fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

Nike React Infinity Run 2 รองเท้าวิ่งที่จะช่วยดูแลอาการบาดเจ็บของเราได้ดียิ่งขึ้น
date : 7.มกราคม.2021 tag :

วิธีบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของการลดอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการวิ่งนั้น มีอยู่ 2 แนวทางหลัก แนวทางหนึ่งคือการพัฒนารองเท้าวิ่งรูปแบบเดิมให้ลดอาการบาดเจ็บได้ดีขึ้น และอีกแนวทางหนึ่งคือการนำเสนอรองเท้าวิ่งที่พัฒนาขึ้นใหม่

Nike Running เลือกนำเสนอรองเท้าวิ่งที่พัฒนาขึ้นใหม่ 2 รุ่น คือรองเท้าวิ่งไนกี้ รีแอ็ก อินฟินิตี้ รัน 2 (Nike React Infinity Run 2) และรองเท้าวิ่งไนกี้ ซูมเอ็กซ์ อินวินซิเบิ้ล รัน (Nike ZoomX Invincible Run) รองเท้าวิ่ง 2 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้เป็นรองเท้าวิ่งที่ไนกี้รันนิ่งพัฒนาขึ้นเพื่อสานต่อภารกิจด้านการพัฒนารองเท้าวิ่งที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งให้กับผู้สวมใส่ โดยรองเท้าวิ่งทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นรองเท้าวิ่งที่พัฒนาให้นักวิ่งทุกๆ ระดับสัมผัสได้ถึงจุดที่ลงตัวระหว่างความนุ่มสบาย ความสมดุล รวมถึงการออกแบบรูปทรงรองเท้าที่โค้งสอดรับกับเท้าและเหมาะสมกับการวิ่ง

รองเท้าวิ่งไนกี้ รีแอ็ก อินฟินิตี้ รัน 2 เป็นผลิตภัณฑ์ที่สานต่อจากรองเท้าตระกูลเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้า แต่มีการยกระดับหลายองค์ประกอบขึ้นไปอีกขั้น โดยเฉพาะการใช้หน้ารองเท้าแบบใหม่ที่ผลิตจากเส้นใยฟลายนิต (Flyknit) เพื่อให้รองเท้าแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยปกป้องนิ้วเท้าบริเวณใต้ห่วงที่ร้อยเชือกรองเท้าและส่วนที่เชื่อมระหว่างหน้ารองเท้ากับพื้นรองเท้าได้ดียิ่งขึ้น หน้าผ้ารองเท้าแบบใหม่นี้ยังช่วยเสริมการระบายอากาศบริเวณหน้าเท้าและส่วนกลางเท้า (ไนกี้ยังเสริมเส้นใยฟลายวายร์ (Flywire) ตลอดบริเวณหน้าผ้ารองเท้าเพื่อช่วยซัพพอร์ตเท้ามากยิ่งขึ้นอีกด้วย) นอกจากนี้ ไนกี้ยังพัฒนาให้วัสดุบริเวณคอลลาร์ให้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่เพิ่มน้ำหนักหรือทำให้รองเท้ามีลักษณะที่ดูเทอะทะ

วาเนสซ่า เฟรเซอร์ (Vanessa Fraser) นักกรีฑาระยะไกล กล่าวถึงรองเท้าวิ่งไนกี้ รีแอ็ก อินฟินิตี้ รัน 2 ว่ามี 2 สิ่งที่นึกได้ทันทีเมื่อสวมใส่รองเท้าคู่นี้ สิ่งแรกคือความรู้สึกมั่นคงขณะสวมใส่ ทั้งหน้าผ้ารองเท้าและส่วนส้นเท้าให้ความรู้สึกดีมาก รองเท้าวิ่งรุ่นนี้เป็นรองเท้าวิ่งที่พัฒนาขึ้นจากรองเท้าวิ่งตระกูลเดียวกันกับในรุ่นก่อนหน้า อีกสิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้คือส่วนพื้นรองเท้าที่แม้จะมีรูปลักษณ์ที่ใกล้เคียงกับรองเท้าวิ่งรุ่นเดิม แต่ส่วนพื้นของรองเท้าวิ่งไนกี้รีแอ็ก อินฟินิตี้ รัน 2 นั้นมีความนุ่ม ยืดหยุ่น และตอบสนองต่อการวิ่งได้ดีราวกับเป็นลวดสปริง 

