fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

A Day With . . . 1 วันสบายใจ พาไปถ่ายรูปย่านเมืองเก่า กับ Canon EOS RP กล้อง Mirrorless Fullframe ใช้งานง่าย ราคาดีที่สุดในตลาดตอนนี้!
date : 30.พฤษภาคม.2019 tag :

A Day With Canon EOS RP

ใครว่าการเดินทางจำเป็นต้องขึ้นอยู่กับระยะทางเสมอไป วันนี้ Dooddot จะพาคุณมาค้นหาความหมายใหม่จากการเดินทาง ‘ใกล้’ ในย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ เมืองที่ไม่เคยหลับใหลไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ถึงแดดจะร้อนเปรี้ยง รถจะติดเวอร์! แต่ลองทำใจร่มๆ ดูสักวัน เดินบ้าง นั่งรถบ้าง มองหาความสวยงามระหว่างทางที่คุณอาจเคยมองข้าม เก็บความรู้สึกดีๆ ผ่านสายตา แล้วมาจดบันทึกความทรงจำผ่านกล้อง Canon EOS RP ด้วยกันนะ!

Canon EOS RP เป็นกล้องที่พกง่ายมากๆ เหมาะกับการเดินทาง

เริ่มออกเดินทางจากถนนเจริญกรุง ย่านการค้าเก่าแก่ที่รวมหลากหลายวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ทั้งไทย จีน และตะวันตก ขณะที่ ด้วยคนรุ่นใหม่ที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว หรือคนที่เข้ามาทำธุรกิจใหม่ๆ ทำให้ถนนสายนี้กลับมามีชีวิตชีวาและให้ความรู้สึกร่วมสมัย

เราเดินลัดเลาะเก็บภาพสถาปัตยกรรมตึกเก่าอายุกว่า 100 ปีที่มีทั้งถูกรีโนเวทใหม่บ้าง และบางส่วนที่ยังคงความเก่าไว้ ให้เราสูดกลิ่นอายของอดีตพร้อมกับดูวิถีชีวิตของคนเจริญกรุงด้วยกล้อง Canon EOS RP ตัวเก่ง พระเอกของเราในวันนี้ เหตุผลที่เราพกกล้องตัวนี้ออกมาก็เพราะว่า อย่างแรกเลยคือน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด พกพาไปไหนมาไหนง่ายกว่า ไม่ต้องแบกกล้องใหญ่ให้ปวดไหล่

Canon EOS RP มีวงแหวนให้ตั้งค่า

อีกอย่างคือเจ้า Canon EOS RP ตัวนี้ใช้งานง่าย เหมาะกับคนที่ซื้อกล้องตัวเเรกอย่างเรา จะปรับโหมดถ่ายภาพก็ทำได้ง่ายๆ แค่หมุนที่ตัววงแหวน ซึ่งปกติแล้วกล้อง Mirrorless จะไม่มีวงแหวนให้ตั้งค่า แต่ตัวนี้มีครบแถมใช้ง่ายด้วย แล้วเจ้า Canon EOS RP ก็สามารถใช้ได้กับเลนส์ EF และ EF-S ได้อย่างง่ายดาย อย่างที่เราใช้เลนส์ RF 24-105 มม. สำหรับทริปวันนี้ มาดูกันว่าภาพจะออกมาเป็นยังไง!

ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS ของ Canon EOS RP

ระหว่างทางบนท้องถนนที่วุ่นวาย ตัวช่วยที่ช่วยเราให้จับภาพขณะเดินไปเรื่อยๆ ได้ง่ายขึ้นคือ ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS ของ Canon EOS RP ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS ฟูลเฟรม 26.2 ล้าน พิกเซล และตัวประมวลผลภาพ DIGIC 8 ทำให้โฟกัสภาพแบบอัตโนมัติ รวดเร็ว และแม่นยำ

จากเจริญกรุงมาต่อปากคลองตลาด ตลาดดอกไม้ที่แม้จะย้ายส่วนหนึ่งไปอยู่บนถนนราชพฤกษ์แล้ว แต่เราก็ยังได้เห็นภาพของหมู่มวลพ่อค้าแม่ค้าที่ยังเปิดขายดอกไม้หลงเหลืออยู่บ้าง ดอกไม้หลากหลายสีกับตึกรามบ้านช่องนั้นช่าง Photogenic เหมาะกับการถ่ายภาพสีสดๆ แจ่มๆ เก็บไว้จริงๆ

หน้าจอแอลซีดีจอแบบสัมผัสของ Canon EOS RP ขนาด 3.0 นิ้ว นี้มีความละเอียดถึง 1.04 ล้านพิกเซล ซึ่งปรับความสว่างได้ถึง 7 ระดับ คมชัดขนาดนี้ เก็บสีสันได้ครบแน่นอน

Flip Screen และการบันทึกภาพวีดีโอขนาด 4K !

