fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

“How to Get Kissable Lips” 7 เคล็ดไม่ลับ ในการดูแลริมฝีปากให้น่าจุ๊บดูเซ็กซี่ ไม่แตกแห้ง รับมือกับฤดูหนาว
date : 4.มกราคม.2014 tag :

นานๆทีที่เมืองไทยจะมีหน้าหนาวจริงๆจังๆกับเขาสักครั้ง สาวๆทั้งหลายคงมีความสุขที่ได้ใส่เสื้อผ้าแฟชั่นหน้าหนาวและพันผ้าพันคอลายน่ารักๆรับลมหนาวกันเป็นแถว แต่ก่อนที่ทุกคนจะอินไปกับการแต่งตัวแฟชั่นหน้าหนาวไปมากกว่านี้ สาวๆทุกคนก็ไม่ควรละเลยการดูแลริมฝีปากของตัวเองเช่นกัน เพราะยิ่งอากาศเย็นๆแบบนี้ ริมฝีปากของสาวๆก็จะยิ่งแตกและแห้งง่าย ริมฝีปากนับเป็นผิวหนังที่อ่อนบางส่วนหนึ่งบนใบหน้า แต่น่าแปลกที่มันมักถูกละเลย ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่มากเท่ากับผิวหน้าหรือผิวกาย ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับผิวหน้ามากที่สุด ยิ่งถ้าเป็นหน้าหนาวนี่ไม่ต้องห่วง สาวๆจะยินดีทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผิวหน้าแลดูสุขภาพดีและไม่ให้ผิวแห้ง แต่จะมีสักกี่คนที่จะใส่ใจกับริมฝีปากตัวเองด้วยการดูแลและบำรุงพอๆกับผิวหน้า ทั้งๆที่ริมฝีปากเป็นจุดสนใจของสายตาทุกครั้งที่ยิ้ม พูด และหัวเราะ ดังนั้นสาวๆทุกคนควรหันมาดูแลและบำรุงริมฝีปากของตัวเองให้ดูนุ่มชุ่มชื้นและสุขภาพดีอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ริมฝีปากแห้งแตก จนลอกออกมาเป็นแผ่นดูไม่น่ามองเอาเสียเลย ลองหันมาดูแลริมฝีปากของตัวเองด้วยวิธีง่ายแสนง่ายเหล่านี้กันดีกว่า

1. ผลัดผิวริมฝีปากอย่างอ่อนโยน
อากาศหนาวทำให้ริมฝีปากขาดความชุ่มชื่นและแตกง่าย วิธีที่สามารถช่วยคุณได้ก็คือกระตุ้นการผลัดผิวที่ริมฝีปาก ซึ่งจะทำให้ผิวหนังชั้นบนที่แห้งเป็นขุยๆหลุดลอกออกไป พร้อมเผยผิวริมฝีปากที่มีสุขภาพดีกว่าขึ้นมา นอกจากนี้อย่าลืมใช้ลิปบาล์มเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะเติมความชุ่มชื้นและความสดชื่นให้กับร่างกายรวมทั้งริมฝีปาก เพราะฉะนั้นอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 4-6 แก้วต่อวันเป็นอย่างต่ำ เพื่อริมฝีปากที่อวบอิ่ม

3. เลือกใช้ลิปบาล์มแทนลิปกลอส
หลายคนมักสับสนในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปากระหว่างลิปบาล์มและลิปกลอส ลิปบาล์มถูกผลิตขึ้นมาเพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้น และรักษาอาการริมฝีปากแห้งแตกโดยเฉพาะ ในขณะที่ลิปกลอสจัดอยู่ในประเภทเครื่องสำอาง และมักทำหน้าที่เคลือบผิวริมฝีปากให้ดูมันวาวเท่านั้น ทั้งนี้ นอกจากลิปบาล์มจะให้ความรู้สึกเนียนนุ่มชุ่มชื่นกว่าเมื่อทาลงไปแล้ว มันยังถูกเติมด้วยสารบำรุงและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อริมฝีปากมากกว่าอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากกำลังมองหาตัวช่วยรับมือริมฝีปากแห้ง จงเลือกใช้ลิปบาล์มจะดีกว่า

4. ใช้ลิปสติกที่มีคุณสมบัติบำรุงริมฝีปาก
การทาลิปสติกให้ดูสวยน่ามองคงเป็นไปได้ยากมาก ถ้าหากคุณยังมีริมฝีปากแห้งแตกอยู่บ่อยๆ ดังนั้นลองหาทางออกด้วยการเลือกใช้ลิปสติกที่มีคุณสมบัติบำรุงริมฝีปากแบบเข้มข้น หรือจะลองใช้ลิปบาล์มที่มีสีก็ได้ เท่านี้ริมฝีปากของคุณก็จะดูสวยมีสีสัน และยังดูชุ่มชื้นสุขภาพดีไปพร้อมๆกัน

5. หลีกเลี่ยงการเลียริมฝีปาก
สาวๆคนไหนที่ปากแห้ง ไม่ควรเลียริมฝีปากตัวเองเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้ผิวริมฝีปากแห้งและแสบมากกว่าเดิม หากคุณปากแห้งบ่อย ให้พกลิปบาล์มไว้ทาเวลาปากแห้งติดตัวเอาไว้ตลอดจะดีกว่า

6. นวดริมฝีปากด้วยน้ำมันมะกอกหรือน้ำอุ่น
ลองใช้น้ำมันมะกอกนวดริมฝีปากสัก 3 นาทีก่อนนอน น้ำมันมะกอกจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและอ่อนนุ่มของริมฝีปาก เช่นเดียวกับนวดริมฝีปากด้วยน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นจะช่วยผลัดเซลล์ผิวและเป็นการล้างคราบเครื่องสำอาง อาหาร และเครื่องดื่ม ที่ตกค้างอยู่บริเวณริมฝีปากของคุณให้หมดไป

7. ทานอาหารอย่างถูกหลัก
ถ้าอยากให้ริมฝีปากของตัวเองดูสุขภาพดีเป็นสีแดงอมชมพูตามธรรมชาติ ลองทานอาหารที่มีซัลเฟอร์สูงอย่าง ไข่ กระเทียม และหน่อไม้ฝรั่ง เพราะจะช่วยให้ผิวพรรณของริมฝีปากดูสดชื่น เปล่งปลั่ง นอกจากนี้อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน เอ บี และ ซี ซึ่งพบมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย รวมทั้ง แครอท ผักใบเขียว และโยเกิร์ตธรรมชาติ จะช่วยเรียกริมฝีปากให้กลับมาดูสุขภาพดีเร็วยิ่งขึ้น

เห็นไหมว่าการดูแลริมฝีปากของตัวเองนั้นไม่ได้ยากหรือซับซ้อนอย่างที่คิดเลย เพียงแค่คุณเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารและดื่มน้ำเล็กน้อย และหมั่นดูแลทะนุถนอมริมฝีปากของตัวเองในแต่ละวันอีกสักหน่อย แค่นี้คุณก็ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเผชิญกับปัญหาริมฝีปากแห้งแตกในหน้าหนาวอีกต่อไป

Writer: Thip S. Selley
Image by: pret-a-porter 

RECOMMENDED CONTENT

1.กรกฎาคม.2020

ถือเป็นวงดนตรีอินดี้ป็อปที่มาแรง และได้รับการตอบรับมากที่สุดในขณะนี้ สำหรับศิลปินคู่หู “Whal & Dolph” ประกอบด้วย "ปอ" - กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ (ร้องนำ) และ "น้ำวน" - วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ (กีต้าร์) จากค่ายเพลง What The Duck