรับหลายๆคน Frank Sinatra ถือเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดของยุคเพลงสวิง โดยที่ไม่มีใครอื่นสามารถมาแทนที่ได้ ทุกครั้งที่เขาขึ้นแสดง หรือปรากฏตัวในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม เขาจะนิยมใส่สูท หรือทักซิโด้ที่สั่งตัดมาโดยเฉพาะ มากกว่าการใส่กางเกงยีนส์หรือกางเกงสแล็คธรรมดาทั่วไป ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทุกอย่างจะต้องเนี้ยบ สำหรับ Frank Sinatra กฎเหล็กในการแต่งตัวที่ดีก็คือ แขนเสื้อเชิ้ตควรจะแล่บออกมาจากแขนเสื้อสูทเพียงหนึ่งนิ้วครึ่ง ขากางเกงควรอยู่เหนือรองเท้าขึ้นไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร สีดำเป็นเพียงแค่สีเดียวที่เหมาะสำหรับใส่ตอนกลางคืน เสื้อกั๊กใส่แล้วดูดีกว่าแถบคาดเอวทักซิโด้เสมอ และสุดท้ายผู้ชายทุกคนไม่ควรลืมที่จะขัดรองเท้าให้เป็นมันเงา นี่แหละต้นแบบของ Gentleman of Style ตัวจริง
Liam Gallagher
ศิลปินจากเกาะอังกฤษ อดีตนักร้องนำวง Oasis คนนี้ ผู้ขึ้นชื่อในเรื่องของนิสัยหยิ่งยโส และปากเสียมากที่สุดคนหนึ่ง เคยกล่าวไว้ว่า “สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครดูเท่เท่าไหร่…เท่แบบตัวผมน่ะเก็ทมะ? ทุกคนแต่งตัวสบายเกินไป และดูเหมือนกันไปหมด คุณว่าป่ะ?” เอ่อ…หลายคนอ่านแล้วคงคิดว่า อีตานี่มันช่างจองหองสิ้นดี! แต่เมื่อคุณลองกลับมาคิดดูดีๆ สิ่งที่เขาพูดก็มีส่วนถูกอยู่เหมือนกัน มันมีเหตุผลว่าทำไม Liam Gallagher ถึงเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการดนตรีของอังกฤษ เพราะนอกจากดนตรีของวง Oasis จะโด่งดังถึงขีดสุดในช่วงยุค ‘90s และมีหลายบทเพลงที่เปรียบเสมือนเป็นเพลงชาติของเด็กยุคนั้นแล้ว (“Wonderwall”, “Don’t Look Back in Anger”, “Cigarettes & Alcohol”) แน่นอนว่าเรื่องของสไตล์การแต่งตัวของเขาคนนี้ก็มีเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำไม่แพ้กัน Noel พี่ชายของเขาเคยบอกว่าตั้งแต่เล็กจนโต Liam นั้นบ้าคลั่ง John Lennon มาก ซึ่งเห็นได้ชัดจากทรงผม และการแต่งตัวอย่างเสื้อสูทผ้ากำมะหยี่ และแว่นกันแดดทรงกลมที่เขาได้รับอิทธิพลมาจาก Lennon ล้วนๆ นอกจากนี้สไตล์ของเขาก็ยังได้รับอิทธิพลมาจากวง The Beatles ยุค Mod revival ในช่วงปลายยุค ‘70s ยุค Skinhead culture ในช่วงยุค ‘80s และสไตล์ทหาร ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าหลายๆชิ้นที่ Liam Gallagher นิยมใส่จะดูไม่ล้ำสมัย หรือแฟชั่นจัดจ้านอะไรมากในเรื่องของสไตล์ โทนสี และวัสดุ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อทุกอย่างมารวมตัวอยู่บนร่างของพี่แกแล้ว ทุกอย่างกลับดูเท่ น่ามอง และมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ยิ่งบวกทรงผมที่หวีปัดมาข้างหน้า และจอนยาวแบบยุค Mod ด้วยแล้ว พี่ Liam แกดู bad ass ไม่ใช่เล่นเลยล่ะ
