fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#BEHINDBAR — ‘The Iron Fairies’ แจ๊ซบาร์ระดับโลก ให้คุณดื่มด่ำบรรยากาศสุดแฟนตาซี และมนต์เสน่ห์ของเทพนิยายปรัมปรา ใจกลางย่านทองหล่อ
date : 13.สิงหาคม.2015 tag :

The Iron Fairies dooddot 4

หากพูดถึงเรื่องของจินตนาการและความสนุกสนานในวัยเด็ก เทพนิยายปรัมปราของฝั่งยุโรปคงเป็นที่ประทับใจของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นภูตจิ๋วตัวน้อย และสัตว์วิเศษในดินแดนแสนประหลาดและลึกลับ ไม่ว่าตอนนี้คุณจะเติบโตอยู่ในวัยไหนก็ตาม เราเชื่อว่าคุณยังคงวาดฝันถึงภาพความมหัศจรรย์เหล่านี้อยู่ใช่ไหม?

The Iron Fairies แจ๊ซบาร์ย่านทองหล่อที่เราขอแนะนำในวันนี้ มีชื่อเสียงระดับโลกและมีเพียง 4 สาขาเท่านั้น คือที่ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และกรุงเทพฯ โดยแรงบันดาลใจหลักของร้านเริ่มต้นจากชีวิตในวัยเด็กของ Ashley Sutton (ผู้เป็นอดีตเจ้าของร้านและผู้ออกแบบร้าน) ที่ได้ทำงานเหมืองในออสเตรเลีย การได้คลุกตัวอยู่ในบรรยากาศที่มืดและลึกลับของเหมืองเป็นเวลาหลายปี ทำให้ Ashley เกิดจินตนาการและแรงบันดาลใจจนเขียนออกมาเป็นวรรณกรรมแฟนตาซีขายดีทั่วโลกอย่าง ‘The Iron Fairies’ ซึ่งต่อมาเมื่อแจ๊ซบาร์ The Iron Fairies ได้เปิดตัวขึ้น Ashley ก็ได้นำเสน่ห์ของนิทานปรัมปราจากหนังสือมาใช้กับทุกส่วนของร้านอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบและตกแต่งร้านให้ดูราวกับเป็นเหมืองเหล็กสุดลึกลับที่มีเครื่องจักรโบราณ ภูติจิ๋ว และความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ทั่วทุกมุม การก้าวเข้าไปใน The Iron Fairies จึงเป็นเหมือนกับการก้าวเข้าไปในโลกอีกใบที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของมนต์วิเศษโบราณที่พวกเราในวัยเด็กต่างก็เคยฝันถึง

The Iron Fairies dooddot 1

ภายในร้านแห่งนี้แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างสุดนั้นเหมาะกับคู่รักที่อยากหาที่นั่งจิบเครื่องดื่มสบายๆ หรือกลุ่มเพื่อนขนาดเล็กไม่เกิน 3-4 คน เพราะที่นั่งส่วนใหญ่ในชั้นนี้จะเป็นเก้าอี้และโต๊ะขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่าทุกๆ มุมของชั้นนี้จะมีของประดับเป็นทั้งรูปปั้นเหล็กของสัตว์วิเศษ ขวดจิ๋วใส่ Fairy Dust หรือผงแวววาวจากนางฟ้า เครื่องจักรเก่าแก่ และบันไดวนโบราณอายุกว่า 200 ปีที่ทางร้านนำมาจากออสเตรเลีย ซึ่งบันไดวนนี้จะเชื่อมต่อไปยังเวทีซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 ของร้านนั่นเอง บนชั้น 2 นี้จะเหมาะกับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ เพราะจะมีมุมโต๊ะยาวไว้ให้บริการโดยเฉพาะ ส่วนชั้น 3 เมื่อมองเผินๆ จะเห็นว่ามีแต่กำแพงขวด Fairy Dust แต่ที่จริงแล้วมีประตูลับที่ซ่อนห้องสูบบุหรี่เอาไว้ นอกจากนี้ยังมีห้อง VIP ที่เป็นโต๊ะที่ดีที่สุดของร้านซ่อนอยู่ด้วย เมื่ออยู่ในนี้จะสามารถมองลงไปเห็นมุมของร้านได้ทั้งหมด ซึ่งใครที่สนใจห้องนี้ต้องจองกับทางร้านก่อน

The Iron Fairies dooddot 3

มาถึงเรื่องดนตรี แน่นอนว่าแจ๊ซและบลูส์ของที่นี่คุณภาพเยี่ยมไม่แพ้ใคร สไตล์โดยรวมของดนตรีจะเน้นไปที่ความชิลล์และผ่อนคลาย ศิลปินแจ๊ซที่มาเล่นที่ The Iron Fairies มีทั้งชาวไทยและต่างชาติ นำโดย Keithen Carter นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังจากชิคาโก้ ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grammy Awards มาแล้ว นอกจากนี้ยังมี ตี๋ The Voice นักร้องมากความสามารถก็มาโชว์คุณภาพเสียงที่นี่เป็นประจำอีกด้วย ไม่น่าเชื่อว่าบรรยากาศแบบเหมืองเหล็กสุดลึกลับของทางร้าน จะเข้ากันกับเสียงดนตรีแจ๊ซได้ดีเยี่ยม ลูกค้าที่มาที่นี่ส่วนใหญ่จึงนิยมนั่งกันยาวๆ เพื่อดื่มด่ำและฟังเพลงจนร้านปิดกันเลยทีเดียว

ความพิเศษของ The Iron Fairies ที่เป็นที่ถูกใจคอเพลงแจ๊สทั้งหลายคือ ทุกๆ วันจันทร์จะเป็น Open Mic Night คือทุกคนสามารถขึ้นเวทีไปร่วมร้องเพลงกับแบนด์ของที่ร้านได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรืออยากร้องเพลงอะไร ขอแค่เพียงก้าวขึ้นไปร่วมสนุกด้วยกันสัก 1 เพลง ทางร้านก็จะมีว้อดก้าให้ฟรี 1 แก้ว ขอบอกเลยว่าเพราะกิจกรรมที่เป็นกันเองแบบนี้ ทำให้พอถึงคืน Open Mic ทีไร ที่ร้านต้องมีลูกค้าแน่นเต็มร้านตลอด

แม้แต่เรื่องของอาหารและค็อกเทล ทาง The Iron Fairies ก็ยังไม่ลืมใส่ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ของเรื่องราวเหนือจินตนาการแบบนิทานปรัมปราลงไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นชื่ออาหารและหน้าตา อย่างตัวค็อกเทลสูตรเฉพาะของร้าน ‘Smoke in a bottle’ ความพิเศษของเมนูนี้คือการนำตัวค็อกเทลลงไปบ่มกับควันออริกาโน่ในขวดจุกไม้ ทำให้หน้าตาที่ออกมาจะเหมือนน้ำยาวิเศษกรุ่นควันของแม่มด เมื่อลองดื่มจะได้กลิ่นหอมสมุนไพรของออริกาโน่อวลในจมูก ผสมกับรสชาติหวานอมเปรี้ยวของบลูเบอร์รี่สด แก้วนี้จึงเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าโดยเฉพาะผู้หญิง นอกจากนี้เมนูค็อกเทลอื่นๆ ที่น่าลิ้มลองอีกเช่น ‘Watermelon daiquiri with fairy dust burnt marshmallow’ ที่มีรสชาติสุดสดชื่นจากแตงโม น้ำมะนาว และน้ำผึ้ง และ ‘Jasmine white fairy’ ค็อกเทลรสกลมกล่อมและหอมกลิ่นดอกมะลิ ความน่าสนใจของเมนูค็อกเทลที่ร้าน The Iron Fairies คือมี Joseph Boroski มิกซ์โซโลจิสต์ชื่อดังระดับโลกเป็นผู้คิดค้นสูตรให้โดยเฉพาะ จึงมั่นใจในรสชาติและคุณภาพในทุกๆ แก้วได้อย่างแน่นอน

