ถ่ายทอดเอกลักษณ์แห่งถิ่นกำเนิดเจคอบส์ ครีกสู่บารอสซ่า ซิกเนเจอร์ ซีรีย์

จากดินแดนบารอสซ่าแห่งตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ที่ซึ่งสภาพภูมิอากาศเหมาะสมแก่การปลูกสายพันธุ์องุ่นนานาชนิด เพื่อนำเสนอไวน์ที่มีรสสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์จากพันธุ์องุ่นยอดนิยม

• Jacob’s Creek Barossa Signature Shiraz Cabernet เจคอบส์ครีก บารอสซ่าซิกเนเจอร์ ซีราสคาเบอร์เนต์ ไวน์แดงที่ให้ความล้ำลึกแบบฟูลบอดี้ ด้วยรสชาติของที่ซับซ้อนของดาร์กฟรุ๊ตเจือรสชาติชองวนิลา ชอคโกแลต และแทนนินจากผลไม้สุก พร้อมกลิ่นของแบล็คเบอรี่ มะกอก ดาร์กชอคโกแลต และให้ความเผ็ดจากถังโอ๊ต เหมาะทานคู่กับอาหารเนื้อแดงอย่างเนื้อวัว หรือ เนื้อแกะ

• Jacob’s Creek Barossa Signature Chardonnay ชาร์ดอนเนย์ ราชินีแห่งองุ่นขาวที่ผู้ที่ได้ลิ้มลองยากที่จะปฎิเสธ กับไวน์ขาวฟูลบอดี้ให้รสสัมผัสอันเข้มข้นและเอซิดิตี้สูง แต่ยังคงรสชาติที่บาลานซ์ของถั่ว พร้อมกลิ่นของฮันดี้ดิว ผลไม้กลิ่นส้ม (Citrus) และผลไม้เมล็ดแข็ง (Stone Fruit) เหมาะในการรับประทานคู่กับอาหารที่มีความครีมมี่สูงอย่างรีซอตโต้ หรือ เนื้อปลาต่างๆ

Jacob’s Creek Barossa Series พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 899 บาท สำหรับขนาด 750 มิลลิลิตร ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

ก้าวข้ามผ่านไวน์แบบเดิมๆ กับดับเบิ้ล บาร์เรล ซีรีย์

เจคอบส์ ครีกส์ แบรนด์ไวน์อันดับหนึ่งจากออสเตรเลีย เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในตลาดที่สร้างสรรค์นวัตกรรมกระบวนการผลิตใหม่จนเกิดเป็นไวน์ซีรีย์ ดับเบิล บาร์เรล  โดยน้ำองุ่นที่เลือกสรรถูกนำไปบ่มในถังไวน์แบบดั้งเดิมและนำไปบ่มต่อในถังวิสกี้ ซึ่งการนำไวน์ไปบ่มต่อในถังวิสกี้เป็นขั้นตอนที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับไวน์ทำให้รสชาติมีมิติและนุ่มขึ้นตามแบบฉบับของไวน์ดับเบิล บาร์เรล เติมเต็มความน่าสนใจให้กับไวน์ในกลุ่มนี้

ความแตกต่างระหว่างถังไม้โอ๊กของไวน์และวิสกี้คือ ถังไวน์ผลิตจากไม้โอ๊กฝรั่งเศสหรืออเมริกันโอ๊กที่มีเนื้อละเอียด ผ่านการเผาอย่างช้า ๆ ด้วยความร้อนต่ำ ขณะที่ถังวิสกี้ผลิตจากอเมริกันโอ๊กเนื้อหยาบ ผ่านการเผาอย่างรวดเร็วด้วยความร้อนสูงทำให้วิสกี้มีสี ความหวานและรสสัมผัสนุ่มนวลในปากเราพบว่าเมื่อเสร็จสิ้นการบ่มในถังวิสกี้เก่า ซึ่งการบ่มแบบ ดับเบิ้ล บาร์เรล ช่วยทำให้ไวน์เข้มข้น กลมกล่อมและนุ่มนวลยิ่งขึ้น

