fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#Watch | เรื่องราวความสง่างามของนักเดินทางข้ามทะเล ในคอลเล็กชั่น ‘Ocean Star’ จากนาฬิกา มิโด (Mido)
date : 30.กรกฎาคม.2020 tag :

มิโด (Mido) แบรนด์นาฬิกาในเครือ สวอทช์ กรุ๊ป (Swatch Group) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ออกคอลเล็กชั่นใหม่สำหรับนักเดินทาง Ocean Star ด้วยการติดตั้งฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์อย่างมากในการเดินทางอย่าง GMT สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างกันของ 2 เขตเวลา นั่นคือ เวลาของเมืองที่คุณเดินทางจากมา (Home Time) และ เวลาของที่คุณเดินทางมาถึง (Local Time)

ด้วยการผสมผสานระหว่างหน้าปัดสีดำที่มีโทนสีและลวดลายที่ดูนุ่มละมุนเหมือนกำมะหยี่กับขอบตัวเรือนสีน้ำเงินเงาแวววาวที่ผลิตจากเซรามิก ทำให้สัมผัสที่ได้จาก Ocean Star GMT มีการตัดกันอย่างลงตัวและโดดเด่น เมื่อพลิกไปที่ด้านหลังของเรือนเวลา ซึ่งมีการติดตั้งกลไก Caliber80 ซึ่งสามารถให้กำลังงานสำรองสูงสุดถึง 80 ชั่วโมงนั้น กับตัวบ่งบอกเขตเวลาที่ Mido ได้สลักลงไปบนฝาหลัง สำหรับการใช้งานฟังก์ชั่น GMT ของตัวนาฬิกานั้นถือว่าง่ายสุดๆ และสามารถมอบความอิสระในการใช้งานมากขึ้นเป็นสองเท่าไม่ว่าจะเป็นการใช้งานใต้ท้องทะเล หรือว่าจะอยู่บนข้อมือของผู้ที่มีอะดรีนาลีแห่งการออกเดินทางสูบฉีดอยู่ในร่างกาย

เรื่องราวของประภาคาร Europa Point Lighthouse

ณ ตำแหน่งที่อยู่ด้านใต้สุดของทวีปยุโรปคือที่ตั้งของสิ่งก่อสร้างที่ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามอย่างหนึ่งมันถูกสร้างขึ้นเพื่อท้าทายพลังแรงแห่งพายุและเปรียบเสมือนเป็นผู้พิทักษ์และสอดส่องการเดินทางบนพื้นที่ของช่องแคบยิบรอลตาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องมาตั้งแต่ปี 1841 นั่นคือ ‘ประภาคาร Europa Point Lighthouse’ ลำแสงพลังแรงของไฟสามารถช่วยให้บรรดาเหล่ากะลาสีเรือ สามารถหาร่องน้ำในการเดินเรือที่เหมาะสมท่ามกลางสภาพอันแปรปรวนของจุดบรรจบระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติก และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สำหรับคอลเล็กชั่น Ocean Star ที่ได้รับการสร้างสรรค์โดย Mido มาตั้งแต่ปี 1941 สามารถสะท้อนถึงบุคลิกที่มีอยู่ในตัว โดยเฉพาะความทนทาน เช่นเดียวกับประภาคารแห่งนี้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนำทางมนุษย์เราให้เดินทางได้อย่างปลอดภัยในทุกครั้งที่พวกเขามีแรงผลักดันให้ออกไปผจญภัยครั้งใหม่ในโลกแห่งท้องทะเล

Ocean Star GMT ได้ผ่านการพิสูจน์ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นในการทำงานที่โดดเด่น ด้วยความสมบูรณ์แบบในการออกแบบที่ช่วยเพิ่มความความง่ายในการมองเห็น เพิ่มความสะดวกในการอ่านค่าเวลา ซึ่ง Mido ได้มีการปรับเปลี่ยนชุดเข็มในตัวนาฬิกาให้สอดคล้องกับฟังก์ชั่นทำงานของตัวนาฬิกา นอกเหนือจากเข็มชั่วโมง เข็มนาทีและเข็มวินาทีแล้ว ยังมีเข็มแสดงเวลาที่ 2 ซึ่งมีการเคลือบเงาด้วยโทนสีน้ำเงิน โดยเข็มชุดนี้จะทำหน้าที่ร่วมกับสเกลบอกเวลาในแบบ 24 ชั่วโมงที่อยู่ด้านในของหน้าปัด เพื่อบอกเวลาที่ 2 โดยบนสเกลนั้นจะมีการแบ่งโซนเวลาในช่วงกลางวันและกลางคืนอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าเป็นโซนเวลากลางวันจะมากับพื้นสีน้ำเงิน และถ้าเป็นโซนเวลากลางคืนก็จะมากับชุดโทนสีดำ ด้วยประสิทธิภาพของสารเรืองแสง Super-LumiNova® ที่ถูกแต้มลงบนทั้งชุดเข็มและหลักชั่วโมงจึงช่วยทำให้ผู้สวมใส่สามารถรับทราบเวลาที่เกิดขึ้นแม้จะอยู่ในที่มืด เช่น ใต้ท้องทะเลลึกก็ตาม อีกทั้งยังมีการเจาะช่องสำหรับแสดงวันที่เอาไว้ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาบนหน้าปัด

