fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

Seiko Conference 2022 งานที่รวมเรื่องราวทั้งหมดของนาฬิการุ่นตำนาน Prospex ในปีนี้มาไว้ในที่เดียว ให้สุภาพบุรุษได้เตรียมตัวเป็นเจ้าของ
date : 11.มีนาคม.2022 tag :

Seiko จัดงาน Online Press Conference 2022 เพื่อเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดในคอลเลคชั่น Prospex ประกอบไปด้วย Save The Ocean 3 รุ่นและ Speed Timer 1 รุ่นที่มาพร้อมกับความสวยงามในรูปแบบใหม่ นอกจากนั้นยังมีคอลเลคชั่น Presage Sharp Edge Series ที่มีให้เลือกมากถึง 5 รุ่นด้วยกัน และยังมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ในคอลเลคชั่นใหม่ประจำปี 2022 นี้ ทาง Seiko Thailand จะนำเข้ามาจำหน่ายเพียง Prospex Save The Ocean 3 รุ่น ประกอบไปด้วย SPB297J SPB299J และ SPB301J เท่านั้น

ดู๊ดดอทจะพาไปดูแต่ละคอลเลคชั่นว่าปีนี้น่าตื่นเต้นขนาดไหน

ลวดลายอาซาโนฮะในสีที่สะท้อนถึงขนบธรรมเนียบความเป็นญี่ปุ่น

Presage Sharp Edge Series

จากการสร้างสรรค์คอลเลคชั่นของ Presage Sharp Edge Series เมื่อสองปีที่แล้ว ได้สร้างพื้นที่ให้กับโลกแห่งนาฬิกาชั้นเยี่ยม สำหรับการผสมผสานแห่งดีไซน์ระหว่างนาฬิการะบบกลไกกับสไตล์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่โดดเด่น มาพร้อมความประณีตงดงามแบบดั้งเดิมด้วยดีไซน์ตัวเรือนที่แข็งแกร่ง และเหลี่ยมมุมที่คมชัด โดยสำหรับปี 2022 นี้

คอลเลคชั่นพรีซาจได้ขยายเพิ่มขึ้นอีก 5 รุ่นใหม่ ซึ่งแต่ละเรือนนำเสนอมุมองใหม่ๆ ของการผลิตนาฬิการะบบกลไกสะท้อนลงบนหน้าปัด พร้อมทั้งมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ซึ่งประกอบไปด้วย 1 รุ่น GMT ลิมิเต็ด เอดิชั่น

2 รุ่นที่มาพร้อมกับกลไกแบบ Open Heart และอีก 2 รุ่นมาพร้อมกับหน้าปัดแบบหลายเข็มที่แสดงผลการสำรองพลังงาน วันและวันที่

เช่นเดียวกับคอลเลกชั่นในซีรีส์พรีซาจที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ จุดเด่นของหน้าปัดใหม่คือการผสมผสานลวดลายอาซาโนฮะหรือใบป่านที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งเป็นลวดลายที่ใช่ในผ้าญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเฮอันเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว โดยลวดลายนี้ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากอาซาโนฮะเป็นสัญลักษณ์แห่งสุขภาพและความมีชีวิตชีวาของญี่ปุ่นมาโดยตลอด เนื่องจากมีลักษณะที่แข็งแรงและเติมโตอย่างรวดเร็ว

GMT ลิมิเต็ด เอดิชั่น

หน้าปัดในเฉดสีน้ำเงินที่ศิลปินอุกิโยะใช้วาดภาพภูเขาไฟฟูจิในฤดูร้อน

คาลิเบอร์ 6R64 GMT ลงตัวพอดิบพอดีกับลักษณะการออกแบบของชาร์ป เอดจ์ ซีรีส์ หน้าปัดกว้างช่วยให้อ่านเวลาได้ง่าย ฟังก์ชั่น GMT สำรองพลังงาน และวันที่สามารถอ่านได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ความเฉียบคมของเข็มนาฬิกาสะท้อนอยู่ในหลักชั่วโมงแบบ 3 มิติ พื้นผิวหน้าปัดที่เต็มไปด้วยลวดลายเสริมด้วยความลึกซึ้งของสี ซึ่งเป็นสีน้ำเงินที่ศิลปินอุกิโยะได้สร้างชื่อเสียงมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ บนรูปของภูเขาไฟฟูจิในฤดูร้อน วงแหวนแสดงเวลา GMT วัสดุเซรามิกสีน้ำเงิน

