‘ครก’ อาวุธหนักติดมือแม่บ้านจุดเริ่มต้นของอาหารไทย ไม่ว่าจะทำเครื่องผัด เครื่องแกง พื้นฐานมาจากการโขลก ‘ครก’ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในครัวไทยและเป็นที่มาของร้าน ‘น้ำพริก’ ในย่านตลาดน้อย
จุดเริ่มต้นของร้าน ‘ครก’ มาจากกลุ่มเชฟร้านฟายดายนิ่งมิชลิน 1 ดาวอย่าง ‘80/20’ ที่มองหาพื้นที่ใหม่ที่ได้ทดลองอาหารให้เข้าถึงง่าย เข้าใจง่าย ให้ทุกคนได้กินอาหารที่ดีในราคาสบายๆ อีกอย่างเชฟเชื่อว่าอาหารไทยมีดีและวัตถุดิบไทยก็มีคุณภาพ ในอีกใจความคือพวกเขารู้สึกว่าคนไทยมีความสามารถ และอาหารก็สามารถพัฒนาไปได้อีก
‘น้ำพริก’ เลยถูกยกมาเป็นคอนเซ็ปต์ของร้านจับมาตีความใหม่ไม่ใช่อาหารไทยโบราณอีกต่อไป แต่เป็นน้ำพริกแห่งปี 2020 ที่พัฒนาขึ้นขึ้นไปอีกขั้น เชฟได้ทดลองปรับแต่งจากสูตรเดิมๆ ลองใส่วัตถุดิบใหม่ๆ เข้าไปแทน จนได้น้ำพริกหน้าตาคุ้นเคยแต่รสชาติมีมิติใหม่มากขึ้น หรือบางถ้วยหน้าตาเดิมๆ แต่ให้รสชาติแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น น้ำพริกกะปิ, น้ำพริกปลาย่าง, น้ำพริกมะเขือเผา และน้ำพริกกุ้งเสียบ ทุกถ้วยต่างคิดขึ้นมาใหม่หมด
อย่างน้ำพริกมะเขือเผาที่มีหน้าตาเหมือนกับน้ำพริกหนุ่ม แต่ให้รสชาติที่ไม่เหมือนกันเลย หรือน้ำพริกกะปิที่เสริฟมาแบบเป็นก้อนๆ เหมือนน้ำพริกตาแดง แต่กลับให้รสชาติเหมือนน้ำพริกกะปิไม่มีผิดเพี้ยน
ที่ครกใช้วัตถุดิบคุณภาพเดียวกับ 80/20 เพราะใช้ซัพพลายเออร์เดียวกัน ทำให้บางเมนูอาจจะต้องเปลี่ยนตามฤดูกาลตามร้านหลัก โดยทางร้านคัดเลือกวัตถุดิบ อย่างผักเอามาจากออแกนิคฟาร์มที่สุพรรณบุรี ข้าวออร์แกนิกมาจากยโสธร พวกไข่กับไก่ก็เอามาจากปากช่องเป็นออร์แกนิกฟาร์มเหมือนกัน ส่วนกะปิเอามาจากชุมพร พริก กระเทียม หัวหอม ก็ออร์แกนิกฟาร์มเหมือนกัน ทั้งหมดนี้ทำเพื่อสนับสนุนเกษตรกร เพราะเชื่อว่าของไทยมีคุณภาพเยอะ ต้องช่วยกันสนับสนุนอย่าให้ขาด
ถึงแม้น้ำพริกจะอยู่คู่กับคนไทยทุกบ้าน แต่น้ำพริกก็ยังมีกำแพงของคนไม่กินผัก ที่ร้านจึงทำเมนูแบบให้เลือกกินได้สามารถจัดเซ็ทเองได้ ปกติเวลาไปสั่งน้ำพริกจะมาพร้อมผักอยู่แล้ว จะกินไม่กินไม่รู้แต่ใส่มาให้ อันนี้เลยเป็นที่มาของอาหารร้านครกด้วย หนึ่งจานสามารถเลือกได้ตั้งแต่ข้าวแบบไหนกินกับน้ำพริกอะไร เนื้อสัตว์แบบไหน ใส่ผักแค่อันนี้หรือจะไม่ใส่ผักเลยก็ได้ เลยตอบโจทย์สำหรับคนอยากกินน้ำพริกแต่ไม่อยากกินผัก จริงๆ มองว่าเป็นการกินน้ำพริกแบบใหม่ อย่างที่ร้านพยายามทำคือไม่จำเป็นต้องกินกับผัก ให้มองภาพว่าเป็น ‘ซอส’ มากกว่า
