fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

ชิม ช้อป แชะ! 9 ร้านดังสุดจัดจ้าน ย่านวัฒนธรรม “เกาะรัตนโกสินทร์” ที่ต้องห้ามพลาด!
date : 17.ธันวาคม.2019 tag :

เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราจึงเริ่มต้นด้วยการพาเที่ยวชมพื้นที่แหล่งรวมอาหารเลิศรสมากมายที่รอให้ทุกคนมาลิ้มลอง บนเกาะรัตนโกสินทร์ ที่คุณจะพบร้านเก่าแก่อายุหลายสิปปี จนไปถึงร้านเปิดใหม่ที่รสชาติยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเรียงรายเต็มไปหมด ถ้ายังไม่มีแพลนว่าจะแวะร้านไหนดี ไม่ต้องกลัวไปเพราะเราได้คัดเลือกอาหารจานเด็ดที่ต้องมาชิมเวลามาเยือนพระนครแห่งนี้มาไว้ให้คุณแล้ว จะมีที่ไหนบ้าง? มาดู

1. ร้าน ออน ล๊อก หยุ่น 

เริ่มต้นด้วยการย้อนเวลากลับไปจิบกาแฟ กินอาหารเช้าในบรรยากาศยุค 80 ปืที่แล้วกันแบบชิลๆ  มาที่นี่ต้องลอง เมนู ขนมปังชุบไข่ทอด ขนมปังเนื้อนุ่มห่อหุ้มด้วยไข่ทอดสีเหลืองสวย เพิ่มเติมรสชาติด้วยซอสสักนิด พร้อมซดน้ำชาหอมกรุ่นที่ทางร้านบริการฟรีปิดท้ายอีกหน่อย ประทับใจแน่นอน

2. ร้านกุ๊กสมเด็จ กับเมนู พงศ์วารีทีละคำ

เมนูที่ไม่เพียงชื่อจะสะดุดหู แต่บอกเลยว่ารูปโฉมยังสะดุดตาอีกด้วย เพราะส่วนประกอบทำจากปลากะพงทอดหั่นเป็นชิ้น แล้วโรยด้วยใบคะน้าทอด แต้มด้วยครีมน้ำสลัดและมะนาว จากร้านโภชน์สภาคารร้านอาหารไทยดั้งเดิมอายุกว่า 80 ปี และทราบหรือไม่ว่าเจ้าของร้านในอดีตเป็นพ่อครัวประจำห้องเครื่องในวังของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์

3. ร้านที่ไม่มีชื่อเรียก ร้านเล็ก ๆ ในตึกแถวแพร่งภูธร กับเมนู “เกาเหลามันสมองหมู” 

แม้เป็นเพียงร้านเล็กๆ แต่รสชาติและความประทับใจไม่เล็กเลย เพราะที่นี่เจ้าของร้านทำเองทั้งหมด ตั้งแต่ทำวัตถุดิบ ปรุงอาหาร พร้อมเสิร์ฟ สำหรับเมนูเด็ด ที่เสิร์ฟมาเป็นเกาเหลารวมทุกอย่าง ส่วนที่ขาดไม่ได้เลยคือมันสมองหมูที่ทำอย่างพิถีพิถัน น้ำซุปต้มกระดูกหมูรสชาติกล่มกล่อม เสิร์ฟพร้อมกุนเชียงหมูและตับไว้แกล้ม

เมื่ออิ่มท้องแล้วก็ถึงเวลาเดินย่อย ทราบหรือไม่ว่าร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ซ่อนตัวอยู่ตามย่านต่าง ๆ ในเกาะรัตนโกสินทร์มีของสวยเก๋เฉพาะตัวทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นร้านเก่าแก่อายุหลายสิบปีที่ขายของคุณภาพดีมานาน หรือร้านใหม่ดีไซน์เก๋ที่เพิ่ง เข้ามาเติมเสน่ห์ให้พระนคร เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อมแล้วออกไปตะลุยหาของเก๋ ๆ มาแต่งองค์ให้ครบเครื่องตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเถอะ

4. ร้าน The Trapeze Swingers Store

ร้านเสื้อผ้าวินเทจคัดสรรชั้นเยี่ยม บ้านไม้ 2  ชั้นสุดเท่ อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าวินเทจมือสองที่คัดสรรมาอย่างดี จุดเด่นของเสื้อผ้าในร้านจึงมีความหลากหลายไม่ซ้ำใคร ทั้งชุดกระโปรงวินเทจตัวสวย เสื้อยืดวินเทจรุ่นสะสม หรือกางเกงยีนส์ฟอกสีเท่ ๆ จะยุค 30 60 หรือ 90 ก็มีให้ค้นหาได้เป็นวัน ๆ ประกอบกับร้านยืนระยะมานานกว่า 14 ปี จึงรู้จักแหล่งของสินค้าเยอะ ทำให้มีของแรร์ไอเทมที่บางชิ้นหายากแสนยาก แต่คุณจะหาเจอได้ที่ร้านเล็ก ๆ แห่งนี้    