The Iron Fairies dooddot 5

The Iron Fairies dooddot 6Smoke in a bottle – 320 บาท

ของดีของร้านอีกอย่างหนึ่งที่ห้ามพลาดอย่างยิ่งคือเบอร์เกอร์ที่ทาง The Iron fairies เคลมไว้ว่าของเค้าเป็น Best burger in town ซึ่งเมื่อเราได้ลองชิมแล้วก็พบว่าเป็นเรื่องจริง! ‘Jilo’s Smoked Pork Burger’ เบอร์เกอร์หมูชิ้นโต เนื้อสัมผัสทั้งนุ่มและแน่นจนไม่อยากหยุดเคี้ยว ประกบเข้ากับเบคอน ผักสดกรอบ และขนมปังโฮมเมดของทางร้านที่เนื้อดีและกลิ่นหอมของเนยเตะจมูกเราเต็มๆ ขอรับประกันเลยว่าของเค้าดีจริงๆ นอกจากเมนูเบอร์เกอร์หลากชนิดแล้วที่นี่ยังมีอาหารสไตล์อเมริกันและยุโรปให้เลือกทานอีกมาก เช่น ‘Amy’s Apple Chicken Salad’ จานนี้ประกอบไปด้วยผักสดๆ อย่างมะเขือเทศ หัวหอม และผักกาดหอม มีแอปเปิลเนื้อหวานกรอบและไก่ย่างเนื้อแน่นหอมกลิ่นสมุนไพร เพิ่มรสชาติด้วยบัลซามิกรสเปรี้ยวกำลังดี หากใครอยากทานเมนูนี้คู่กับเบอร์เกอร์ก็เข้ากันได้ดีเยี่ยมสุดๆ

The Iron Fairies dooddot 7Jilo’s Smoked Pork Burger – 350 บาท

The Iron Fairies dooddot 8Amy’s Apple Chicken Salad – 220 บาท

The Iron Fairies จึงเป็นบาร์แจ๊ซบรรยากาศดีเยี่ยมที่จะเติมเต็มทุกๆ จินตนาการได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าคุณจะอยากนั่งผ่อนคลายสบายๆ กับคนรัก หรืออยากสังสรรค์พร้อมฟังดนตรีดีๆ กับกลุ่มเพื่อน ที่นี่จะสามารถตอบทุกโจทย์ได้แน่นอน ไม่แน่ว่าหากคุณลองไปสักครั้งแล้ว อาจจะติดใจจนอยากกลับไปเยือนอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้งอย่างเราก็เป็นได้!

The Iron Fairies dooddot 9

The Iron Fairies Bangkok
เลขที่ 402 (ตรงข้ามกับซอยทองหล่อ 13) ซอยสุขุมวิท 55
แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
เปิดบริการทุกวัน 18.00-02.00 น.
02-714-8875
facebook.com/ironfairiesbkk

Writer/photographer: Saisuree Mesiri

RECOMMENDED CONTENT

21.กันยายน.2020

beabadoobee หนึ่งในศิลปินหญิงที่มาแรงที่สุดในปี 2020 ด้วยยอดสตรีมมากกว่า 900 ล้านครั้ง และเพลงติดหูอย่าง ‘Coffee’ ที่ภายหลังนำท่อนฮุกในเพลงนี้มาฟีตในเพลง ‘deathbed (coffee for your head)’ ของ Powfu และประสบความสำเร็จอย่างมากมายจนมียอดสตรีมมิ่งเป็นอันดับที่ 6 ของฤดูร้อนนี้