
สำหรับกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามแล้ว การสร้างบ้านแต่ละหลังนั้นเรื่องเนื้อที่จัดว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ด้วยเพราะภาษีหน้าบ้านที่คิดอัตราตามพื้นที่ของหน้าบ้านที่ติดถนน ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ต้องจ่ายมากเท่านั้น ทำให้บ้านในฮานอยส่วนใหญ่แทนที่จะมีเนื้อที่กว้าง จึงเลือกที่จะมีความสูงแทน บ้านของคนฮานอยเลยมีความสูงสามชั้นขึ้นไป บางที่ความสูงอาจเลยเถิดถึง 8-10 ชั้นเลยก็มี
สตูดิโอสถาปนิกจากเวียดนามในชื่อ DANstudio ได้ออกแบบหน้าบ้านหลังหนึ่งในย่านชานกรุงฮานอยที่มีความสูง 4 ชั้นนี้ให้กลายเป็นหนึ่งในบ้านสวย ชนิดที่คนที่นั่งรถไฟซึ่งผ่านหน้าบ้านหลังนี้ต้องเหลียวมอง
โครงสร้างเดิมของบ้าน ‘TH house’ นี้ เสร็จสมบูรณ์มาก่อนแล้ว แต่เนื่องจากเจ้าของบ้านต้องการที่จะปรับปรุงส่วน facade หน้าบ้านให้แตกต่างจากตึกอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน DANstudio จึงเพิ่มเติมโปรเจ็กต์นี้เข้าไป โดยคำนึงถึงหลักการก่อสร้างเดิม ที่เน้นหนักเรื่องการใช้แสงธรรมชาติ และเป็นมิตรกับธรรมชาติ ดังจะเห็นได้จากการตกแต่งภายในของบ้านที่มีการแทรกแซมต้นไม้หรือสีเขียวเข้าไป เพื่อไม่ให้ดูแข็งจนเกินไป
โครงสร้างในบ้านเน้นเรื่องความปลอดโปร่ง แสงสามารถส่องถึงได้ในทุกส่วนของบ้าน แถมยังออกแบบโครงสร้างให้ลมและอากาศสามารถกระจายตัวไปตามจุดต่างๆ ของบ้านได้อย่างทั่วถึง และยังทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้พื้นที่ในการทำกิจกรรมได้อย่างอิสระ โดยไม่จำเป็นต้องทำแต่เฉพาะพื้นที่ห้องต่างๆ ที่กำหนดไว้เท่านั้น
ระแนงอะลูมิเนียมที่ทำเป็นโครงสร้างของ facade ใหม่นั้น ช่วยกรองแสงได้ดีในช่วงเวลากลางวัน เพราะเป็นช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์ส่องมาโดยตรงยังหน้าบ้านพอดี และเสริมด้วยช่องวางต้นไม้เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และทำให้ facade ไม่ดูหน้าเบื่อจนเกินไปอีกด้วย
RECOMMENDED CONTENT
ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น (Ars Longa Vita Brevis) คือภาษิตของฮิปโปเครติส บิดาแห่งการแพทย์ในยุคกรีกโบราณ คนไทยคุ้นเคยวลีนี้จากคำสอนของ ศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทย ที่ซึ่งต่อมาลูกศิษย์ของท่านได้นำมาใช้เป็นคำขวัญของมหาวิทยาลัยศิลปากร วลีที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นสัจธรรมวลีนี้ยังผุดขึ้นมาในความคิดของ เข้-จุฬญานนท์ ศิริผล หลังจากที่เขามีโอกาสพูดคุยกับผู้ใช้เวสป้า และตระหนักถึงความผูกพันของผู้คนกับความหมายของสกู๊ตเตอร์ที่เป็นมากกว่าพาหนะ เข้จึงเลือกใช้มันมาเป็นชื่อภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่ของเขา - ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น