เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นสุดๆ เมื่อดู๊ดดอท ถูกรับเชิญให้ไปร่วมพิสูจน์สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของนิสสัน ลีฟ ใหม่ ซึ่งเป็นลองขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังครั้งแรก! และความท้าทายมันอยู่ที่ต้องขับขี่บนเส้นทางวัดใจที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,565 เมตร ด้วยระยะทางยาวกว่า 200 กิโลเมตร จากในตัวเมืองเชียงใหม่ขับขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย และที่สำคัญ นิสสัน ลีฟ ใหม่ คู่หูคันใหม่ของเราจะได้รับการชาร์จไฟฟ้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!

แน่นอนว่าก่อนจะเริ่มประสบการณ์อันท้าทายนี้ นอกจากจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ยังได้รับคำแนะนำ พร้อมกับเทคนิคต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ ที่ทำให้เราได้รู้จักกับสมรรถนะของรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น รวมถึงวิธีการฟื้นฟูพลังงานไฟฟ้าขณะเบรกและชะลอความเร็ว หรือที่เรียกว่า regenerative braking system ซึ่งนับเป็นภารกิจหลักสำคัญที่เราจะต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง ว่านิสสัน ลีฟ ใหม่ จะเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มีความเรียบง่ายอย่างอัศจรรย์ จากระบบฟื้นฟูพลังงานด้วยการเบรค” จริงไหม?

START 100%  เริ่มต้นบนทางเรียบ ได้เงียบ สมูท สบาย

ครั้งนี้เราเดินทางไป – กลับ ตัวเมืองเชียงใหม่ – ยอดดอยอินทนนท์ พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญ และสื่อมวลชนด้านรถยนต์ ไอที และไลฟ์สไตล์ โดยทุกคนจะได้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ใหม่ ที่ได้รับการชาร์จเต็มเพียงครั้งเดียว เมื่อออกจากจุดสตาร์ท ขับขึ้นดอย จนกลับมาพบกันที่จุดสตาร์ท ใครจะสามารถเหลือพลังงานไฟฟ้าในการขับขี่กลับมาได้มากที่สุด!

เราเริ่มออกจากจุดสตาร์ท ด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็ม 100% และวิ่งบนทางเรียบออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ที่มีรถเยอะ สลับติดสัญญาณไฟจราจร สัมผัสที่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป นับตั้งแต่เริ่มเหยียบคันเร่ง คือความสมูทในการออกตัว ไม่ว่าจะเร่งความเร็ว ชะลอ หรือสลับเบรก ก็ทำได้สมูท เรียบนิ่ง ที่สำคัญคือเสียงเงียบ ขับสบาย จนทำให้เราเกือบลืมไปเลยว่า เราใช้ความเร็วที่เท่าไหร่ และใช้พลังงานไฟฟ้าไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว

ขับขี่ขึ้นทางชัน สบายใจ ลื่นไหล ไม่มีหน่วง

ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทำให้เรานั่งสบาย บวกกับการขับขี่ที่นุ่มนวล และพลังงานไฟฟ้ายังเหลืออีกเยอะ เผลอแปปเดียวเรากำลังมุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์แล้ว ซึ่งตลอดทางนอกจากจะเป็นทางขึ้น – ลง ชัน สลับกับทางโค้งคดเคี้ยว ยังเป็นเส้นทางที่มีช่องจราจรเดียว นับเป็นความท้าทายในการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้ามากๆ แต่ก็เป็นการพิสูจน์สมรรถนะในแต่ละด้านของรถได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน

ต้องยอมรับว่า นิสสัน ลีฟ ใหม่ ทำได้ดีเกินคาดมากๆ ทั้งการหักเข้าโค้งในทางแคบ ก็ทำได้ลื่นไหล หรือการขับขึ้นทางชัน ก็ไม่ได้รู้สึกหน่วง หรือทำให้เรากังวลใจ แต่กลับทำให้เรารู้สึกชิลมากขึ้นตลอดเส้นทาง ถ้าไม่ใช่เพราะรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ที่ทำให้เราสบายใจขึ้นเยอะ ก็คงเป็นเพราะบรรยากาศเขียวๆ อากาศเย็นๆ ของดอยอินทนนท์แน่ๆ

