ไม่ว่าคุณจะเป็น Vlogger หรืออยากเก็บภาพเพื่อเล่าเรื่องราวหรือทำคอนเทนท์ก็ตาม นี่คือโทรศัพท์ที่ทำให้การเก็บความประทับใจนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรอีกต่อไป  ต่างกลับเมื่อก่อนที่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะทั้ง กล้อง-สมาร์ทโฟน ไมค์ ไม้กันสั่น ไฟ อยากได้มุมกล้อง 2 มุมในเวลาเดียวกันก็ต้องลงทุนเพิ่มอีก มาถึงวันนี้ทุกอย่างสามารถใส่ลงไปอยู่ในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว

วันนี้เราจะพาไปรู้จัก OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ที่ออกมาภายใต้แนวคิด ‘Picture Life Together’ เรียกได้ว่าสร้างมาเพื่อเก็บความประทับใจ และโดดเด่นเรื่อง ‘วิดีโอพอร์ตเทรต’ ที่ทำให้การถ่ายวิดีโอเหมือนถ่ายจากกล้องโปร รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ อัดแน่นเข้ามาช่วยให้การถ่าย Vlog ดียิ่งขึ้นไปอีก วันนี้เราให้คู่ซี้ “โจ” – “โน่” มาช่วยเล่าเรื่อง และลองใช้ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G กัน

กล้องหลัง 4 ตัว เก็บภาพคมชัด ด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว

กล้องหลังของ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G ใช้เซ็นเซอร์กล้องชุดเดียวกันเกือบทั้งหมด โดยมีกล้องหลักความละเอียด 64MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP, กล้องมาโคร 2MP, กล้องโมโน 2MP และกล้องเซลฟี่ของ OPPO Reno5 มีความละเอียดสูงถึง 44MP ส่วน OPPO Reno5 5G กล้องเซลฟี่ความละเอียด 32MP จะอยู่บนหน้าจอตรงมุมซ้ายบน ที่เป็นหนึ่งในกล้องที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้สวยที่สุดทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ รับรองว่าไม่แพ้ใครแน่นอน

Dual-view Video | เก็บความประทับใจได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังไปพร้อมกัน 

ความประทับใจของคนสองคนนั้น กล้องหน้า หรือกล้องหลังอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถบันทึกโมเมนต์ได้ทั้งหมด เราขอแนะนำฟังก์ชั่น Dual-view Video ให้เราถ่ายวิดีโอได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง เก็บความรู้สึกดีๆ ได้ในเวลาเดียว

เป็นฟังก์ชั่นที่เราประทับใจมากๆเพราะเราสามารถเก็บโมเมนต์แบบเรียลๆของคนที่คุณรักได้อย่างอิ่มเอมหัวใจ และยังเป็นมุมกล้องที่เท่มากๆอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ่าย Live หรือ Vlog รับรองว่าจะได้ทั้งความประทับใจและยังได้งานวีดีโอดีๆ อีกด้วย

AI Mixed Portrait (มีเฉพาะใน OPPO Reno5) | ให้คุณสร้างวิดีโอคอนเทนท์ได้สวยงามและแตกต่าง

OPPO Reno5 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกเลยก็ว่าได้ที่เอา Double Exposure Effect มาใช้ในการถ่ายวิดีโอ ให้เราสนุกกับวิดิโอพอร์ตเทรตมากยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์ AI Mixed Portrait ใช้งานได้ง่ายมาก เวลาถ่ายวิดีโอจะแสดงตัวอย่างได้แบบเรียลไทม์เพื่อให้เราถ่ายวิดีโอคอนเทนท์ได้เหมือนที่ตาเห็น และยังสร้างงานวีดีโอได้แตกต่างจากที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็น Motion Graphic ดีๆ ชิ้นหนึ่งได้เลย

คุณสามารถใช้ AI Mixed Portrait ได้ 2 แบบ

แบบแรกก็คือ Blend Mode คือรูปพอร์ตเทรตของเราเป็นหลัก แล้วตัดใส่รูปวิวเป็นแบล็คกราวด์ ส่วน Silhouette Mode จะเอาแสดงรูปวิวเป็นหลักแล้ว เอารูปพอร์ตเทรตของเราเป็นโฟร์กราวด์ ยิ่งไปกว่านั้น OPPO ใส่อัลกอริทึม AI ขั้นสูงทำให้ตัดรูปพอร์ตเทรตของเราได้แม่นยำ แบบไม่ต้องนั่งตัดเองให้เสียเวลา เป็นฟังก์ชั่นฉลาดให้เรามีวิดีโอคอนเทนท์อาร์ตๆ ได้อีกไม่จำกัด