5. ร้าน Horselegmarking Shoes

หากใครชอบรองเท้าผ้าใบสวยๆ ต้องไม่พลาด ร้านรองเท้าผ้าใบที่บอกเล่าเรื่องราววัฒนธรรมไทยสุดเก๋ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากรถอีแต๋น หยิบลวดลายพื้นฐานที่รถทุกคันต้องทีมาดีไซน์ใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น รวมไปถึงสีสันจัดจ้านหรือบรรยากาศท้องนายามเย็น ก็ถูกนำมาใส่ลงบนในรองเท้าแต่ละซีรีส์ ขั้นตอนการผลิตแบบแฮนด์เมดทำให้ไม่มีคู่ไหนเหมือนกัน แม้จะเป็นรองเท้าแบบเดียวกัน แต่ก็ให้คาแรกเตอร์ที่ต่างกันอย่างแน่นอน

6. ห้างไนติงเกล-โอลิมปิค ห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของไทย 

ห้างที่เปิดทำการมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ยังคงกลิ่นอายสมัยคุณตาคุณยายยังเป็นวัยรุ่นเอาไว้อย่างครบถ้วน ที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางค์สไตล์วินเทจมีไอเทมเด็ดอย่างสีผึ้งไนทิงเกล เนื้อลิปสีแดงแวววาวบรรจุอยู่ในตลับกะทัดรัด เป็นสินค้ายอดฮิตตลอดการ เพราะคุณภาพไม่เหมือนใครและหาไม่ได้ในห้างสรรพสินค้าทั่วไป ราคาก็สุดแสนจะน่ารัก แถมยังได้ถุงกระดาษเอกลักษณ์พิเศษกลับบ้านอีกด้วย

ท้องก็อิ่ม เดินย่อยก็แล้ว แต่เมื่อมาเยือนเกาะรัตนโกสินทร์ที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะเห็นตึกรามบ้านช่องเก่าแก่ที่ซ่อนรายละเอียดสถาปัตยกรรมของแต่ละยุคสมัยเอาไว้ บ้างนำศิลปะตะวันตกมาประยุกต์ บ้างรับวัฒนธรรมจากจีนมาปรับใช้ แต่น่าเสียดายหากถูกปล่อยทิ้งไว้ให้หงอยเหงา ฉะนั้นจึงขอชวนทุกคนออกมาตามรอยร้านคาเฟ่รีโนเวต ที่จะมาเลือกมานั่งดื่มกาแฟ จิบชา ชิมขนม และเพลิดเพลินไปกับการแวะถ่ายรูปชิค ๆ ตึกเก่าในพระนครที่ถูกปลุกให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งก็เก๋ไม่หยอก

7. ฮาเตียนคาเฟ่ 

ชื่อร้านคาเฟ่แสนสะดุดหูนี้ มีที่มาจากตำนานว่าชาวเวียดนามอพยพตั้งชื่อถิ่นฐานใหม่ว่า ฮาเตียน จนเพี้ยนมาเป็นท่าเตียนในปัจจุบัน ตึกเก่าปี 2470 ได้ปรับปรุงเป็นคาเฟ่ 3 ชั้นที่สะท้อนถึงความเป็นท่าเตียนทุกตารางนิ้วของร้าน ซึ่งเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจที่เจ้าของร้านได้สะสมไว้ คาเฟ่แห่งนี้ใช้ผลไม้ดอกที่คนไทยคุ้นเคยมาเป็นส่วนผสมของเมนู เช่น กาแฟมะตูม เมนูที่กาแฟนมผสมกับไซรัปมะตูมอย่างลงตัวชิมแล้วต้องติดใจ

8. ร้าน ซี-เมี่ยว-คา-เฟย (Simiao Kafei)

ร้านกาแฟที่เป็นภาษาจีนกลาง ตั้งอยู่ข้างวัดราชบพิธฯ ตึกขนาด 2 คูหาทรงชิโนโคโลเนียล แม้ภายนอกจะยังดูดีเหมือนใหม่ แต่แท้จริงแล้วมีอายุกว่า 150 ปี ปัจจุบันอาคารก่ออิฐถือปูนยังเหมือนเดิม มีหน้าต่างสี่เหลี่ยมผนังฉาบเรียบและหลังคาโครงสร้างไม้มุงกระเบื้องว่าว เพิ่มเติมคือการตกแต่งร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์และลวดลายแบบจีน ที่สำคัญอย่าลืมชิม ก๊กเฟย” กาแฟรสชาติจีนที่ผสม Black Honey และเก๊กฮวยลงไปด้วย

9. ร้าน Farm to Table

ร้านในซอยเล็กๆ ย่านปากคลองตลาด Hideout คาเฟ่ที่สร้างสไตล์บ้านโบราณสมัยปลายรัชกาลที่ 5 ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ เพิ่มกิมมิกด้วยการนำตระกร้าขนผักมาใช้แทนลิ้นชัก และนำที่ตักไอศกรีมมาทำด้านจับประตู และเมนูของคาวหวานของที่นี่ล้วนทำจากผักออร์แกนิกทั้งสิ้น ทั้งสลัดผักจานใหญ่ ข้าวไก่อบซอสเสาวรส หรือไอศกรีมไข่เค็มกินกับบัวลอยเผือก อร่อยมาก เรียกได้ว่าอร่อยและยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือรอบเกาะไกด์บุ๊ค และ มิวเซียมสยาม