Nissan LEAF ให้สัมผัสใหม่ ของการเคลื่อนที่แห่งอนาคต

จังหวะนี้เราเลยไม่พลาดทดลองใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ของนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของลีฟ ในระหว่างการขับขี่ รวมถึง e-Pedal เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ ที่ไม่ว่าเราจะเร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว หรือหยุดนิ่ง ก็ใช้แป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องเกร็งเท้าสลับไป-มาบ่อยๆ

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้าขณะขับขี่ (Forward Collision Warning – FCW) เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Forward Emergency Braking – FEB) และเทคโนโลยีกล้องอัจริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) ที่ให้มุมมองได้แบบ 360 องศาซึ่งเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ จะช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัย และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่บนภูเขาได้ดีมากๆ

สร้างพลังงานไฟฟ้าได้ใหม่ จากระบบฟื้นฟูพลังงานด้วยการเบรค และชะลอความเร็ว

เราเดินทางขึ้นถึงยอดดอยแบบสบายๆ สัมผัสอากาศเย็น หมอกเบาๆ พร้อมกับเช็คพลังงานไฟฟ้าที่ยังเหลืออยู่อีก 20 – 30 % พอให้ลุ้นว่าระหว่างทางลง เราจะเหลือพลังงานไฟฟ้ากลับไปอีกกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ผู้เชี่ยวชาญก็บอกให้เรามั่นใจได้ว่า “ในการขับลงพื้นที่ลาดชัน เราจะสามารถฟื้นฟูพลังงานกลับมาได้อย่างเรียบง่ายแต่อัศจรรย์ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้ด้วย”

ซึ่งการขับขี่ลงทางลาดชัน เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ เราได้เรียนรู้ระบบฟื้นฟูพลังงาน ด้วยการขับชะลอความเร็ว โดยปล่อยรถลงทางชันด้วยความความเร็วคงที่ สมูท ต่อเนื่อง แบบที่พยายามไม่เหยียบคันเร่งจนเกินไป เพื่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าเปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการเบรกกลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้า และเทคนิคสำคัญ คือใช้โหมด ‘B’ ของลีฟ จะช่วยในการฟื้นฟูได้มากขึ้น

พิสูจน์แล้ว Nissan LEAF เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่พร้อมและเหมาะสมที่สุดในเวลานี้

สรุปการขับขี่ตลอดทางลง จนถึงจุดหมายเริ่มต้นอีกครั้ง เราสามารถสามารถสร้างพลังงานไฟฟ้ากลับมาได้สูงถึงกว่า 20% (ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และความลาดชันของเส้นทาง) เมื่อพลังงานไฟฟ้ายังถูกใช้ต่อเนื่อง แต่ก็มีการสร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้สุดท้ายแล้ว เราก็ยังเหลือพลังงานไฟฟ้ากลับมาอีกเกือบ 20%

เราว่ามันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากเลยนะ สำหรับเส้นทางทดสอบนี้ ที่มีทางโค้งและสภาพสูงต่ำต่างกัน แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย เพราะนิสสัน ลีฟ ที่มีแรงบิดสูงสุดถึง 320 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งดีกว่าที่คิด รวมถึงให้ขับขี่ที่สะดวกสบาย แม้จะเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว แต่ก็ทำได้อย่างราบรื่น และที่สำคัญ ‘ไร้มลพิษ’

ถ้าใครที่กำลังสนใจรถยนต์ไฟฟ้า เราขอแนะนำ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่างแท้จริง ซึ่งเราพิสูจน์แล้วว่าทั้งสมรรถนะและเทคโนโลยี เรียกว่าพร้อมและเหมาะสมที่สุดในเวลานี้

พิเศษ! ลูกค้าที่จอง นิสสัน ลีฟ ใหม่ จะได้รับการประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิสสัน ลีฟ ใหม่ สามารถเยี่ยมชมโชว์รูมและศูนย์บริการนิสสันทั่วประเทศ หรือ สอบถามข้อมูลได้ที่ Call Center ที่ 02 401 9600 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Nissan LEAF Thailand page