ส่วนหน้าจอ LCD นี้ก็เป็นแบบ Flip Screen ใครที่ชอบถ่ายเซลฟี่ บอกเลยว่าถนัดมือสุดๆ เพราะสามารถพับเก็บจอ LCD ได้ด้วย แต่ก็ไม่จำเป็นว่าต้องมีไว้สำหรับถ่ายเซลฟี่เสมอไปนะ อย่างทริปของเราวันนี้ที่ต้องถ่ายภาพได้ทุกมุม เช่น การถ่ายภาพด้านข้าง มุมต่ำ หรือมุมสูง เจ้าหน้าจอ Flip Screen สำหรับถ่ายภาพมุมสูง ก็จะได้ความคมชัด แถมยังเหมาะกับการถ่ายวีดีโอขนาด 4K ซึ่งทำได้ง่ายๆ ด้วย Flip Screen นี่แหละ

โหมดตรวจจับดวงตา

โจทย์อย่างหนึ่งของการเดินเที่ยวทริปนี้ก็คงเป็นการถ่ายภาพผู้คนที่สัญจรไปมา แต่สิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดก็คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนถนนสายนี้นี่แหละที่พอเห็นเราเดินร้อนๆ มา ก็ใจดีเรียกเรากินน้ำกินท่า ให้เรานั่งพักเหนื่อย แถมชวนคุยถึงเรื่องราวต่างๆ ผ่านความทรงจำของคุณลุงคุณป้าที่เกิดและโตในย่านนี้ เราเองก็เลยขอเก็บภาพลุงๆ ป้าๆ ใจดีไว้เป็นความประทับใจไว้ด้วยซะเลย นี่อาจเป็นมิตรภาพ และเสน่ห์อย่างหนึ่งที่เราจะได้พบเจอระหว่างทางไม่ว่าใกล้หรือไกลก็ได้นะ  เราใช้โหมดตรวจจับดวงตาของกล้อง EOS RP ออโต้โฟกัสโดยเลือกดวงตาที่อยู่ใกล้กับกล้องมากที่สุด

เดินมาจนถึงท่าเตียน ท่าเรือขนส่งสินค้าและวัตถุดิบแหล่งใหญ่ของกรุงเทพฯ ที่ตอนนี้ยังมีกลิ่นอายของตลาดเก่าอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ผสมผสานกับชุมชนใหม่ที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรมบูติก หรือคาเฟ่ชิคๆ ซึ่งไหนๆ มาแล้ว เราขอแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วไปพักดื่มอะไรเย็นๆ ที่คาเฟ่สักหน่อยละกัน

ISO 100-40000 สําหรับภาพนิ่ง

ระหว่างนั่งพักภายในคาเฟ่ที่ตกแต่งสไตล์วินเทจสวยๆ เราอดใจไม่ไหวขอถ่ายเก็บไว้หน่อย ด้วยความไวแสง ISO อยู่ที่ 100-40000 สําหรับภาพนิ่ง ซึ่งแม้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยก็ยังสามารถออโต้โฟกัสในระดับ EV -5 ^ แสงจะสลัวแค่ไหนก็เอาอยู่ 

อีกอย่าง ถ่ายกันมาทั้งวัน เราถือโอกาสชาร์จแบตกล้องเลยละกัน Canon EOS RP ตัวนี้รองรับการชาร์จผ่าน USB สะดวกไปอีก !

Picture Style

เราลองใช้โหมด Picture Style ปรับภาพให้เป็นโมโนโครม (Monochrome) ซึ่งเป็นฟิลเตอร์ที่มาพร้อมกับตัวกล้อง เราจะได้ภาพขาวดำที่คมชัด ผิวเป็นผิว แดดเป็นแดด!