รองเท้าวิ่งไนกี้ อินวินซิเบิ้ล รัน เป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญเพื่อการค้นหาจุดที่ลงตัวระหว่างความนุ่มสบาย ความสมดุล รวมถึงการออกแบบรูปทรงรองเท้าที่โค้งสอดรับกับเท้าและเหมาะสมกับการวิ่ง ส่วนพื้นกลางของรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ผลิตจากโฟมซูมเอ็กซ์ (ZoomX Foam) ที่ตอบสนองได้ดี ช่วยส่งคืนพลังงานกลับได้ดีกว่าวัสดุโฟมอื่นใดของไนกี้ 

รองเท้าวิ่งไนกี้ อินวินซิเบิ้ล รัน พัฒนาสำหรับการวิ่งระยะทางไกล จึงมีโฟมที่บริเวณพื้นกลางรองเท้ามากกว่ารองเท้าวิ่งตระกูลอินฟินิตี้ที่ใช้โฟมรีแอ็ก (React Foam) ลักษณะเฉพาะนี้ช่วยให้ความรู้สึกสบายขณะวิ่ง พร้อมทั้งยังส่งคืนพลังงานย้อนกลับให้ผู้สวมใส่ได้มากขึ้นซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพด้านการวิ่งของผู้สวมใส่ ไนกี้พัฒนารองเท้าวิ่งรุ่นนี้ให้เหมาะสมกับการวิ่งระยะไกลมากที่สุด รองเท้าวิ่งไนกี้ อินวินซิเบิ้ล รัน จึงออกแบบรูปทรงรองเท้าโดยคำนึงถึงความโค้งที่สอดรับกับเท้าและเหมาะสมกับลักษณะวิ่ง อีกทั้งบริเวณปลายเท้าที่กว้างขึ้นเพื่อช่วยเสริมสมดุลขณะวิ่งและทำให้วิ่งอย่างลื่นไหลมากขึ้น (เมื่อเปรียบเทียบกับรองเท้าวิ่งประเภทที่ใช้วัสดุแบบแผ่นเพลทที่ให้การตอบสนองที่ดีกว่า)

โดนาแวน บราซีเอร์ (Donavan Brazier) นักกรีฑาระยะกลาง บอกเล่าความรู้สึกขณะสวมใส่รองเท้าวิ่งไนกี้ ซูมเอ็กซ์ อินวินซิเบิ้ล รัน ว่าตอนที่ผมสวมใส่รองเท้ารุ่นนี้ครั้งแรก ผมรู้สึกว่ารองเท้ารุ่นนี้ให้ความรู้สึกดีมากๆ ผมคิดในใจว่าโอ้ ว้าว! รู้สึกได้เลยว่ารองเท้ารุ่นนี้มันดีจริงๆแต่ผมเองก็ไม่แน่ใจนักว่าสิ่งที่ช่วยให้ความรู้สึกดีขณะสวมใส่นี้มันคืออะไรกันแน่ มันเป็นความรู้สึกใหม่อย่างแท้จริง

รองเท้าวิ่ง Nike React Infinity Run 2 และรองเท้าวิ่ง Nike ZoomX Invincible Run มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 14 มกราคม และ 11 กุมภาพันธ์นี้ ในราคา 5,800 บาท และ 6,400 บาท ตามลำดับ ทางเว็บไซต์ Nike.com และที่ร้านไนกี้บางสาขา

RECOMMENDED CONTENT

14.ธันวาคม.2020

‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ  ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย