Grooming tips ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้คงจะถูกใจสาวๆที่รักการทำเล็บเป็นพิเศษ เพราะเรามีเคล็ดลับง่ายๆในการดูแลเล็บให้มีสุขภาพดีหลังการทำเล็บมาฝากกัน การตกแต่งทำเล็บให้สวยงามเป็นอีกหนึ่งแขนงของความงามที่ผู้หญิงไทยหันมาสนใจและใส่ใจกันมากขึ้น แน่นอนว่าความสวยความงามเป็นของคู่กันสำหรับผู้หญิงทุกคน แล้วมีหรือที่พวกเราจะไม่ชอบให้เล็บของเราดูโดดเด่น มีสีสันสวยงามสะดุดตา บางทีพวกเราก็รู้สึกเบื่อๆกับสีเล็บธรรมชาติ เลยอยากลุกขึ้นมาทาเล็บหรือทำเล็บแก้เซ็ง ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าคุณรักการทำเล็บสุดชีวิตแบบที่ว่าชีวิตนี้คุณขาดการทำเล็บไม่ได้เลยละก็ นอกจากความสวยงามของเล็บที่คุณสนใจแล้ว สุขภาพของเล็บคุณที่โดนน้ำยาทาเล็บอยู่บ่อยๆก็ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดเช่นกัน
สำหรับการทาเล็บหรือต่อเล็บอะคริลิค ต่อให้ดูสวยงามเพียงใด ผลกระทบของมันก็คือทำให้สุขภาพของเล็บธรรมชาติเสียง่ายและเปราะบางมากขึ้น ผู้หญิงที่รักการทำเล็บหลายต่อหลายคนต้องตกใจเมื่อรู้ว่าเล็บที่เป็นธรรมชาติของตัวเองนั้นได้รับความเสียหายไปมาก ทั้งแตกหักง่ายขึ้น และผิวเล็บเปราะบางมากขึ้น เพราะสารเคมีไม่ว่าจะในผงต่อเล็บ น้ำยาต่อเล็บอะคริลิค น้ำยาเชื่อมเล็บ น้ำยาปรับสภาพเล็บ และ น้ำยาทาเล็บ ต่างสามารถทำลายเล็บธรรมชาติของคุณที่อยู่ข้างใต้ได้ทั้งนั้น แต่เล็บคุณจะเสียมากเสียน้อย นั่นก็ต้องขึ้นอยู่กับสุขภาพของเล็บคุณตั้งแต่ก่อนทำเล็บและความถี่ในการทำเล็บของคุณ
การถอดเล็บอะคริลิคออก
อันดับแรกในการทำให้สุขภาพเล็บของคุณกลับมาแข็งแรงเหมือนเก่าก็คือการถอดเล็บอะคริลิคออกนั่นเอง คุณสามารถทำได้โดยไปให้ผู้เชี่ยวชาญที่ร้านทำเล็บถอดออกให้ หรือจะทำเองที่บ้านก็ได้ แต่การถอดเล็บอะคริลิคจะถอดออกยากสักหน่อย ดังนั้นคุณต้องมีอุปกรให้พร้อม แต่ผู้หญิงหลายๆคนไม่อยากเสี่ยงทำเองที่บ้าน จึงออกไปให้ผู้เชี่ยวชาญที่ร้านทำเล็บถอดออกให้ คราวนี้เมื่อเล็บอะคริลิคของคุณได้ถูกถอดออกแล้ว คุณก็จะได้เห็นสภาพของเล็บธรรมชาติคุณก็ตอนนี้ล่ะ ส่วนใหญ่เมื่อเล็บอะคริลิคถูกถอดออก ผิวเล็บธรรมชาติของคุณจะดูขรุขระไม่ราบเรียบ ดูแห้ง และดูเหลือง เพราะการทาเล็บหรือการทำเล็บเป็นเวลานานจะทำให้เคราตินที่หน้าเล็บขาดอากาศหายใจ เพราะฉะนั้นคุณผู้หญิงทั้งหลายไม่ควรทาเล็บหรือทำเล็บซ้ำๆเป็นเวลาเกิน 2 สัปดาห์ คุณควรล้างหรือถอดเล็บให้เล็บธรรมชาติของคุณได้พักหายใจบ้างสัก 1-2 วัน เพื่อให้เล็บมีโอกาสได้ฟื้นฟูสภาพของมันเองก่อนการทำเล็บหรือทาเล็บในครั้งต่อไป