Keith Richards
ศิลปินและมือกีต้าร์ในตำนานจากเกาะอังกฤษคนนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจสำคัญในการแต่งตัวของพี่ Liam Gallagher เหมือนกัน เขาคนนี้ถือว่าเป็นร็อคสตาร์ที่แต่งตัวได้เปรี้ยวจัดจ้าน และมีเอกลักษณ์มากที่สุดคนหนึ่ง Keith Richards ไม่เคยตามเทรนด์ แต่เขาเป็นผู้เซ็ตเทรนด์ต่างหากล่ะ เขาไม่สนว่าตอนนี้วงการแฟชั่นกำลังอินกับอะไร เรื่องยี่ห้อ ดีไซเนอร์ คอลเล็คชั่นเสื้อผ้า บลา บลา ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเขา ทุกอย่างที่ผู้ชายคนนี้ใส่มาจากรสนิยม และ inner ส่วนตัวล้วนๆ เขาทำให้ลุคโบโฮ ฮิปปี้ ดูโคตรเท่และชิคได้แบบไม่ต้องพยายามอะไรมากมาย เสื้อผ้าแต่ละชิ้นที่เขาใส่ดูเหมือนไม่ได้ผ่านการคิดอะไร แค่หยิบๆมาใส่อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ผ้าพันคอไหมเส้นยาว หมวกปีกกว้าง แจ็คเก็ตลายเสือดาว กางเกงขาม้าผ้ากำมะหยี่ เสื้อเชิ้ตลายลูกน้ำ ไปจนถึงเครื่องประดับ หรือแม้แต่ทรงผมสีดำสนิทยุ่งๆนั่นเขาก็เป็นคนตัดเอง คือเอาเป็นว่าร็อคสตาร์รุ่นปัจจุบันที่ว่าเท่นักหนาเห็นแล้วต้องมีอายกันบ้างล่ะ
Elvis Presley
อะ อะ อ้าว! จะลืมแฟชั่นไอคอนคนนี้ไปได้อย่างไร กับ Elvis Presley ผู้มีฉายาว่า “King of Rock and Roll” นอกจากเสียงร้องที่นุ่มไพเราะเสนาะหูจนสาวๆทั่วโลกฟังแล้วต้องเคลิ้มตาม รูปร่างหน้าตา และการแต่งกายทุกอย่างของเขาคนนี้ก็ไอคอนิค และมีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ pop culture มาจนถึงปัจจุบัน ตลอดเส้นทางในวงการบันเทิงของเขา Elvis ได้แสดงให้ทุกคนเห็นว่า ไม่ว่าเขาจะใส่อะไรเขาก็ดูดีเสมอ ไล่ไปตั้งแต่เสื้อเชิ้ตธรรมดา แจ็คเก็ตหนัง ยูนิฟอร์มทหาร เสื้อโปโล เสื้อฮาวาย เสื้อสเว็ตเตอร์ กางเกงสแล็คขาเต่อ ไปจนถึงกระทั่งทรงผม ที่บอกได้เลยว่าคงจะมีคนไม่กี่คนบนโลกนี้ ที่สามารถจะมีทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้ ซึ่งทรงผมของ Elvis Presley ก็ยังสามารถนำมาปรับใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัย เป็นอีกหนึ่งบุคคลตัวอย่างที่เห็นแล้วต้องบอกว่า ก็คนมันหล่อ จะแต่งอะไรมันก็หล่อ!