ครกเซตเมนู
Set 1 : น้ำพริกกุ้งเสียบกับปีกไก่ทอด
Set 2 : น้ำพริกปลาย่างกับคอหมูย่าง
Set 3 : น้ำพริกมะเขือเผากับปลาประจำวัน (วันที่ไปใช้ปลากะพง)
Set 4 : น้ำพริกกะปิสูตรครกกับน่องเป็นพะโล้ (น่องเป็ดพะโล้จะไม่มีในเมนู เนื่องจากวัตถุดิบที่ 80/20 เปลี่ยนฤดูกาล)
นอกจากนี้มีเมนู ‘เมกะครก’ กับ ‘ซูเปอร์เมกะครก’ เป็นชุดที่ใส่มาให้ทุกอย่าง จะเรียกว่าเป็นเมนูไซส์ L กับ XL ก็ได้ ถ้ามาหลายคนอยากลองทุกอย่างแนะนำเลย
ออกแบบจานของตัวเอง
Step 1 : ข้าว
– ข้าวหอมมะลิออร์แกนิก
– ข้าวกระเทียม
Step 2 : น้ำพริก
– น้ำพริกกะปิสูตรครก
– น้ำพริกกุ้งเสียบ
– น้ำพริกมะเขือเผา
– น้ำพริกปลาย่าง
Step 3 : เนื้อสัตว์
– น่องเป็ดพะโล้ (หมดฤดูกาลไปแล้ว รอเมนูใหม่)
– ปีกไก่ทอด
– คอหมูย่าง
– ปลาประจำวัน
Step 4 : เครื่องเคียง
– ไข่ต้ม / ไข่ดาว / ไข่เจียว
– ผักประจำวัน (วันที่ไปมีผักผักกาดหิน ถั่วพลู ถั่วหวาน ใบชะมวง และ ยอดผักปรัง)
– ผักดอง
– เต้าหู้ทอด
ของหวานได้คุณซากิ เชฟขนมหวานญี่ปุ่นจาก 80/20 เชฟก็ชอบทำไอศกรีมแปลกๆ มาให้ชิมกัน อย่างวันนี้ก็มีไอศกรีมไวท์โอ็ตกับไอศกรีมชาเขียว ก่อนหน้านี้ก็จะมีไอศกรีมน้ำปลา ไอศกรีมใบตองเผา และไอศกรีมกล้วยน้ำตาลทรายแดง
ความสนุกของการมาร้านครกคือไม่ซ้ำ ไม่จำเจ ผ่านไปหนึ่งฤดูกาลเราจะได้กินเมนูใหม่ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ ‘น้ำพริก’ ปี 2020 เท่านั้น ไม่นานนักเราจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากนิยามของ ‘ครก’ แน่นอน
ร้านครก
78 ถ.โยธา ตลาดน้อย สัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพฯ 10100
(ร้านอยู่ตรงข้ามเขตสัมพันธวงค์)
เบอร์โทร : 098 940 3406
Facebook : https://www.facebook.com/krokbkk/
RECOMMENDED CONTENT
นาทีนี้ถ้าพูดถึงศิลปินและโปรดิวเซอร์มากความสามารถ “THE TOYS” หรือ “ทอย-ธันวาบุญสูงเนิน” จากสังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) คงเป็นชื่อต้นๆที่ใครหลายคนนึกถึง เพราะจากผลงานที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเพลง หน้าหนาวที่แล้ว ,ก่อนฤดูฝน , เมะ ,ไวน์ลดา ได้กลายเป็นเพลงระดับเมก้าฮิตติดชาร์ท ซึ่งล่าสุด THE TOYS ประกาศคัมแบ็คมาพร้อม “6667” โปรเจกต์ใหม่น่าติดตามที่จะมาสร้างตำนานครั้งใหม่ให้กับวงการเพลงไทย