ขั้นตอนสู่การทำให้เล็บของคุณมีสุขภาพดีดั่งเก่า
คุณควรจะดูแลและตกแต่งเล็บของคุณอาทิตย์ละครั้ง ถึงแม้ว่าการไปดูแลและตกแต่งเล็บของคุณที่ร้านทำเล็บทุกอาทิตย์อาจจะดูสิ้นเปลืองสักหน่อย แต่ถ้าใครอยากดูแลตกแต่งเล็บเองที่บ้าน นี่คือ 8 วิธีดูแลเล็บที่คุณสามารถทำเองที่บ้านได้อย่างง่ายดาย:
1. ชุบน้ำยาล้างเล็บลงบนสำลี และค่อยๆถูบนเล็บของคุณเพื่อเช็ดน้ำยาอะคริลิคที่ยังอาจตกข้างบนเล็บของคุณออก
2. เสร็จแล้วก็จุ่มมือของคุณทีละข้างลงในน้ำอุ่นสัก 10 นาที เพื่อให้เล็บและผิวหนังรอบๆเล็บของคุณได้หายใจและซึมซับความชุ่มชื้น
3. หลังจากนั้นก็ซับมือแต่ละข้างให้แห้งด้วยผ้าขนหนู
4. ต่อมาก็ทาครีมให้ทั่วมือ รวมทั้งนิ้วและเล็บ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด นวดนิ้วมือของคุณประมาณ 3-5 นาทีด้วยเพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมสร้างเล็บที่อยู่บริเวณโคนเล็บ
5. ตัดเล็บและเนื้อด้านออก: เมื่อเล็บของคุณเริ่มยาวขึ้น พยายามตัดเล็บของคุณให้เข้ารูป ตัดเล็บในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้ตัดเล็บจนชิดบริเวณผิวหนังจนสั้นกุด เพราะนอกจากเสี่ยงต่อการเป็นแผลแล้ว ยังทำให้พื้นที่หน้าเล็บสั้นลงได้และอาจดูเหมือนเล็บของคนที่ชอบกัดเล็บอยู่ตลอดเวลา ซึ่งดูไม่สวยเอาเสียเลย ไม่ต้องใจร้อนหรือใจจดใจจ่อให้เล็บของคุณยาวมากจนเกินไป ทางที่ดีคุณควรใส่ใจกับสุขภาพและความหนาของเล็บ ส่วนเล็บจะยาวช้ายาวเร็ว ก็ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ เล็บที่มีความบางแต่ยาวเร็ว มีโอกาสน้อยที่จะยาวต่อได้นาน บางทีทางออกที่ดีที่สุดก็คือการตัดเล็บให้เข้ารูปและปล่อยให้เล็บได้ฟื้นฟูตัวเอง
6. ทาน้ำมันรอบๆผิวหนังเล็บ: การทาน้ำมันจากวิตามินอีหรือโอลีฟออยล์หลังตัดเล็บหรือระหว่างการนวดนิ้วมือ รอบผิวหนังของเล็บ และบนตัวเล็บ จะช่วยกระตุ้นให้สุขภาพของเล็บฟื้นฟูได้เร็วยิ่งขึ้น
7. ตะไบปลายเล็บ: ถ้าเล็บของคุณมีสภาพที่่ค่อนข้างแข็งแรง ตะไบปลายเล็บของคุณให้เข้าที่หลังจากที่ทาน้ำมันลงบนผิวเล็บ ตัวน้ำมันจะเป็นเหมือนเลเยอร์ป้องกันและทำให้เล็บของคุณดูมันวาว หลังจากนั้นก็ล้างมืออีกรอบ และค่อยๆตะไบเล็บอีกครั้งไปในทางเดียวกันเพื่อให้เล็บแข็งแรงขึ้น
8. ทาน้ำมันบนเล็บทุกวัน: หมั่นทาน้ำมันลงบนผิวหนังรอบๆเล็บและบนตัวเล็บทุกๆวันให้ชิน และควรหลีกเลี่ยงการทาเล็บไม่ว่าจะชนิดใดก็ตาม (น้ำยารองพื้น หรือ น้ำยาทาเล็บ) อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์
