พอได้ยินว่าร้านอาหารหลายๆ แห่งในเมืองเริ่มกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเป็นที่เรียบร้อย เราก็เลยไม่รอช้า มาชิมอาหารญี่ปุ่นที่เลื่องลือเรื่องความอร่อยที่สุดร้านหนึ่งในกรุงเทพฯ ชื่อว่า ‘Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey’ (คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์) ที่เพิ่งออกโปรโมชั่นเซ็ตอาหารกลางวันแบบจัดเต็มดีงามมาเมื่อเร็วๆ นี้ นอกจากความอร่อยที่เราได้ยินมา ยังราคาไม่แรง กินง่ายๆ แบบมากินมื้อกลางวันกับเพื่อนในออฟฟิศช่วงพักเที่ยงได้สบายๆ เลย

ร้าน หรือถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือห้องอาหาร Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey อยู่ในโรงแรม The Athenee Hotel,  a Luxury Collection Hotel, Bangkok (ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็กชั่น) ถนนวิทยุ เป็นร้านที่นำอาหารอันละเมียดละไมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า ‘ไคเซกิ’ (Kaiseki) มารวบย่อ ตัดทอนพิธีรีตองลง ทำให้มินิมัล เข้าถึงและเข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงชูวัตถุดิบของแต่ละอย่างไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นปลา เนื้อ ซุป ข้าว แม้กระทั่งซอสหรืออาหารเรียกน้ำย่อยในรูปแบบอะลาคาร์ท (À la carte) ที่มีให้เลือกกว่า 6 อย่าง รวมไปถึงของหวานก็ยังเต็มไปด้วยรายละเอียด              

อย่างเซ็ตเมนูที่เราชิมวันนี้ เราเลือกเซ็ตแรกเป็น Australian Wagyu MB9 (1,000.-) เนื้อวากิวออสเตรเลียที่ใช้เนื้อเกรด MB9 ส่วนริบอาย นำมาย่างแบบ Medium Rare ซึ่งเป็นระดับที่เชฟแนะนำว่าจะได้สัมผัสความฉ่ำของเนื้อได้ดีที่สุด มาพร้อมกับอาหารเรียกน้ำย่อยกระจุกกระจิกน่ารักที่เราเลือกได้ถึง 3 อย่าง (ต่ออาหารชุด 1 เซ็ต) อย่างแรกเป็นไข่หวานม้วนราดมูสเห็ดทรัฟเฟิล, เยลลี่มะเขือเทศที่ใช้มะเขือเทศราชินีคั้นน้ำแล้วนำมาทำเป็นเยลลี่ กับสาหร่ายกรอบห่อมูสแซลมอน 

อีกเซ็ตที่รอคอย Unagi Donburi (850.-)  ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่น ปลาไหลที่เชฟนำมาตุ๋นจนนุ่ม แล้วค่อยนำมาย่าง ราดด้วยซอสที่ได้จากการนำส่วนหัวและก้างปลาไหลมาเคี่ยว วางมาบนข้าวญี่ปุ่นออร์แกนิคที่ใช้น้ำซุปปลาดาชิหุงข้าว ทำให้ข้าวหอมมาก นุ่มเหนียวกำลังดี ปลาดี ข้าวดี เราก็ซัดข้าวหมดกล่องแบบไม่ต้องสงสัย สำหรับเซ็ตนี้ เราเลือกเครื่องเคียงเป็นโมจิปู มะเขือม่วงญี่ปุ่นเย็น กับเยลลี่ไข่ปลาเเซลมอล 

ทั้ง 2 เซ็ตเสิร์ฟพร้อมซูปมิโซะที่เชฟใช้เต้าเจี้ยวมิโซะขาว (Shiro-miso) ซึ่งมีรสชาติหวานนำ กับมิโซะแดง (Aka-miso) ที่มีรสออกเค็มกว่ามาผสมกัน ทำให้ได้ซูปมิโสะที่กลมกล่อมลงตัวกว่าซูปที่ใช้มิโซะเพียงอย่างเดียวโดดๆ ซึ่งทั้งข้าว ทั้งซูป และผักดองก็เติมได้ไม่อั้นด้วย 