**นาฬิกาพรีซาจเรือนนี้จะวางจำหน่ายในรูปแบบลิมิเต็ด เอดิชั่นจำนวน 900 เรือนทั่วโลกเท่านั้น (รุ่นนี้มิได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย)**

SPB303

คาลิเบอร์ 6R64
ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อวินาที)
สำรองพลังงาน: 45 ชั่วโมง
อัญมณีรับแรงกระแทก: 29

ข้อมูลจำเพาะ

ตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีลเคลือบซูเปอร์ฮาร์ดโค้ทติ้ง
กระจกแซฟไฟรเคลือบกันแสงสะท้อน
ฝาหลังขันเกลียวแบบเปลือย
ขนาด 42.2 มิลลิมเตร บาง 13.7 มิลลิเมตร
กันน้ำ 10 เมตร
กันพลังงานสนามแม่เหล็ก 4,800 แอมแปร์ต่อเมตร
บานพับ 3 ชั้นปลดล็อคด้วยปุ่มกด
พร้อมสายหนังม้าในกล่อง
ลิมิเต็ด เอดิชั่น 900 เรือน

การออกแบบตัวเรือนใหม่

ตัวเรือนใหม่มีรูปทรงเพรียวบางและสง่างาม

นาฬิกาใหม่อีก 4 รุ่นในซีรีส์พรีซาจ ชาร์ป เอดจ์ ปี 2022 ทั้งหมดมีการออกแบบตัวเรือนใหม่ ในขณะที่ยังคงความแข็งแกร่งและเหลี่ยมมุมที่ทำให้ซีรีส์นี้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น มีพื้นผิวใหม่ที่ขัดแต่งจนเงาดุจกระจกระหว่างพื้นผิวด้านบนและด้านข้างที่ช่วยเพิ่มประกายให้กับนาฬิกา ความสง่างามของการออกแบบใหม่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยการปรับสัดส่วนข้างตัวเรือนให้เรียวเข้าด้านในตัวเรือน

SPB305 และ SPB307

คาลิเบอร์ 6R21
ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อวินาที)
สำรองพลังงาน: 45 ชั่วโมง
อัญมณีรับแรงกระแทก: 29

ข้อมูลจำเพาะ

ตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีลเคลือบซูเปอร์ฮาร์ดโค้ทติ้ง
กระจกแซฟไฟรเคลือบกันแสงสะท้อน
ฝาหลังขันเกลียวแบบเปลือย
ขนาด 40.2 มิลลิมเตร บาง 12.2 มิลลิเมตร
กันน้ำ 10 เมตร
กันพลังงานสนามแม่เหล็ก 4,800 แอมแปร์ต่อเมตร
บานพับ 3 ชั้นปลดล็อคด้วยปุ่มกด

เครื่องกลไก Open Heart ใหม่และเป็นครั้งแรกสำหรับซีรีส์นี้

ความลุ่มลึกของหน้าปัดที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้พื้นผิวในโครงสร้างถึง 3 ชั้น

การสร้างสรรค์ใหม่ 2 รุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องกลไกคาลิเบอร์ 6R38 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในตระกูลคาลิเบอร์ 6R ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อให้ผู้สวมใส่เห็นการทำงานของเอสเคปเมนต์ผ่านช่องหน้าต่างที่เปิดไว้บริเวณ 9 นาฬิกา และยังสำรองพลังงานได้นาน 70 ชั่วโมง

รวมถึงยังมีอีก 2 รุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องกลไก 6R21 มีฟังก์ชั่นบอกวัน วันที่ และอัตราการสำรองพลังงานที่ตำแหน่ง 3, 6 และ 9 นาฬิกาตามลำดับ เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของเครื่องรุ่นนี้ในชาร์ป เอดจ์ ซีรีส์ โดยหน้าปัดทั้ง 4 หน้าปัดจะมีสีแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่แตกต่างกัน Shironeri (ชิโรเนริ) สีขาวของผ้าไหมที่ไม่ได้ฟอก และ Aisumi (ไอซูมิ) ซึ่งเป็นสีน้ำเงินแบบอินดิโก้ ทั้งสองสีสำหรับใช้ในรุ่น Open Heart Geppaku (เกปปาคุ) สีขาวของพระจันทร์เต็มดวง Kuritobi (คูริโทบิ) สีของว่าวสีดำ ทั้งสองสีสำหรับใช้ในรุ่นบอกเวลาแบบหลายเข็ม

SPB309 และ SPB311

คาลิเบอร์ 6R38
ความถี่: 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)
สำรองพลังงาน: 70 ชั่วโมง
อัญมณีรับแรงกระแทก: 24

ข้อมูลจำเพาะ

ตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีลเคลือบซูเปอร์ฮาร์ดโค้ทติ้ง (SPB309)
ตัวเรือนสเตนเลสสตีลเคลือบซูปเปอร์ฮาร์ดโค้ทติ้งและสายหนังลูกวัว (SPB311)
กระจกแซฟไฟรเคลือบกันแสงสะท้อน
ฝาหลังขันเกลียวแบบเปลือย
ขนาด 40.2 มิลลิมเตร บาง 11.8มิลลิเมตร
กันน้ำ 10 เมตร
กันพลังงานสนามแม่เหล็ก 4,800 แอมแปร์ต่อเมตร
บานพับ 3 ชั้นปลดล็อคด้วยปุ่มกด

______________________

การร่วมมือของ Seiko ที่สนับสนุนการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก ภายใต้ ชื่อ Seiko พรอสเป็กซ์ ที่จะปรากฏบนสกอร์บอร์ดในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกเดือนกรกฎาคมนี้

Prospex Speed Timer

ธรรมเนียมของ Seiko ในฐานะผู้บุกเบิกการจับเวลากีฬาเริ่มต้นขึ้นในทศวรรษที่ 1960 เมื่อบริษัทเปิดตัวอุปกรณ์จับเวลาหลากหลายประเภทสู่เวทีกีฬาโลก ซึ่งกำหนดมาตรฐานใหม่แห่งความแม่นยำระดับโลก ธรรมเนียมนี้ยังคงดำเนินต่อเรื่อยมา และต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1985 Seiko ยังคงเป็นผู้จับเวลาของกรีฑาชิงแชมป์โลก ในปี 2022 โดยได้นำเสนอนาฬิกาจับเวลาอันล้ำสมัยในการแข่งกรีฑาชิงแชมป์โลกเป็นครั้งที่ 17 ติดต่อกัน ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นที่เมือง ยูจีน รัฐโอเรกอน แหล่งกำเนิดจิตวิญญาณของนักกรีฑาในสหรัฐอเมริกา

พรอสเป็กซ์ สปีดไทม์เมอร์ ลิมิเต็ด เอดิชั่น โครโนกราฟใหม่นี้เฉลิมฉลองมรดกทางกีฬาของ Seiko และสถานที่ศักด์สิทธิ์แห่งนี้ และพื่อป็นการให้เกียรติต่อนักกีฬาร่วม 1,800 คนที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์อีกด้วย

พรอสเป็กซ์ สปีดไทมเมอร์ ที่สุดแห่งนาฬิกาจับเวลาโครโนกราฟจาก Seiko

ประวัตศาสตร์ มรดก และความแม่นยำสูงสุด

เช่นเดียวกับนาฬิกาจับเวลาของ Seiko ในยุค 1960 ที่นำนวัตกรรมล้ำสมัยมาใช้ในการแข่งขันกีฬาระดับโลก ดังนั้นการสร้างสรรค์ Seiko สปีดไทม์เมอร์ในปี 1969 จึงเป็นเหตุการณ์อันสำคัญต่อประวัติศาสตร์แห่งกลไกโครโนกราฟ ต้องขอบคุณเวอร์ทิคัลคลัทช์และคอลัมน์วีลที่ทำให้การจับเวลาผ่านไปอย่างแม่นยำโดยปราศจากข้อผิดพลาดมากกว่าที่เคย สปีดไทม์เมอร์รุ่นใหม่นี้ประกอบขึ้นมาจากมือของช่างนาฬิกาผู้เชี่ยวชาญ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องคาลิเบอร์ 8R46 ที่คล้ายกับคาลิเบอร์ 6139 ที่ใช่ในสปีดไทม์เมอร์รุ่นดั้งเดิมในปี 1969 การทำงานร่วมกันของ

เวอร์ทิคัลคลัทช์และคอลมัน์วีล ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับความแม่นยำและทนทานสูงสุด เอสเคปเมนต์ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง ต้องยกย่องเทคโนโลยี MEMS ที่ช่วยเพิ่มความเสถียรและความแม่นยำของนาฬิกา ปุ่มกดมีความโดดเด่นและมีพื้นที่กว้างและแบนรองรับการใช้งานได้อย่างแม่นยำ การกดปุ่มรีเซ็ตเข็มนาฬิกาจะกลับเป็นศูนย์ทันทีเพื่อพร้อมสำหรับการจับเวลาการแข่งขันต่อไป

การออกแบบมาเพื่อเฉลิมฉลองกีฬาในระดับสากล

ทุกรายละเอียดของสปีดไทม์เมอร์ใหม่สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูงสุดของการจับเวลาการแข่งขันของ Seiko และรวบรวมจิตวิญญาณของนักกีฬาทั่วโลกเอาไว้ หน้าปัดลวดลายแบบผิวทรายทำให้นึกถึงพื้นผิวบนลู่วิ่ง โดยเข็มวินาทีแบบโครโนกราฟสีเหลืองเป็นสีของนาฬิกาจับเวลาและอุปกรณ์การจับเวลาทั้งหมดของ Seiko เข็มวินาทีจะมีความโค้งลงไปที่หลักชั่วโมงเพื่อให้สามารถอ่านค่าเวลาได้ชัดเจนที่สุดที่ 1/5 วินาที เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีเคลือบด้วยลูมิไบรท์เพื่อเพิ่มความสามารถในการอ่านค่าในที่มืด

  

เข็มนาฬิกาและตะเข็บสายนาฬิกาสะท้อนถึงสีเหลืองบนเครื่องมือจับเวลาของ Seiko ด้านหลังตัวเรือนจะมีสัญลักษณ์ของการแข่งขันประทับเอาไว้

นาฬิกาจะนำเสนอพร้อมกับสายสเตนเลสสตีลที่ออกแบบและผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับรุ่นนี้ ความหนาและน้ำหนักรวมกับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำของตัวเรือนช่วยให้มั่นใจได้ถึงความมั่นคงและความสบายเมื่ออยู่บนข้อมือ สามารถเลือกสวมใส่ได้กับสายหนังลุกวัวสีดำที่เดินตะเข็บสวยงามและออกแบบมาเพื่อความทนทานในการใช้งาน

Seiko Prospex Speedtimer Mechanical Chronograph
World Athletics Championships Oregon22 Limited Edition: SRQ041

