fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

“12 Years A Slave” เรื่องราวการต่อสู้ของชายผิวสีที่เป็นอิสระชนแต่ถูกทำให้กลายมาเป็นทาสรับใช้แบบจำเป็น ผลงานที่ล่าสุดเพิ่งคว้ารางวัลใหญ่จากเวทีลูกโลกทองคำปีนี้มาหมาดๆ
date : 15.มกราคม.2014 tag :

อาทิตย์นี้เรามีหนังเข้าใหม่มาแนะนำ คิดว่าน่าจะเป็นหนังที่คอหนังทั้งหลายรอคอยกันมาพักนึงแล้ว กับ “12 Years a Slave” ที่ล่าสุดเพิ่งคว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ชีวิตยอดเยี่ยมปีล่าสุดมาสดๆร้อนๆ ผลงานการกำกับหนังยาวเรื่องที่สามของSteve McQueen (“หา!? ดารารุ่นเก๋า Steve McQueen” น่ะเหรอ!? อย่าเพิ่งตกใจไปคนละคนกับสตีฟที่เป็น Icon สุดเท่คนนั้น) ถ้าใครยังไม่รู้จักเขาลองค้นชื่อหนังที่ชื่อว่า “Shame” หนังสุดฉาวที่เป็นที่ฮือฮาตอนฉายโรงบ้านเราและ “Hunger” หนังที่มีฉากพูด Long Shot สุดคลาสสิค เป็นสองผลงานที่ทำให้ผู้กำกับจากเกาะอังกฤษคนนี้เป็นคนรุ่นใหม่ของวงการที่กำลังถูกจับตามองอย่างมาก

12 Years a Slaveพูดถึงเรื่องราวย้อนไปอเมริกาก่อนยุคสงครามกลางเมือง สมัยที่ประเทศยังเข้มข้นไปด้วยการเหยียดผิวระหว่างคนขาวกับคนดำอย่างสุดโต่ง (ใครที่ดู “Django Unchained”  ของ Quentin Tarantino คงเข้าใจดีว่าโหดแค่ไหน แต่ถ้าจะหวังกลิ่นเลือดสาดคลุ้งทั่วจอแบบนั้นคงไม่ใช่แน่ๆ) ตามประวัติศาสตร์แล้วจริงๆคนผิวสีในอเมริกันมีบางส่วน (น้อยมาก) ที่เขาไม่ได้เกิดมาเป็นทาสเลยก็มี… คือมีสถานะเป็น “Freeman” เป็นอิสระชนแบบคนขาวทั่วๆไป ซึ่งตัวเอกของเรา “Solomon Northup” ก็เป็นหนึ่งในนั้น รับบทโดย “Chiwetel Ejiofor” (จากเรื่อง 2012, American Gangster, Children of Men ที่ถึงแม้เรื่องนี้เป็นบทบาทพระเอกบนจอเงินเรื่องแรกของเขาแต่ก็ทำออกมาได้อย่างสุดยอดจริงๆ) Solomon เป็นช่างไม้และมีทักษะการสีไวโอลินแบบหาตัวยาก มีชื่อเสียงและสถานภาพอยู่อย่างชนชั้นสูง จนอยู่มาวันหนึ่งถูกลอบวางยาลักพาตัว นำไปขายเป็นทาส เรื่องราวทั้งหมดจึงเริ่มขึ้น ที่น่าสนใจคือนักแสดงที่มารับบทคนขาวเจ้านายทาสแต่ละคนดูจะมีดีกรีการแสดงบทบาทหลุดเพี๊ยนๆกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นหนุ่ม “Paul Dano” (ที่เคยรับบทเด็กมีปัญหาจากเรื่อง “Little Miss Sunshine” และนักเทศน์สุดป่วนจาก “There Will Be Blood”) “Paul Giamatti”  (จ่าอารมณ์ร้อนจาก “Saving Private Ryan” และคู่เพื่อนซี้ไม่เข้าขาจากหนังนอกกระแสชื่อดัง “Sideways”) และที่เป็นตัวชูโรงมาเลยคือบทนายทาสสุดโหด “Edwin Epps” รับบทโดย “Micheal Fassbender” (นักแสดงเจ้าบทบาทที่ช่วงหลังๆมานี้มีแต่ผลงานที่น่าจับตามองทั้งนั้นเช่น แมกนีโต้จาก X-Men: First Class รวมถึง Shame และ Hunger ที่กล่าวไปข้างต้นก็เขานี่ล่ะ) นอกจากบทโหดๆแล้วเรายังมี Brad Pitt มาร่วมแสดงด้วย แต่รายนี้ดูจาก trailer น่าจะเป็นคนขาวที่นิสัยดีขึ้นมาหน่อย (หวังว่านะ)

เห็นรายชื่อนักแสดงที่ตบเท้ามาประชันกันบทบาทซะขนาดนี้ คงไม่ต้องสาธยายกันให้มากความแล้วว่าหนังเรื่องนี้น่าดูขนาดไหน ฟังจากเสียงตอบรับทางฝั่งต่างประเทศต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหนังเรื่องนี้พูดถึงเรื่องราวการเหยียดผิวและทาสในสังคมอเมริกาได้ลึกซึ้่งจับใจ นักวิจารณ์หลายสำนักลงความเห็นว่าเป็นหนังดีที่สุดในช่วงปีนี้ ซึ่งถ้าใครยังไม่พร้อมรับหนังหนักๆแบบนี้ ไม่ต้องห่วงเพราะอาทิตย์นี้เรามีหนังอีกเรื่องที่น่าสนใจเช่นกันคือ Oldboy หนังรีเมคทำใหม่ที่ต้นฉบับเป็นหนังเกาหลีขึ้นหิ้งหนังคัลต์คลาสสิคไปแล้ว (นี่ที่ไม่ได้เขียนถึงก็ไม่ได้แปลว่าหนังเขาไม่ดีนะ!) มีหนังดีๆให้เลือกดูกันแล้วแต่ชอบเลย ถ้ามองมุมคนดูหนังอะไรจะมีความสุขไปกว่านี้อีก ขอให้เลือกดูหนังกันให้สนุกครับ…

Writer: Pakkawat Tanghom

RECOMMENDED CONTENT

21.กันยายน.2020

หากผู้บริโภคต้องการเห็นการตลาดแบบเดิม ๆ นิสสันเอเชีย และโอเชียเนีย ขอเตือนว่า อย่าเปิดดูแบรนด์แคมเปญล่าสุด หรือเข้าไปดูเว็บไซต์ใหม่ของนิสสัน ซึ่งเริ่มเปิดตัวในประเทศออสเตรเลีย ประเทศไทย และประเทศฟิลิปปินส์ เร็วๆ นี้ นิสสันนำเสนอกลยุทธ์ทางการตลาดล่าสุด