Portrait Beautification Video ( มีเฉพาะใน OPPO Reno5 5G) | หน้าเนียน ดูเป็นธรรมชาติ

นี่เป็นฟังก์ชั่นที่ขาดไม่ได้เลยในตอนนี้ สำหรับ Portrait Beautification Video ที่ทำให้คุณหน้าเนียนดูดีได้อย่างต้องการ แถมยังใช้กับกล้องหน้าได้ดีอีกด้วย เพราะ OPPO ใส่เทคโนโลยีตรวจจับจุดบนใบหน้าได้มากถึง 194 จุด ให้เราสามารถปรับโครงหน้าได้ตามใจชอบ อยากมีตาแบบไหน ปากแบบไหน สามารถปรับได้ตามใจต้องการแถมยังได้รูปภาพที่เป็นธรรมชาติสุดๆ

นี่ถือเป็นฟังก์ชั่นเด็ดของ OPPO Reno5 5G เลยก็ว่าได้ และต้องยอมรับว่าวิดีโอคอนเทนท์ที่มีหน้าตาหล่อๆ สวยๆ ของเรา ย่อมทำให้งานของเราดูน่าสนใจขึ้นไปอีก

OPPO Reno5 5G รองรับการการใช้งาน 5G ที่ตอนนี้มีเฉพาะในสมาร์ทโฟนราคาสูงๆ เท่านั้น พร้อมกับเอาชิปตัวแรงอย่าง Snapdragon 765G ที่ช่วยให้การใช้งานด้าน 5G ได้ไหลลื่นมาก จากที่ใช้ต้องยอมรับว่าเร็วกว่า 4G หลายเท่าตัว กดโหลดไฟล์ใหญ่ๆ แทบไม่ต้องรอเลย สำหรับ Vlogger สามารถอัพโหลดคอนเทนท์ หรือวิดีโอใหญ่ได้จากทุกที่ ถือว่าเปลี่ยนโลกไปอีกขั้นเลย

ส่วน OPPO Reno5 แม้รองรับ 4G แต่ก็มีความรวดเร็วไม่แพ้กันด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 720G ซึ่งทั้งสองรุ่นใช้ RAM 8GB ROM 128GB เหมือนกัน ทำให้ความเร็วไม่ต่างกันมาก

Design | ตอบโจทย์ผู้นำเทรนด์ ประกายระยิบระยับ บาง และน้ำหนักเบา

OPPO Reno5 | หยิบเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Diamond Spectrum Process ทำให้สี Fantasy Silver ใน OPPO Reno5 เกิดเป็นเฉดสีใหม่นับพันสีบนฝาหลังของเครื่อง และหากมองจากมุมหรือในสภาพแสงที่ต่างกันจะสามารถแบ่งสีได้อย่างชัดเจนทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเขียว สีเหลือง สีฟ้า สีม่วง และ สีส้ม

โดยมีให้เลือกรุ่น Fantasy Silver และ Starry Black ทั้ง 2 มีน้ำหนักเบาเพียง 171g เท่านั้น มีความหนา 7.7 mm และ 7.8 mm ตามลำดับ

OPPO Reno5 5G | ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Diamond Spectrum Process ทำให้สี Galactic Silver ใน OPPO Reno5 5G เกิดเป็นเฉดสีใหม่นับพันสีบนฝาหลังของตัวเครื่องเช่นเดียวกัน

ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.9 mm และมีน้ำหนักเบาเพียง 172g ใน Starry Black, 180g ใน Galactic Silver ที่มีความบางเป็นพิเศษ และ เบาเป็นพิเศษ

เตรียมตัวเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G สมาร์ทโฟนที่เป็นที่สุดของวิดีโอพอร์ตเทรตได้แล้ววันนี้

OPPO Reno5 ราคา 10,990 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ สีเงิน Fantasy Silver และสีดำ Starry Black

OPPO Reno5 5G ราคา 13,990 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ สีเงิน Galactic Silver และสีดำ Starry Black

เป็นเจ้าของ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G ได้ง่ายขึ้นเมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย โดยสามารถเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,490 บาท และเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 5G ในราคาเริ่มต้น 5,490 บาท ระหว่างวันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น

โดย OPPO Reno5 Series 5G พร้อมวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/oppothai/

#OPPOReno5Series5G
#PictureLifeTogether