ผักและผลไม้ที่ดูสดใหม่ฉ่ำสวยที่พวกเรามักรับประทานกันเพื่อสุขภาพที่ดี ทราบหรือไม่ว่า แท้จริงแล้วอาจมีอันตรายแฝงมาจากสารพิษตกค้าง อันเนื่องจากการใช้สารเคมีต่างๆ ของเกษตรกรฉีดพ่นไปในผักและผลไม้ เพื่อให้ปลอดจากแมลงและศัตรูพืช เมื่อสะสมในร่างกายอาจก่อให้เกิดอาการของสารพิษตกค้าง ซึ่งแสดงออกได้มากน้อยแตกต่างกัน ถ้าได้รับในปริมาณน้อยไม่รุนแรง ก็จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ และท้องร่วง แต่ถ้าได้รับสารพิษตกค้างมาก อาจอาการหนักถึงขั้นหายใจลำบาก กล้ามเนื้อกระตุก ไม่มีแรง ชัก และหมดสติ ซ้ำร้ายถ้าสะสมสารพิษตกค้างอย่างต่อเนื่องทีละน้อย จะก่อให้เกิดความเสี่ยงโรคภัยร้ายสารพัด อาการที่เบาสุดอาจทำให้ผิวหนังแห้งแตกตกสะเก็ด หนักกว่านั้นคือ ภาวะความจำเสื่อม เป็นหมัน และมะเร็งลำไส้ เป็นต้น
รายงานการสำรวจของ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ บ่งชี้ว่า ประเทศไทยมีการใช้ ยาฆ่าแมลงมากเป็นอันดับ 5 ของโลก ใช้ยาฆ่าหญ้าเป็นอันดับ 4 ของโลก ที่สำคัญจากการสำรวจในทุกปียังพบสารเคมีตกค้างในผักและสารพิษอันตรายที่ทั่วโลกห้ามใช้
ขณะที่ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือไทยแพน (Thai-PAN) แถลงผลการตรวจสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในผักและผลไม้ ประจำปี 2562 ระบุว่า จากการสุ่มเก็บตัวอย่างผัก 15 ชนิด รวม 178 ตัวอย่าง และผลไม้ 9 ชนิด รวม 108 ตัวอย่าง ตามห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำ และตลาดสดในจังหวัดต่างๆทั่วไทย ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น ยโสธร สระแก้ว จันทบุรี ราชบุรี และสงขลา นำส่งตรวจในห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO-17025 ที่สหราชอาณาจักร พบว่า ผักประมาณ 40% มีสารเคมีตกค้างเกินกว่ามาตรฐาน และผลไม้ประมาณ 43% มีสารเคมีตกค้างเกินกว่ามาตรฐาน
รู้ข้อมูลอย่างนี้แล้ว คงได้คำตอบว่าทำไมการล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำเปล่าเพียงแค่แช่ๆ จุ่มๆ อย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ และอาจยังไม่ปลอดภัย 100% เพราะสิ่งสกปรกต่างๆที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะสารเคมีที่ละลายได้ยากในน้ำ เช่น สารเคมีตกค้าง หรือ แว็กซ์เคลือบ ยังเกาะแน่นไม่ยอมไปไหน
การล้างผักอย่างถูกวิธี เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทานผักและผลไม้อย่างปลอดภัย ปราศจากสิ่งตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น สิ่งสกปรก ฝุ่นละออง สารเคมี ยาฆ่าแมลง ไข่ของพยาธิ หรือแม้แต่เชื้อแบคทีเรีย “กิฟฟารีน” ตั้งใจพัฒนาคิดค้น ผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้ (วัตถุเจือปนอาหาร) จากธรรมชาติ 100% “Giffarine Vegetable & Fruit Wash (Food Additive)” โดยมีสารทำความสะอาดที่มาจากธรรมชาติ 100% อย่าง “กลุ่มอัลคิลโพลีไกลโคไซด์” (Alkyl Polyglycoside) เป็นพระเอกชูโรงประกอบขึ้นจากมะพร้าว ข้าวโพด ปาล์ม และข้าวสาลี จึงช่วยชะล้างสิ่งปนเปื้อน ตลอดจนสิ่งตกค้างที่ติดมากับผักและผลไม้ให้หลุดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกลไกการทำงานหลักๆ ของสารทำความสะอาดดังกล่าวคือ ช่วยชะล้างเอาสิ่งสกปรกต่างๆ ให้หลุดออกจากผักผลไม้ โดยส่วนโมเลกุลที่ไม่ชอบน้ำแต่ชอบน้ำมันในสารนี้ จะเกาะกับไขมัน แว็กซ์เคลือบ สิ่งสกปรก หรือ สารเคมีตกค้าง และประสานกับโมเลกุลที่ชอบน้ำ ที่ช่วยดึงสิ่งปนเปื้อน สารเคมีตกค้างให้หลุดออกมาได้โดยง่าย แล้วถูกชำระล้างไปพร้อมกับน้ำ
วิธีการล้างผักที่สะดวกและง่าย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น “กิฟฟารีน” แนะนำ 3 เคล็ดลับ “เท–แช่–ชะ” ในการล้างผักและผลไม้ให้สะอาดปลอดภัย โดยเริ่มจาก 1) เทผลิตภัณฑ์ 2 ช้อนโต๊ะ (20 มิลลิลิตร) ต่อน้ำสะอาด 5 ลิตร 2) แช่ผักหรือผลไม้ในสารละลายประมาณ 5 นาที 3) ชะล้างผ่านน้ำสะอาดไหลซ้ำ อย่างน้อย 30 วินาที หรือล้างน้ำสะอาดซ้ำ โดยเปลี่ยนน้ำมากกว่า 2 ครั้ง ทั้งนี้ สามารถใช้ทำความสะอาดได้ทั้งผักสลัด ผักประกอบอาหาร และผลไม้ทุกชนิด.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นักธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ หรือ โทรกิฟฟารีน 1101 หรือ สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ Facebook:giffarineofficial / Line@giffarinethailand / www.giffarine.com / Shopee และ Lazada
RECOMMENDED CONTENT
เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนชาวไทย ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค จึงนำ “เสียง” หรือความคิดเห็นจากประชาชนภาคธุรกิจ มีส่วนร่วมในการส่งเสียงผ่านการสำรวจของ ‘Business of the People Poll’ ร่วมออกแบบและขับเคลื่อนโดย สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในจัดทำการสำรวจผ่านตัวแทนผู้ประกอบการไทยจำนวน 451 ตัวอย่าง โดยมุ่งเน้นหัวข้อไปที่ ‘ปัจจัย, ความท้าทาย, โอกาส และคำแนะนำ ในการเสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต’ เพื่อที่จะทราบถึงความเข้าใจ ข้อเท็จจริง และแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากผู้ที่มีบทบาทจริงในภาคธุรกิจของประเทศไทย



