fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

37 ปี Lotus Arts de Vivre รังสรรค์ 90 ผลงานแฮนด์เมดมาสเตอร์พีซ สะท้อนคุณค่าวัฒนธรรมและศิลปะชั้นสูงของเอเชีย
date : 23.ธันวาคม.2019 tag :

จากความรักในการเดินทางสัมผัสกับวัฒนธรรมทั่วโลกผนวกกับความหลงใหลในงานศิลปะและเอกลักษณ์ในการออกแบบของ มร. รอล์ฟ วอน บูเรน และภรรยา เฮเลน วอน บูเรน สู่การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจิวเวลรี่และของตกแต่งบ้านชื่อก้องโลก สัญชาติไทย ภายใต้แบรนด์ Lotus Arts de Vivre โดยช่างฝีมือชั้นสูง มาตรฐานระดับสากล และเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 37 ปี ทายาทเจนเนอเรชั่นที่ 2 ศรี วอน บูเรน และ นิกกี้ วอน บูเรน ลูกเสี้ยวไทยแต่หัวใจไทยเต็มร้อย จึงจัดงาน Lotus Arts de Vivre 37th Anniversary จัดแสดง ผลงานแฮนด์เมดมาสเตอร์พีซกว่า 90 ชิ้น สะท้อนคุณค่าวัฒนธรรมและศิลปะชั้นสูงของเอเชีย เพื่อให้คนรักงานดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ครอบครองจิวเวลรี่และของตกแต่งบ้านเลอค่า โดยภายในงานคับคั่งด้วยแขกผู้มีเกียรติผู้ชื่นชอบในงานเอกลักษณ์ของงานดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร อาทิ สิริยศ เทพหัสดิน อยุธยา, ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์, กรกนก ยงสกุล, อรชุมา ดุรงค์เดช, ราชวิน นฤหล้า, ปราณวรินทร์ ปามี, อัครรัฐ วรรณรัตน์, เบน นคร ฯลฯ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีค ชั้น 1 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เมื่อวันก่อน

สำหรับผลงานไฮไลต์ในวันนี้มีจำนวน 20 ชิ้น แบ่งเป็น จิวเวลรี่ จำนวน 10 ชิ้น อาทิ ต่างหูไม้แกะสลัก รูปใบไม้ ประดับลูกปัดจีน ปีกแมลงปีกแข็ง ทอง 18 กะรัต ทัวร์มาลีนสีชมพู เพชรเจียระไน และเพชรเหลี่ยมลูกโลก ประดับบนเงินบริสุทธิ์ ด้านหลังเป็นทองคำ 18 กะรัต, แหวนมูโร แกะสลักจากไม้มะเกลือชิ้นเดียว ประดับด้วยเพชรเหลี่ยมลูกโลกทัวร์มาลีนสีชมพูแกะสลักเจียระไน และมุกทรงหยดน้ำ ประดับบนทองคำ 18 กะรัต เงินชุบโรเดียมสีดำ และเงินบริสุทธิ์ชุบทอง ซึ่งเครื่องประดับมูโรเกิดขึ้นครั้งแรกในนครเวนิส ช่วงยุคกลาง โดยเชื่อกันว่าจะนำความโชคดีมาให้ผู้ที่สวมใส่, สร้อยมุกทองคำ 18 กะรัต ลงรักสีแดงชาดแกะสลักด้วยมือประดับเพชรเหลี่ยมลูกโลก ได้รับแรงบันดาลใจจากพวงมาลัยของไทย ซึ่งใช้เป็นเครื่องสักการะบูชาหรือเก็บไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งการลงรักสีแดงชาด เป็นศิลปะที่พัฒนาขึ้นโดยชาวจีนที่องค์จักรพรรดิทรงใช้เพื่อเป็นของขวัญชั้นสูงสำหรับพระราชทานให้ทางการทูตหรือการเมือง, สร้อยคอพัดญี่ปุ่นโบราณ สำหรับผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตนเอง ดีไซน์เก๋รูปพัดญี่ปุ่นตกแต่งด้วยการลงรักสีแดงชาดแกะสลัก ขมวดเขากระบือสีดำ เพชรเหลี่ยมลูกโลกประดับบนเงินเนื้อบริสุทธิ์ชุบโรเดียมสีดำ มรกตทรงบาร์เกต ประดับในทองคำ 18 กะรัต ห่วงสร้อยคอมีไข่มุกบาร็อค ประดับเงินเนื้อบริสุทธิ์ชุบโรเดียมสีดำและทองคำ 18 กะรัต, แหวนนกหยกแกะสลัก ทอง 18 กะรัต ประดับด้วยไพลิน ทับทิมและเพชรเจียระไน, กระเป๋าถือไม้ไผ่สานโบราณ ซึ่งนำเทคนิคการสานเสื่อไม้ไผ่มาดัดแปลงเป็นกระเป๋าตกแต่งด้วยกรอบไม้สักปิดทอง มือจับทำจากรากไม้ไผ่ ตกแต่งด้วยลูกปัดคลัวซอนเน ประดับด้วยเส้นไหมและกบเงินเคลือบเขียว, สร้อยคอเปียโนทองคำ 18 กะรัต ประดับด้วยไม้สีดำแกะสลัก เพชรเหลี่ยมลูกโลก เพชรทรงบาร์เกต เงินเนื้อบริสุทธิ์ชุบโรเดียมสีดำ ออกแบบตามลักษณะของแกรนด์เปียโน