ขอบตัวเรือนแบบหมุนทางเดียวที่ผลิตจากเซรามิกของ Ocean Star GMT ยังจะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถรับทราบเวลาที่ถูกใช้ไปแม้ว่าจะเป็นเวลาก่อนที่จะเริ่มมีการจับเวลาในการผจญภัยครั้งใม่หรือเวลาที่ถูกใช้ไปในระหว่างอยู่ใต้น้ำขอบตัวเรือนถูกออกแบบอย่างใส่ใจทั้งในเรื่องของการใช้งานอย่างสะดวกและจากการที่ใช้เซรามิกแบบที่มีความทนทานต่อการใช้งานสูงนั้นยังช่วยทำให้ลดปัญหาเรื่องการขูดขีดและการสวมใส่ได้อีกด้วยตัวนาฬิกาสามารถกันน้ำได้สูงสุด 20 บาร์และมาพร้อมกับกระจก Sapphire ที่มีการเคลือบสารกันการสะท้อนแสดงบนทั้งด้านในและด้านนอก  ซึ่งทั้งหมดช่วยทำให้นาฬิกาสปอร์ตรุ่นนี้มีความเหมาะสมอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานในการสำรวจทางทะเล และที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือเทคโนโลยีในการผลิตสายที่มาพร้อมกับเส้นสีฟ้าที่สอดรับกับสีของเข็ม GMT และนั่นทำให้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้สวมใส่ขณะที่คาดนาฬิการุ่นนี้อยู่บนข้อมือ 

นอกจากนั้น Ocean Star GMT ยังมีทางเลือกอีกรุ่นกับสายสตีลพร้อมกับเข็ม GMT สีส้ม และอีกทางเลือกคือตัวเรือนสตีลแบบทูโทน และเคลือบ PVD สี Rose Gold มองเห็นอย่างชัดเจน เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและใช้งานได้จริงในทุกสถานการณ์ ดังนั้น Ocean Star GMT จึงถือเป็นการเปิดโลกแห่งการเดินทางและการค้นพบทางทะเลอย่างแท้จริง

รายละเอียดทางเทคนิค

กลไก : กลไกอัตโนมัติ Mido Caliber 80 (พื้นฐานจาก ETA C07.661) ขนาด 11’’’ เส้นผ่าศูนย์กลาง 25.60 มม. หนา 5.77 มม. มี 25 จิวเวล ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง / ขัดแต่งสวยงามตามเกรด Elabore / โรเตอร์ขึ้นลานขัดลายเจนีวาสไตรปส์และแกะสลักเป็นโลโก้ Mido / บอกชั่วโมง นาที วินาที และวัน+เข็มแสดงเวลาที่ 2 ในแบบ 24 ชั่วโมง / ปรับตั้งเพื่อความเที่ยงตรงสูงใน 3 ตำแหน่ง / กำลังลานสำรองสูงถึง 80 ชั่วโมง

ตัวเรือน : ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขัดลายซาตินและขัดเงา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 42 มม. / ประกอบด้วย 2 ชิ้นส่วน /ขอบตัวเรือนผลิตจากเซรามิกสีน้ำเงิน และหมุนได้ในแบบทางเดียว / แซฟไฟร์คริสตอล เคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้งด้านนอกและด้านใน / กลไกนาฬิกาที่ขัดแต่งมาเป็นอย่างดีตามเกรด Elabore / ฝาหลังมีการสลักข้อมูลของเขตเวลา / มาพร้อมหมายเลขประจำเรือน / ฝาหลังและเม็ดมะยมเป็นแบบขันเกลียว / กันน้ำถึงระดับ 20 บาร์ ( 200 เมตร/660 ฟุต

 สาย : สายผ้าสีน้ำเงินมาพร้อมกับขอบสายที่ถูกพับม้วนอย่างสวยงามและเดินด้านสีขาวตามแนวขวางตรงช่วงขาสาย / ตัวรัดสายแบบเข็มขัดผลิตจาก Stainless Steel มีการขัดลายซาติน สลับกับขัดเงา

หน้าปัด : สีดำแบบมีลวดลายที่ดูนุ่มนวลเคลือบสารเรืองแสง SuperLuminova ที่หลักชั่วโมงในแต่ละตำแหน่ง / ช่องหน้าต่างวันที่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา  / การแสดงผลเขตเวลาที่ 2 แบ่งออกเป็น 2 ส่วนโดยใช้สีดำและสีน้ำเงิน

เข็ม : เข็มชั่วโมง-นาทีมีรูปทรงแบบไดมอนด์คัตพร้อมกับส่วนนูนตรงกลางและมีการเคลือบสารเรืองแสง SuperLuminova สีขาว และเข็มวินาทีมีรูปทรงแบบไดมอนด์คัต พร้อมปลายที่เคลือบด้วยสีน้ำเงินและมีการเคลือบสารเรืองแสง SuperLuminova สีขาว ส่วนเข็ม GMT มีการเคลือบเงาด้วยโทนสีน้ำเงิน พร้อมแต้มสารเรืองแสง SuperLuminova สีขาว

#OceanStarGMT #Midowatches

RECOMMENDED CONTENT

26.มิถุนายน.2019

เรื่องราวอันเป็นตำนานของพิเทร่า™ จะถูกนำมาเล่าอีกครั้ง ผ่านบทเพลงรักพร้อมมิวสิควิดีโอ “Oh PITERA™” ที่กล่าวถึงผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์และขายดีที่สุดของเอสเค-ทู อย่างน้ำตบพิเทร่า ผ่านเสียงร้องและฝีมือการประพันธ์ของนักร้องหนุ่มที่กวาดหลายรางวัลทั่วโลกอย่าง จอห์น เลเจนด์