คาลิเบอร์ 8R46 ระบบอัตโนมัติ โครโนกราฟ
คอลัมน์วีล และระบบเวอร์ทิคัลคลัทช์
ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อวินาที)
สำรองพลังงาน: 45 ชั่วโมง
อัญมณีรับแรงกระแทก: 34 เม็ด

ข้อมูลจำเพาะ

ตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีลเคลือบซูเปอร์ฮาร์ดโค้ทติ้ง
กระจกแซฟไฟร์ 2 ชั้นแบบโค้ง เคลือบกันแสงสะท้อนด้านใน
ฝาหลังแบบเปลือบ
กันน้ำ: 100 เมตร
กันพลังงานสนามแม่เหล็ก: 4,800 แอมป์แปร์ต่อเมตร
ขนาด: 42.5 มิลลิเมตร บาง: 15.1 มิลลิเมตร
บานพับ 3 ชั้นปลดล็อคด้วยปุ่มกด
สายหนังลูกวันเพิ่มในกล่อง
ลิมิเต็ด เอดิชั่น 400 เรือน ทั่วโลก (รุ่นนี้ไม่ได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย)

______________________

มรดกจากการออกแบบด้วยหน้าปัดที่มีลวดลายและสีของน้ำแข็ง

Prospex Save The Ocean

ชื่อเสียงของ Seiko ในด้านนาฬิกาดำน้ำเป็นที่เชื่อถือได้และมีความทนทานสูงโดยนาฬิกาได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1960-1970 เมื่อพวกเขาได้รับเลือกจากนักผจญภัยและนักสำรวจในการเดินทางไปทั้งยังขั้วโลกเหนือและใต้ วันนี้ Seiko ขอแนะนำคอลเลคชั่นพรอสเป็กซ์ที่ได้รับการตีความใหม่ให้กับนาฬิกาดำน้ำในตำนานทั้งหมด 3 เรือน ด้วยกัน

จากแรงบันดาลใจของธารน้ำแข็งที่เหล่าผู้บุกเบิกได้พบเห็น การหล่อหลอมของภูมิทัศน์และท้องทะเลแห่งอาร์กติกและแอนตาร์กติก โดยแต่ละรุ่นมีหน้าปัดที่สะท้อนให้เห็นถึงเฉดสีน้ำแข็งที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่สีน้ำเงินเข้มไปจนถึงสีขาว

แรงบันดาลใจจากนาฬิกาดำน้ำ Seiko เรือนแรกที่สร้างขึ้นในปี 1965

พลังอำนาจและความงดงามของธารน้ำแข็งแห่งขั้วโลก ถูกนำเสนออย่างยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบลงบนหน้าปัดที่มีลวดลายงดงาม หน้าปัดสีน้ำเงินเข้มถูกรังสรรค์ลงบนนาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของ Seiko ในปี 1965 ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือจากการถูกเลือกนำมาใช้งานโดยสมาชิกกลุ่มนักสำรวจแอนตาร์กติกของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1966 ถึง 1969

กลับมาอีกครั้งกับรุ่นปี 1968 ในสีทูโทนไอซ์บลู

หน้าปัดสีน้ำเงินอ่อนตัดกับขอบตัวเรือนสีน้ำเงินเข้มทำให้รุ่นที่สร้างสรรค์ใหม่ จากปี 1968 เป็นแลนด์มาร์ค ซึ่งเป็นนาฬิา Seiko เรือนแรกที่ดำน้ำได้ลึก 300 เมตร และทำงานด้วยเครื่องอัตโนมัติบนความถี่ 10 ครั้งต่อชั่วโมง

การตีความใหม่ของนาฬิกาที่นาโอมิ อุเอมูระสวมใส่ในปี 1970

หน้าปัดสีขาวถูกห่อหุ้มด้วยตัวเรือนรูปทรงโดดเด่นเหมือนกับรุ่นคลาสสิคในปี 1970 ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและทนทานที่ได้รับการสวมใส่โดยนักผจญภัยชวยญี่ปุ่น นาโอมิ อุเอมูระ ในช่วงปี 1974 ถึง 1976 เมื่อเขาเดินทางด้วยสุนัขลากเลื่อนเพียงลำพังเป็นระยะทาง 12,500 กิโลเมตรจากกรีนแลนด์ไปยังอลาสก้า