นอกจากนี้ได้นำความเชื่อของชาวจีน ลัทธิเต๋า ลัทธิขงจื๊อ และพุทธศาสนา ความเชื่อของชาวญี่ปุ่นโดยมีศาสนาชินโตเป็นพื้นฐาน และนำงานออกแบบจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาและงานออกแบบจากสัตว์ มาเป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์ของตกแต่งบ้านสุดเลอค่าทั้ง 10 ชิ้น อาทิ ชามมังกรไม้มะเกลือ ความลึกลับแบบจีนโบราณ ผลิตขึ้นจากไม้มะเกลือชิ้นเดียว ออกแบบด้วยเงินบริสุทธิ์เป็นนักปราชญ์จีน (เล่าจื๊อ) พร้อมกับมังกรจีนนำทางเรือ, พระสังกัจจายน์ถือเงินตำลึงจีน สร้างจากไม้สักตกแต่งด้วยเงินและกระดุมเทอร์ควอยส์ ตั้งอยู่บนแท่นหินแกรนิตสีดำ แสดงถึงความมั่งคั่งและความโชคดี, บอนไซญี่ปุ่น ทำจากไม้เคยากิญี่ปุ่นโบราณประกอบเข้ากับเงินเนื้อบริสุทธิ์เพื่อสร้างต้นบอนไซทรงบัณฑิต ซึ่งมีลักษณะโดดเด่นที่ลำต้นเปลือยเปล่ามีกิ่งก้านน้อยที่สุด ใบประดับด้านบนลำต้นที่ยาว ซึ่งใช้เวลากว่า 3 เดือน ด้วยฝีมือของช่าง 7 คน เพื่อทำให้งานมีชีวิตขึ้นมา, พญานาคตาลมะพร้าว โดดเด่นด้วยหัตถกรรมช่างเงิน ดีไซน์รูปพญานาคจากความเชื่อของชาวอียิปต์ที่ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสายน้ำ ผสานกับวัฒนธรรมเอเชียและอุษาคเนย์รวมถึงประเทศไทย เป็นต้น

ร่วมเสพงานศิลปะและครอบครองงานดีไซน์สุดเลอค่ากับ 90 ผลงานแฮนด์เมดมาสเตอร์พีซ จากช่างฝีมือชั้นสูง สะท้อนคุณค่าวัฒนธรรมและหัตถกรรมของเอเชีย เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 37 ปี แบรนด์ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ (Lotus Arts de Vivre) ได้ที่ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีค ชั้น 1 โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
เวลา 10.00 – 19.00 . รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.lotusartsdevivre.com/

RECOMMENDED CONTENT

1.พฤศจิกายน.2021

การ์มิน เปิดตัวแคมเปญ “FROM ZERO TO HERO” ปลุกสปิริตให้คนไทยในช่วงเวลาที่หมดไฟ ให้สามารถเดินหน้าพิชิตเป้าหมายก่อนปิดปี 64