แต่ถ้าสาวๆคนไหนที่หลงไหลการทำเล็บเป็นชีวิตจิตใจจนต้องทาเล็บหรือทำเล็บอยู่เป็นประจำแบบขาดไม่ได้เลยแล้วละก็ คุณควรทาน้ำยารองพื้นก่อนทาสีเล็บทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดสีที่ไม่ต้องการหลังจากการทาเล็บไปแล้วระยะหนึ่ง และควรทาน้ำยาเคลือบเงาเล็บเพื่อความมันวาวและติดทนนาน อีกอย่างคือไม่ควรทาเล็บสีเข้มติดต่อกันนานๆ ควรสลับทาสีอ่อนบ้าง และเมื่อเล็บของคุณมีสภาพแห้งหรือผิดปกติเมื่อไหร่แล้วละก็ ถือว่าเล็บเขาพยายามบอกคุณว่าให้หยุดพักการทาเล็บได้แล้วล่ะ
อีกอย่างหนึ่งที่อยากฝากสาวๆที่หลงไหลการทำเล็บก็คือ ควรศึกษาอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ อย่างเช่นวันหมดอายุหรือลองสังเกตสภาพของผลิตภัณฑ์ว่ายังมีคุณภาพดีหรือไม่ เพราะอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเล็บโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 3 ปี หรือลองดูจากลักษณะการแยกตัวของสี ถ้าหมดอายุแล้วไม่ควรใช้โดยเด็ดขาด ทิ้งมันไปซะ นอกจากนี้ก่อนการทำเล็บหรือต่อเล็บทุกครั้ง คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ต่อเล็บที่ไม่มีสาร MMA ซึ่งเป็นสารละลายในผลิตภัณฑ์น้ำยาต่อเล็บ แม้ว่ามันจะทำให้การยึดเกาะคงทนและยาวนาน แต่มันก็จะเสี่ยงต่อการทำลายหน้าเล็บของคุณเช่นกัน แถมยังสามารถนำไปสู่การเกิดเชื้อราอีกต่างหาก ดังนั้นวิธีสังเกตสาร MMA ง่ายๆก็คือน้ำยาจะมีกลิ่นฉุนมาก ถ้าไม่อยากให้เล็บของคุณโดนผลกระทบมากนัก คุณก็ควรเลี่ยงซะ
อย่ามัวแต่ห่วงสวยอย่างเดียวจนลืมคำนึงถึงการดูแลเล็บของคุณ เมื่อรู้ถึงข้อเสียต่างๆที่จะสามารถตามมาหลังการทำเล็บแล้ว คุณยิ่งต้องหมั่นดูแลรักษาบำรุงเล็บของคุณให้มีสุขภาพแข็งแรง เมื่อเล็บของคุณกลับมามีสุขภาพแข็งแรงเมื่อไหร่ เว้นระยะของการทำเล็บไปสักพัก แล้วค่อยกลับมาเพิ่มสีสันและลวดลายสนุกสนานให้กับเล็บของคุณอีกครั้งจะดีกว่า
Writer: Thip S. Selley
RECOMMENDED CONTENT
เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนชาวไทย ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค จึงนำ “เสียง” หรือความคิดเห็นจากประชาชนภาคธุรกิจ มีส่วนร่วมในการส่งเสียงผ่านการสำรวจของ ‘Business of the People Poll’ ร่วมออกแบบและขับเคลื่อนโดย สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในจัดทำการสำรวจผ่านตัวแทนผู้ประกอบการไทยจำนวน 451 ตัวอย่าง โดยมุ่งเน้นหัวข้อไปที่ ‘ปัจจัย, ความท้าทาย, โอกาส และคำแนะนำ ในการเสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต’ เพื่อที่จะทราบถึงความเข้าใจ ข้อเท็จจริง และแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากผู้ที่มีบทบาทจริงในภาคธุรกิจของประเทศไทย