นาฬิกาทั้ง 3 รุ่นขับเคลื่อนโดยเครื่องคาลิเบอร์ 6R35 ที่ผ่านการทดสอบและเชื่อถือได้ สำรองพลังงานได้นาน 70 ชั่วโมง กันน้ำได้ 200 เมตร และนำเสนอบนสายนาฬิกาสเตนเลสสตีลพร้อมบานพับที่มีตัวล็อคแน่นหนา ตัวเรือนเคลือบซูเปอร์ฮาร์ดโค้ทติ้งและกระจกแซฟไฟร์เคลือบกันแสงสะท้อนด้านในเพื่อให้แน่ใจว่าจะอ่านค่าได้อย่างชัดเจนในทุกๆ มุมมอง หลักชั่วโมงทั้ง 12 หลักเคลือบลูมิไบร์ทเช่นเดียวกับเข็มนาฬิกาเพื่อเพิ่มความสามารถในการอ่านค่าขณะอยู่ในที่มืด

นาฬิกาทั้ง 3 เรือนใหม่นี้ เป็นหนึ่งใน Seiko พรอสเป็กซ์ ภายใต้คอลเลกชั่น Save The Ocean ซีรีส์ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายจะนำไปช่วยสนับสนุนด้านการเงินและอีกหลายด้านให้กับองค์กรการกุศลทางทะเลที่ Seiko ได้เลือก

Seiko Prospex Save the Ocean Special Editions

1965 Diver’s Modern Re-interpretation: SPB297
1968 Diver’s Modern Re-interpretation: SPB299
1970 Diver’s Modern Re-interpretation: SPB301

คาลิเบอร์ 6R35
ระบบขับเคลื่อน : อัตโนมัติ
ความถี่: 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)
สำรองพลังงาน: 70 ชั่วโมง
อัญมณีรับแรงกระแทก: 24 เม็ด

ข้อมูลจำเพาะ

ตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีลเคลือบซูเปอร์ฮาร์ดโค้ทติ้ง
การะจำแซฟไฟร์โค้งสองชั้นเคลือบกันแสงสะท้อนด้านใน
เม็ดมะยมแบบขันเกลียว, ฝาหลังแบบขันเกลียว
เข็มและหลักชั่วโมงเคลือบลูมิไบร์ท
กันน้ำได้ 200 เมตร
กันพลังงานสนามแม่เหล็ก 4,800 แอมป์แปร์ต่อเมตร

ขนาด 40.5 มิลลิเมตร บาง 13.2 มิลลิเมตร (SPB297)
ขนาด 42.7 มิลลิเมตร บาง 13.2 มิลลิเมตร (SPB299)
ขนาด 40.5 มิลลิเมตร บาง 13.2 มิลลิเมตร (SPB301)

สายสเตนเลสสีลพร้อมบานพับ 3 ชั้น ปลดล็อคด้วยปุ่มกด ล็อคนิรภัย และปรับยืดขยาย

Online boutique : https://www.seikoboutiquethailand.com/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888

Website : https://www.seikowatches.com/th-th/products

FB : Seiko Club by Seiko Thailand

Youtube Channel : Seiko Club by Seiko Thailand

IG : Seiko_Thailand

Line : @Seiko_Thailand

Twitter : @Seiko_Thailand

RECOMMENDED CONTENT

1.พฤศจิกายน.2021

การ์มิน เปิดตัวแคมเปญ “FROM ZERO TO HERO” ปลุกสปิริตให้คนไทยในช่วงเวลาที่หมดไฟ ให้สามารถเดินหน้าพิชิตเป้าหมายก่อนปิดปี 64