fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#TastingNote – “ครก” ร้านอาหารไทยที่เปลี่ยน ‘น้ำพริก’ ให้เป็น ‘ซอส’ ทำลายกำแพงคนไม่ชอบกินผัก
date : 9.มีนาคม.2020 tag :

ครกอาวุธหนักติดมือแม่บ้านจุดเริ่มต้นของอาหารไทย ไม่ว่าจะทำเครื่องผัด เครื่องแกง พื้นฐานมาจากการโขลกครกจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในครัวไทยและเป็นที่มาของร้านน้ำพริกในย่านตลาดน้อย

จุดเริ่มต้นของร้านครกมาจากกลุ่มเชฟร้านฟายดายนิ่งมิชลิน 1 ดาวอย่าง ‘80/20’ ที่มองหาพื้นที่ใหม่ที่ได้ทดลองอาหารให้เข้าถึงง่าย เข้าใจง่าย ให้ทุกคนได้กินอาหารที่ดีในราคาสบายๆ อีกอย่างเชฟเชื่อว่าอาหารไทยมีดีและวัตถุดิบไทยก็มีคุณภาพ ในอีกใจความคือพวกเขารู้สึกว่าคนไทยมีความสามารถ และอาหารก็สามารถพัฒนาไปได้อีก

น้ำพริกเลยถูกยกมาเป็นคอนเซ็ปต์ของร้านจับมาตีความใหม่ไม่ใช่อาหารไทยโบราณอีกต่อไป แต่เป็นน้ำพริกแห่งปี 2020 ที่พัฒนาขึ้นขึ้นไปอีกขั้น เชฟได้ทดลองปรับแต่งจากสูตรเดิมๆ ลองใส่วัตถุดิบใหม่ๆ เข้าไปแทน จนได้น้ำพริกหน้าตาคุ้นเคยแต่รสชาติมีมิติใหม่มากขึ้น หรือบางถ้วยหน้าตาเดิมๆ แต่ให้รสชาติแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น น้ำพริกกะปิ, น้ำพริกปลาย่าง, น้ำพริกมะเขือเผา และน้ำพริกกุ้งเสียบ ทุกถ้วยต่างคิดขึ้นมาใหม่หมด

อย่างน้ำพริกมะเขือเผาที่มีหน้าตาเหมือนกับน้ำพริกหนุ่ม แต่ให้รสชาติที่ไม่เหมือนกันเลย หรือน้ำพริกกะปิที่เสริฟมาแบบเป็นก้อนๆ เหมือนน้ำพริกตาแดง แต่กลับให้รสชาติเหมือนน้ำพริกกะปิไม่มีผิดเพี้ยน

ที่ครกใช้วัตถุดิบคุณภาพเดียวกับ 80/20 เพราะใช้ซัพพลายเออร์เดียวกัน ทำให้บางเมนูอาจจะต้องเปลี่ยนตามฤดูกาลตามร้านหลัก โดยทางร้านคัดเลือกวัตถุดิบ อย่างผักเอามาจากออแกนิคฟาร์มที่สุพรรณบุรี ข้าวออร์แกนิกมาจากยโสธร พวกไข่กับไก่ก็เอามาจากปากช่องเป็นออร์แกนิกฟาร์มเหมือนกัน ส่วนกะปิเอามาจากชุมพร พริก กระเทียม หัวหอม ก็ออร์แกนิกฟาร์มเหมือนกัน ทั้งหมดนี้ทำเพื่อสนับสนุนเกษตรกร เพราะเชื่อว่าของไทยมีคุณภาพเยอะ ต้องช่วยกันสนับสนุนอย่าให้ขาด