Kanye West
เป็นที่รู้กันดีว่า Kanye West นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ศิลปินฮิปฮอปที่ประสบความสำเร็จ และมีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการดนตรีปัจจุบัน แต่ Kanye ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เข้ามาโลดแล่นในวงการแฟชั่นแถมยังประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น เขาได้จับมือ collaborate กับแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำระดับโลก ออกคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าและรองเท้าเป็นว่าเล่น อาทิ คอลเล็คชั่นเสื้อผ้ากับทาง A.P.C. รองเท้ารุ่น “Nike Air Yeezy II ‘Red October’” กับทาง Nike และล่าสุดกับคอลเล็คชั่นที่เพิ่งเปิดตัวไปที่งานนิวยอร์กแฟชั่นวีค กับ “Yeezy Season One” กับทาง adidas Originals ซึ่งเนื้อหาในเรื่องของแฟชั่นสำหรับ Kanye ส่วนใหญ่จะมีความเงียบขรึม ทรงพลัง ดุดัน แข็งกร้าว แต่ก็อ่อนโยนในบางเวลา การแสดงออกในเรื่องของแฟชั่นของเขานั้นเปี่ยมไปด้วยความจริงจัง ซีเรียส Kanye ให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของพลังในการดีไซน์ที่ดี ซึ่งมันก็ได้สะท้อนออกมาในการแต่งกายของเขาอย่างชัดเจน ที่ต่อให้เขาจะแต่งตัวสไตล์อะไรก็ตาม เสื้อผ้าที่เขาใส่จะต้องดูดี มีคัตติ้งที่เนี้ยบ ล้ำสมัย และที่สำคัญมีแอทติจูดที่ชัดเจนเหมือนกับตัวเขา
Michael Jackson
ปิดท้ายด้วย Michael Jackson ราชาเพลงป็อปผู้ยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่ผู้ชายคนนี้จะเป็นผู้นำเทรนด์ในเรื่องของดนตรี และยังมีพรสวรรค์ในเรื่องของการแสดงโชว์ต่างๆบนคอนเสิร์ตที่ยากจะมีใครทาบเทียมได้แล้ว เขายังเป็นแฟชั่นไอคอนตัวจริงที่ทุกคนทั่วโลกต้องขอกราบคารวะ จะให้เริ่มพูดถึงความเท่ และคลาสสิคขั้นสุดยอดของสไตล์การแต่งตัวของ MJ ตรงไหนก่อนดีล่ะ ไหนจะลุคเสื้อแจ๊คเก็ตหนังสีแดงตัวนั้นที่มีแพทเทิร์นตัววีสีดำใหญ่ตัดลงตรงกลางข้างหลังเสื้อ แขนเสื้อที่พับขึ้นมาถึงข้อศอก คอเสื้อที่ตวัดเปิด กางเกงชิโน่สีแดง รองเท้าโลฟเฟอร์สีดำ และถุงเท้าสีขาวที่เขาใส่ในเอ็มวี “Thriller” หรือจะลุคสูทหนัง เสื้อออกซ์ฟอร์ดเชิ้ตสีชมพูอ่อน หูกระต่ายสีแดง ถุงเท้าสีชมพู และรองเท้าหนังสีขาวตัดกับสีดำ กำลังเต้นไปด้วย ร้องเพลงไปด้วย ในเอ็มวี “Billie Jean” ไม่ว่าเขาคนนี้จะใส่ชุดอะไร ต่อให้มันดูแปลกและหลุดโลกขนาดไหน เขาก็แต่งมันออกมาได้ดูดีเสมอ เพราะเขารู้ว่าจะต้องใส่เสื้อผ้าแต่ละชิ้นยังไงให้ออกมาดูมีสไตล์มากที่สุด เวลาเขาเต้นเขารู้ดีว่าชายสูทของเขาควรจะพลิ้วไหวไปกับตัวยังไง ส่วนขากางเกงก็ถูกตัดให้สั้นขึ้นมาหน่อย เพื่อเน้นไปที่เท้าของเขาเวลาเต้น เพราะเหตุนี้เอง Michael แสดงให้พวกเราทุกคนเห็นว่า บางที “สไตล์” มันมีอะไรมากกว่าแค่การหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ จนถึงทุกวันนี้อิทธิพลในการแต่งตัวของ Michael Jackson ที่มีต่อศิลปินรุ่นใหม่ก็ยังมีให้เห็นอยู่เสมอ โดยเฉพาะ Chris Brown, Usher, Justin Timberlake หรือแม้แต่ Beyoncé ที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนตัวจริงของราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับคนนี้
Writer: Thip S. Selley
RECOMMENDED CONTENT
เรื่องราวของ Christopher Robin พาเรามาถึงช่วงเวลาที่คริสโตเฟอร์ โรบิ้น โตขึ้นและต้องเข้ามาทำงานในกรุงลอนดอน พร้อมภรรยาและลูกสาว เขาตรากตรำทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว แม้แต่วันที่เขาตั้งใจจะไปเที่ยวกับครอบครัวนอกเมือง แต่งานด่วนก็ดันเข้ามาทำให้เขาคิดหนักว่าจะเลือกงานหรือครอบครัวดี