ตั้งแต่ปรากฏโฉมให้เป็นที่รู้จัก เรือนเวลาหนุ่มลุคสปอร์ตอย่าง รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ (Royal Oak Offshore)
ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับโลกนาฬิกาชั้นสูงเรื่อยมา โดยเฉพาะความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์นวัตกรรมด้วยหลากวัสดุชั้นเลิศ ที่ปัจจุบัน โอเดอมาร์ ปิเกต์ (Audemars Piguet) ยังคงรักษาขนบดังกล่าว ทั้งยังส่งต่อแนวคิดนอกกรอบอันแสนท้าทายไว้อย่างเหนียวแน่น 

เพื่อเตรียมพร้อมก่อนงาน SIHH 2019 ที่กำลังจะมาถึง เราขอพาคุณไปทำความรู้จักกับ 3 เรือนเวลาน้องใหม่ในตระกูล รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ กับ “รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ เซลฟ์ ไวนด์ดิ้ง โครโนกราฟ” ประจำปี 2019 (Royal Oak Offshore Selfwinding Chronographs) อัพเดทเวอร์ชั่นที่ต่อยอดแรงบันดาลใจมาจาก      เรือนเวลารุ่นก่อน คงความโดดเด่นด้วยการตกแต่งดีเทลลายพรางทหาร ที่นอกจากจะเพิ่มความสนุกสนานเมื่อยามจับคู่สูทลุคสบายๆหรือเสื้อผ้าสไตล์แคชชวลแล้ว ยังเป็นการปรับเปลี่ยนโทนสีอันคุ้นเคยให้ดูแปลกตา ยิ่งขึ้นเช่นกัน ตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 3126/3840 พร้อมฟังก์ชั่นโครโนกราฟ สำรองพลังงาน 50 ชั่วโมง ขอบตัวเรือน ปุ่มจับเวลาและอุปกรณ์ปกป้องเม็ดมะยมรังสรรค์จากเซรามิก หน้าปัดสลักลวดลายแบบเมกะ ตาปิสเซอรี่ (Mega Tapisserie) อันเป็นเอกลักษณ์ โดยมี         วงหน้าปัดย่อยทำหน้าที่จับเวลาร่วมกับเข็มวินาทีหลักที่ตำแหน่ง 6 9 และ 12 นาฬิกา และความสามารถกันน้ำลึกได้ 100 เมตร

“รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ เซลฟ์ ไวนด์ดิ้ง โครโนกราฟ” ประจำปี 2019 นำเสนอผ่าน 3 โทนสีที่แตกต่าง บนตัวเรือนที่มีให้เลือก 2 วัสดุ เติมเต็มด้วยลูกเล่นของพื้นหน้าปัดสลักลายและสายยางลายพรางทหารเข้าสีกันกับขอบตัวเรือน หรือเลือกเปลี่ยนสายยางเป็นดีไซน์แบบเรียบได้ตามชอบใจ

• ตัวเรือนสเตนเลสสตีล จับคู่กับขอบตัวเรือนเซรามิกในเฉดสีน้ำเงิน (26400SO.OO.A035CA.01) 

• ตัวเรือนสเตนเลสสตีล จับคู่กับขอบตัวเรือนเซรามิกในเฉดสีเขียวกากี (26400SO.OO.A055CA.01) 

• ตัวเรือนพิ้งค์โกลด์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่แบรนด์หยิบความสง่างามดังกล่าวมาผสมผสานกับขอบตัวเรือนเซรามิกในเฉดสีน้ำตาล (26401RO.OO.A087CA.01) 

ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือหนึ่งในเรือนเวลาที่ โอเดอมาร์ ปิเกต์ ทุ่มเทและพิถีพิถันในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะกระบวนการทำสีบนเซรามิกที่สลับซับซ้อน เพื่อก่อให้เกิดผลลัพธ์ตามที่ต้องการ นอกจากสะท้อนถึงปรัชญาหลักของแบรนด์อย่าง “To break the rules, you must first master them” แล้ว ยังเป็นสัญญาณ เซอร์ไพรส์ที่น่าตื่นเต้นในปี 2019 อีกด้วย