หลังพักจนหายเหนื่อยแล้ว ก็แดดร่มลมตกพอดี ได้เวลากลับสู่ท้องถนนอีกครั้ง ยามเย็นแบบนี้เรานึกถึงภาพย่านที่คึกคัก และที่สำคัญต้องมีอาหารอร่อยยั่วใจ จะไปไหนได้ล่ะ นั่งรถต่อมาถึงเยาวราชซะเลย ย่านที่มีสตรีทฟู้ดหนาแน่นและนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน กับแสงไฟยามค่ำคืน

Handheld Night Scene และ HDR Backlight Control

เราไม่รอช้าปรับกล้องไปที่โหมดถ่ายภาพกลางคืนแบบที่ไม่ต้องง้อช่างภาพมือชีพเลยแหละ เพราะมีโหมด (Handheld Night Scene) และโหมดควบคุมแสงด้านหลัง HDR (HDR Backlight Control) จับภาพวิวยามค่ำคืนพร้อมไฮไลท์เพิ่มความสว่าง และยังเพิ่มรายละเอียดให้ บริเวณที่มืดด้วยโหมดควบคุมแสงด้านหลัง ช่วยให้มั่นใจว่าภาพวัตถุมีแสงพื้นหลังและไม่มืดเกินไป เก็บภาพ Bokeh สวยๆ แบบที่มือใหม่อย่างเราก็ทำได้

นี่คือทริปที่บอกตรงๆ ว่าเหนื่อยใช้ได้ แต่ก็คุ้มค่ามากเหมือนกัน เหมือนได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ของกรุงเทพฯ ที่เราผ่านอยู่ทุกวี่วันแต่ไม่เคยสังเกตเลยว่ามีเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทางที่หลบซ่อนอยู่ ทั้งประวัติศาสตร์ของย่านเก่า สถาปัตยกรรม รวมถึงมิตรไมตรี และรอยยิ้มของผู้คน ซึ่งภาพถ่ายสวยๆ ที่เราถ่ายวันนี้ก็คงทำหน้าที่เป็นสมุดบันทึกความทรงจำเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

Canon Camera Connect

เมื่อถ่ายภาพเสร็จปุ๊บ เราก็สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ภายในกล้องลงสมาร์ทโฟนหรือแท็บเเล็ตได้ทันที แค่โหลดแอปพลิเคชั่น Canon Camera Connect ได้ทั้ง App Store และ Play Store ระบบ Digital Photo Professional Express ของ Canon ทําให้ประมวลผลไฟล์ JPEG และ CR3 RAW ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ปรับการตั้งค่าได้เองโดยตรงบนอุปกรณ์มือถือ และบันทึกไฟล์ไปยังคลาวด์ พีซี หรือกล้องได้เลย

จากการใช้ Canon EOS RP บอกได้เลยว่านี่คือกล้องที่ใช้งานง่าย เหมาะกับคนที่ไม่เก่งเรื่องกล้อง แต่รักการถ่ายภาพ และอยากซื้อกล้องตัวเเรกไว้ใช้งานจริงๆ โดยเฉพาะการใช้งานนอกสถานที่อย่างทริปนี้ของเรา

เพราะเป็นกล้องมิเรอร์เลสน้ำหนักเบาและกะทัดรัดที่สุดในตระกูลกล้องฟูลเฟรมของ Canon แถมที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดยังราคาดีงาม เมื่อมันมาพร้อมกับฟังก์ชั่น และ System ขนาดนี้ รอช้าอยู่ทำไม ต้องรีบมีไว้สักตัวแล้วนะ!

More information : https://th.canon/th/

RECOMMENDED CONTENT

10.พฤศจิกายน.2020

กุชชี่นี่มันกุชชี่จริงๆ! ล่าสุด Gucci ได้กลับมาพร้อมกับแคมเปญ Gucci Gift Giving Collection ต้อนรับบรรยากาศ Festive ช่วงปลายปีแบบนี้ โดยปีนี้ มาในธีม 'Gucci Holiday Office Party' ที่จำลองออฟฟิศยุค 80s ในช่วงก่อนเวันหยุดยาวที่เหล่าพนักงานพร้อมสำหรับปาร์ตี้แสนคึกคัก ซึ่งไอเดียเก๋ๆ ของ Gucci ยุค 4.0 อย่างนี้ ไม่บอกก็คงพอเดากันได้ว่ามาจากใคร ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ อเล็ซซานโดร มิเคเล่ (Alessandro Michele) คนดีคนเดิมนั่นเอง