fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#Entrepreneur: เด็กยุคนี้ต้องฟัง! Startup VS Corporate ผ่านมุมมองของผู้นำ Startup ไทย จาก FireOneOne
date : 9.พฤษภาคม.2016 tag :

startup VS coporate By FireOneOne Dooddot 11

หากใครอยู่ในวงการ Startup แล้ว คงต้องเคยได้ยินชื่อพี่ไวท์ ชาคริต จันทร์รุ่งสกุล ผู้ก่อตั้ง FireOneOne ที่ผลิต Software และ Application สำหรับธุรกิจที่อยากจะเปลี่ยนกระบวนการทำงานบางอย่างที่เคยอยู่บนคอมพิวเตอร์มาอยู่บนมือถือ หรือง่ายๆ คือการทำ Mobile Application for Business นั่นเอง FireOneOne ถูกก่อตั้งขึ้นมาจากความ “อยากทำ” และ “อยากลอง” ของพี่ไวท์หลังจากเปิดบริษัท Consult ของตัวเองในด้าน Branding และ Marketing ให้กับลูกค้ามานานหลายปี พี่ไวท์ก็อยากจะเริ่มจะลองทำ Software ของตัวเองขึ้นมาบ้าง

การเป็น CEO ของบริษัท Startup ต้องทำอะไรบ้าง ?

หลายๆ ครั้งใช้คำว่า CEO คือ Chief Everything Officer คืออะไรที่น้องทำไม่ได้เราทำได้หมดนั่นคือสิ่งที่ CEO ควรจะเป็น สำหรับบริษัทขนาดเล็กๆ อย่าง FireOneOne scale เราแค่ 20 คน เราก็ช่วยกันทำทุกอย่าง พี่ก็มาจากสาย Designer ให้พี่ช่วยออกแบบ Application พี่ก็สามารถช่วยออกแบบได้ ให้พี่ช่วยคิด Logic ของ Application พี่สามารถทำได้ พี่เขียน Code ไม่ได้แต่พี่อาจจะหาคนมาช่วยได้ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของ CEO สำหรับบริษัทขนาดเล็กส่วนใหญ่ก็คือทำทุกอย่าง ช่วงที่ FireOneOne ปีแรกๆ มีอยู่แค่ 4-5 คน พี่ขายเอง พี่คุยกับลูกค้าเอง คือไปเองตลอดทุกที่ ตอนนี้ก็มีน้องๆ มาช่วยแบ่งเบาภาระ มี Project Manager คอยช่วยดู พี่ก็คอยช่วยให้คำปรึกษาเค้าว่ากับลูกค้ารายนี้เราควรจะเพิ่มอะไรให้ลูกค้า จนไปถึง Training น้องๆในบริษัท นั้นคือสิ่งที่ต้องทำ มันก็เป็นสิ่งที่จำเป็น

การทำงานใน Startup ต่างจาก Corporate อย่างไร ?

การทำงานใน Corporate ต่างกับ Starup ตรงที่ว่าใน Corporate เค้ามี Pattern มีรูปแบบมาแล้วเรียบร้อย มันเป็นรูปแบบที่พร้อมขยายเพราะฉะนั้นการที่เราเข้าไปเป็นหนึ่งกลไกใน Corporate เราก็จะได้เรียนรู้อะไรที่ลงลึกไปในสายงานนั้น ซึ่งมันจะมีรูปแบบที่ชัดเจน Startup ยังไม่มี Pattern แบบนั้น Startup คือเข้าไปคุณต้องเรียนรู้อีกหลายอย่างมากเลย เพราะฉะนั้นความแตกต่างมันอยู่ที่ว่ามันเป็นความสนุกที่คนมองคนละแบบ บางคนมองว่า งาน Corporate สนุกกว่า เพราะ Startup ไม่มี Structure ไม่มีโครงสร้าง ในขณะที่คนที่เค้าชอบงานในฝั่งของ Startup เค้าบอกว่า เอ้ยดีดิ! อย่างนี้ในอนาคตถ้าเกิดอยากจะไปทำธุรกิจของตัวเอง นี้แหละคือสิ่งที่ต้องเรียนรู้ เพราะว่าได้เข้าไปเรียนครบทุกอย่าง ไม่เคยขายก็ต้องขาย ไม่เคย Design ก็ต้องช่วยเพราะคนไม่พอ แต่คนที่มาในฝั่ง Startup จะรู้รอบ เอาตัวรอด จะเก่งอยู่ในระดับหนึ่ง

ฝากอะไรถึงคนรุ่นใหม่ที่มีความฝันอยากเป็นผู้ประกอบการ ?

การเป็นผู้ประกอบการคือความเสี่ยง อันดับแรกคือเตรียมตัวรับความเสี่ยง ต้องไม่กลัวกับความเสี่ยง สิ่งที่มันจะแตกต่างกันในชีวิตเลย พี่พูดมาหลายที่มากๆ เลยก็คือว่า เรามักจะกลัว ตอนเรียนเรากลัวสอบตก การสอบตกนี้เป็นเรื่องที่โอ้โหเลวร้ายที่สุดในชีวิต การติด F นี้เป็นเรื่องที่เลวร้าย พอมาเป็นผู้ประกอบ การล้มเหลวของผู้ประกอบการหรือการติด F ของผู้ประกอบการ คือ Step หนึ่งที่เราจะต้องเจอ ต้องไม่กลัว และจะต้องเรียนรู้ ต้องเผชิญหน้ากับมัน และต้องเรียนรู้ให้มากที่สุด ผู้ประกอบการจำนวนมากที่ล้มแล้วล้มอีก ล้มแล้วล้มอีก จนสำเร็จ ถ้าเราจะรักษาความเป็นผู้ประกอบการเอาไว้ อย่างแรกเลยต้องเปลี่ยน Mindset จบออกมา Mindset นั้นทิ้งไปเลย การทำธุรกิจคือเราต้องลองและต้องลงมือ

สิ่งที่สำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก การที่เราได้รับฟังประสบการณ์หรือเรียนรู้ข้อผิดพลาดของผู้ที่เคยประสบมาก่อนนับเป็นหนึ่งในแนวทางการตัดสินใจว่าคุณเหมาะไหมที่จะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองแล้วจะต้องเจอกับอะไรบ้างในอนาคต

สามารถฟังสัมภาษณ์เต็มๆ ของพี่ไวท์ ชาคริต จันทร์รุ่งสกุล ได้เลย!

โดยในช่วงเดือนมิถุนายนนี้โครงการ Career Launcher จาก CareerVisa Thailand ยังตามหานักศึกษาและคนรุ่นใหม่ที่เชื่อว่าตนเองมี Founder’s potential จำนวน 20 คนเพื่อเข้าโปรแกรมช่วง Summer เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งทักษะ ประสบการณ์และสร้าง Attitude ของผู้ประกอบการ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่  www.facebook.com/careervisathailand
หรือ www.careervisathailand.com/careerlauncher
หมดเขตสมัคร 15 พฤษภาคม 2559

RECOMMENDED CONTENT

14.ธันวาคม.2021

ถ้าคุณได้ติดตามข่าวกันมาบ้าง คนไทยหลายๆคนนั้นอยู่ในวงการ Visual Effect ระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานภาพยนตร์ หรืองานภาพนิ่ง