• Jacob’s Creek Double Barrel Chardonnay เจคอบส์ ครีก ดับเบิล บาร์เรล ชาร์ดอนเนย์ ในการผลิตดับเบิล แบร์เรล ชาร์ดอนเนย์ น้ำองุ่นนั้นต้องแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกนำไปหมักในถังวิสกี้และบ่มต่อในถังไวน์  ส่วนที่สองนั้นหมักในถังไวน์และบ่มในถังวิสกี้ ทั้งสองส่วนนี้มีรสชาติที่ต่างกัน และถูกนำมาผสมผสานกันเพื่อรังสรรค์รสชาติที่เหนือระดับ ซึ่งให้ทั้งความแปลกใหม่ในรสชาติและความน่าสนใจในไวน์ชนิดนี้ 

• Jacob’s Creek Double Barrel Shiraz  เจคอบส์ ครีก ดับเบิล บาร์เรล ชีราส มีรสชาติเข้มข้นของลูกพลัม ฟรุตเค้กและกลิ่นช็อกโกแลตขององุ่นชีราส จากบารอสซ่า แฝงด้วยกลิ่นขนมปังของวานิลลา แต่มีความซับซ้อนและความนุ่มนวลเพิ่มขึ้น จากการใช้ถังไม้โอ๊กสก็อตวิสกี้

• Jacob’s Creek Double Barrel Cabernet Sauvignon  เจคอบส์ ครีก ดับเบิ้ล บาร์เรล คาร์เบอร์เนย์ โซวิญญอง มีกลิ่นหอมของมินท์ ลูกมะกอกและคาราเมล รวมถึงรสสัมผัสของแทนนินจากแบล็คเคอร์แรนท์และผลไม้สุกและการหมักบ่มในถังไอริชวิสกี้ ก็ทำให้ได้เทนนินที่นุ่มนวลและเข้มข้นขณะดื่ม

Jacob’s Creek Double Barrel Series พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 949 บาท สำหรับขนาด
750 มิลลิลิตร ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

ไวน์โรเซ่ ออสเตรเลียที่มาพร้อมกับกลิ่นอายแบบฝรั่งเศส

Jacob’s Creek Le Petit Rosé ทำจากองุ่นออสเตรเลียโดยไวน์เมกเกอร์ชาวออสเตรเลีย แต่มีกลิ่นอายของโรเซ่แบบฝรั่งเศส  “Le Petit Rosé มอบความหรูหราแบบโรเซ่ฝรั่งเศส แต่ผสมผสานความสดชื่นและบริสุทธิ์ของผลไม้ออสเตรเลีย โดยไวน์เมคเกอร์ได้รังสรรค์โรเซ่สไตล์ใหม่และปรับเปลี่ยนขั้นตอนการผลิต เช่น การเก็บเกี่ยวองุ่นให้เร็วขึ้น เลือกพันธุ์องุ่นที่ต่างไปจากเดิม เบามือเป็นพิเศษในการเก็บเกี่ยว และใช้ยีสต์ชนิดใหม่ เป็นต้น  ผลลัพธ์ที่ได้คือ Le Petit Rosé ที่มีรสชาติดราย ลงตัว มีเนื้อสัมผัสละมุนให้ความรู้สึกหรูหราและดื่มได้ทันที ให้รสชาติสะอาด สดชื่น สีอ่อนและดูหรูหรา ชวนให้นึกถึงกลีบกุหลาบอันอ่อนโยนและรสชาติเชอร์รี่ที่ละมุนละไม

Jacob’s Creek Le Petit Rosé พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 675 บาท สำหรับขวดขนาด
750 มิลลิลิตร ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

facebook.com/jacobscreekTH
@winemoment_BKK
#JacobsCreekTH