ถึงแม้น้ำพริกจะอยู่คู่กับคนไทยทุกบ้าน แต่น้ำพริกก็ยังมีกำแพงของคนไม่กินผัก ที่ร้านจึงทำเมนูแบบให้เลือกกินได้สามารถจัดเซ็ทเองได้ ปกติเวลาไปสั่งน้ำพริกจะมาพร้อมผักอยู่แล้ว จะกินไม่กินไม่รู้แต่ใส่มาให้ อันนี้เลยเป็นที่มาของอาหารร้านครกด้วย หนึ่งจานสามารถเลือกได้ตั้งแต่ข้าวแบบไหนกินกับน้ำพริกอะไร เนื้อสัตว์แบบไหน ใส่ผักแค่อันนี้หรือจะไม่ใส่ผักเลยก็ได้ เลยตอบโจทย์สำหรับคนอยากกินน้ำพริกแต่ไม่อยากกินผัก จริงๆ มองว่าเป็นการกินน้ำพริกแบบใหม่ อย่างที่ร้านพยายามทำคือไม่จำเป็นต้องกินกับผัก ให้มองภาพว่าเป็น ซอส’ มากกว่า

ครกเซตเมนู

Set 1 : น้ำพริกกุ้งเสียบกับปีกไก่ทอด
Set 2 : น้ำพริกปลาย่างกับคอหมูย่าง
Set 3 : น้ำพริกมะเขือเผากับปลาประจำวัน (วันที่ไปใช้ปลากะพง)
Set 4 : น้ำพริกกะปิสูตรครกกับน่องเป็นพะโล้ (น่องเป็ดพะโล้จะไม่มีในเมนู เนื่องจากวัตถุดิบที่ 80/20 เปลี่ยนฤดูกาล)

นอกจากนี้มีเมนูเมกะครกกับซูเปอร์เมกะครกเป็นชุดที่ใส่มาให้ทุกอย่าง จะเรียกว่าเป็นเมนูไซส์ L กับ XL ก็ได้ ถ้ามาหลายคนอยากลองทุกอย่างแนะนำเลย

ออกแบบจานของตัวเอง

Step 1 : ข้าว

– ข้าวหอมมะลิออร์แกนิก
– ข้าวกระเทียม

Step 2 : น้ำพริก

– น้ำพริกกะปิสูตรครก
– น้ำพริกกุ้งเสียบ
– น้ำพริกมะเขือเผา
– น้ำพริกปลาย่าง

Step 3 : เนื้อสัตว์

น่องเป็ดพะโล้ (หมดฤดูกาลไปแล้ว รอเมนูใหม่)
ปีกไก่ทอด
คอหมูย่าง
ปลาประจำวัน

Step 4 : เครื่องเคียง

ไข่ต้ม / ไข่ดาว / ไข่เจียว
ผักประจำวัน (วันที่ไปมีผักผักกาดหิน ถั่วพลู ถั่วหวาน ใบชะมวง และ ยอดผักปรัง)
ผักดอง
เต้าหู้ทอด

ของหวานได้คุณซากิ เชฟขนมหวานญี่ปุ่นจาก 80/20 เชฟก็ชอบทำไอศกรีมแปลกๆ มาให้ชิมกัน อย่างวันนี้ก็มีไอศกรีมไวท์โอ็ตกับไอศกรีมชาเขียว ก่อนหน้านี้ก็จะมีไอศกรีมน้ำปลา ไอศกรีมใบตองเผา และไอศกรีมกล้วยน้ำตาลทรายแดง

ความสนุกของการมาร้านครกคือไม่ซ้ำ ไม่จำเจ ผ่านไปหนึ่งฤดูกาลเราจะได้กินเมนูใหม่ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของน้ำพริกปี 2020 เท่านั้น ไม่นานนักเราจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากนิยามของครกแน่นอน

ร้านครก
78 .โยธา ตลาดน้อย สัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพฯ 10100
(ร้านอยู่ตรงข้ามเขตสัมพันธวงค์)
เบอร์โทร : 098 940 3406
Facebook : https://www.facebook.com/krokbkk/

RECOMMENDED CONTENT

17.มกราคม.2020

“People on Sunday” (2562) เป็นการตีความ บทสนทนาโต้ตอบ และสาส์นแสดงความนับถือต่อภาพยนตร์บุกเบิกจากประเทศเยอรมันเรื่อง “Menshen Am Sonntag” (2473) หรือ “ผู้คนในวันอาทิตย์” ผลงาน “People on Sunday” (2562) ได้นำภาพยนตร์ต้นฉบับดังกล่าวกลับมาตีความใหม่ผ่านบริบทที่แตกต่างจากเดิม ทั้งยุคสมัย ภูมิประเทศ ตลอดจนสภาพในการทำงาน