ส่วนของหวานที่มาในเซ็ต (เลือกได้เซ็ตละ 1 อย่าง) เราสารภาพว่าค่อนข้างประทับใจ เพราะรู้สึกว่าขนมหวานที่ถูกต้องมันต้องอร่อย หวานกำลังดี ไม่ใช่หวานเจี๊ยบแบบปวดหัว และ Matcha Pudding (50.-) พุดดิ้งชาเขียวจานนี้ก็เอาใจไปเลยตั้งแต่เท็กเจอร์นุ่มๆ ของพุดดิ้งที่ออกจะเหมือนมูสมากกว่า หอมชาเขียว ที่สำคัญคือหวานน้อย พอกินกับท็อฟฟี่น้ำตาลทรายแดง เมอแรงค์ คุ้กกี้ครัมเบิลแล้วมันเข้ากันแบบ ‘เออ ดีจัง’ 

อีกเมนูหนึ่งที่เราชอบไม่แพ้กันก็คือ Black Sesame Cheese Cake (50.-) ชีสเค้กงาดำจานนี้ ครีมชีสงาดำหวานน้อยเหมือนกัน เป็นครีมชีสที่เชฟบอกว่าแอบใส่ส่วนผสม 2 อย่างลงไป คือเต้าเจี้ยวมิโซะขาวที่ใช้ทำซูปนี่แหละ จะให้ความหวานกลมกล่อมแทนน้ำตาล (อันนี้ก็เพิ่งรู้จริงๆ ว่าทำได้) กับอีกอย่างคือเต้าหู้คินุ ที่ช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์ความนุ่มนวลให้ชีสเค้กจานนี้ กินไปก็รู้สึกชื่นชมเซ้นส์ในการทำขนมของที่นี่ที่ปล่อยให้แต่ละอย่างได้ทำหน้าที่ของมันเอง โดยไม่ต้องปรุงแต่งมาก ซึ่งมันอร่อยสุดๆ ไปเล้ยย! 

นอกจาก 2 เซ็ตที่เราสั่งแล้ว ตอนนี้ Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey ยังมีโปรโมชั่นเซ็ต Grilled Alaskan King Crab (1,200.-) และเซ็ตปลาที่มีให้เลือกหลากหลาย อย่างฮามาจิย่าง หรือปลาแมคเคอเรลย่าง เซ็ตโอโรชิ คัตสึหรือหมูสามชั้นชาบู (700.-) เซ็ตหมูทงคัตสึ (250.-) รวมถึงเมนูอะลาคาร์ทที่มีให้เลือกอีกมากมาย

ไม่รู้ว่าเซ็ตเมนูกลางวันที่อื่นจะพิถีพิถันขนาดนี้มั้ย แต่สำหรับเรา Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey เหมือนตั้งใจนำของดีแต่ละอย่างมาสรุปจบลงบนเซ็ตเมนูที่ยังใส่ใจในรายละเอียด อิ่มกำลังดี คุ้มค่า คุ้มราคา และดีต่อใจมากจริงๆ

Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey (คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์)

ชั้น 3 โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็กชั่น ถนนวิทยุ (BTS เพลินจิต)

เปิดให้บริการทุกวัน: มื้อกลางวัน 12.00 – 14.30 น. / มื้อค่ำ 18.00 – 22:30 น. (สั่งอาหารได้ถึงเวลา 22:00 น.) แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้าเนื่องจากที่นั่งมีจำนวนจำกัด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : โทร. 02-650-8800 อีเมลล์ : Fb.TheAthenee@luxurycollection.com หรือ  www.theatheneehotel.com

https://www.facebook.com/kintsugibkk/