fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

12 อันดับเพลงประกอบภาพยนตร์ยุค 90 ที่ทุกคนยังคิดถึง
date : 28.กรกฎาคม.2014 tag :

ถ้าเราบอกคนที่รักการดูหนังทั้งหลาย ให้ลิสต์เหตุผลว่าทำไมถึงชอบดูหนัง แน่นอนว่าคงได้เหตุผลหลายข้อ บ้างคงบอกว่าชอบดูนักแสดงที่ตัวเองชื่นชอบ บ้างคงบอกว่าชอบดูหนังเพราะมันทำให้คลายเครียด บ้างชอบดูเพื่อศึกษาวิธีทำหนังของผู้กำกับในดวงใจ บ้างอาจบอกว่าเพราะการดูหนังเหมือนช่วยให้หลุดพ้นจากโลกแห่งความเป็นจริง จะด้วยเหตุผลร้อยแปดอะไรก็แล้วแต่ เราเชื่อเหลือเกินว่า ในบรรดาเหตุผลเหล่านั้น “เพลงประกอบ” หรือ “soundtrack” ภาพยนตร์ จะต้องติดในอันดับต้นๆอย่างแน่นอน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเพลงประกอบภาพยนตร์นั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ช่วยให้พวกเราดูหนังได้อย่างมีอรรถรสอย่างแท้จริง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องที่ส่วนหนึ่งประสบความสำเร็จ ดังเป็นพลุแตก ก็เพราะเพลงประกอบที่ช่วยส่งอารมณ์ของหนัง รวมทั้งยังสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จนคนดูรู้สึกอิน ก่อให้เกิดความประทับใจและผูกพันต่อตัวหนังและตัวละครได้ไม่ยาก ขนาดที่ว่าแม้ว่าจะผ่านไปนานสักกี่ปี เราก็ยังจำและร้องตามเพลงๆนั้นได้อยู่ ถึงแม้อาจจะลืมเค้าโครงเรื่องของหนังเรื่องนั้นๆไปบ้างแล้วก็ตาม

ถ้าจะให้นึกถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ฮิตสุดๆในตอนนี้ เปิดหน้าเฟสบุ๊คแต่ละทีก็จะต้องเห็นเพื่อนๆตามแชร์วีดีโอกันเป็นแถวแล้วละก็ คงจะหนีไม่พ้นเพลง “Lost Stars” จากภาพยนตร์เรื่อง Begin Again ที่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลงรักเสียงร้องหวานๆของนางเอกสาว Keira Knightley เหลือเกิน เพลงนี้รู้สึกจะฮิตเป็นพิเศษในหมู่สาวๆ ที่ถ้าให้เราเดา คงต่างรู้สึกเข้าใจในความรู้สึกของตัวละครสาวที่ Keira Knightley แสดง แต่สำหรับคอลัมน์นี้ เราขอย้อนเวลากลับไปในช่วงปี 1990’s ซึ่งถือเป็นยุคที่มีเพลงประกอบภาพยนตร์โด่งดังมากมายจนหลายต่อหลายเพลงถือเป็นเพลงระดับตำนานไปแล้ว! จะว่าว่าเราเว่อร์ยังไงก็ช่าง แต่เรามั่นใจว่าทุกบทเพลงที่รวบรวมมาในวันนี้ ทุกคนต้องรู้จักและร้องตามได้บางเพลงแน่นอน แถมได้ฟังแล้วจะทำให้คิดถึงวันวานและอยากกลับไปดูหนังพวกนี้ด้วย ว่าแล้วพวกเราเลื่อนลงไปดูกันเลยดีกว่า ว่าเพลง soundtrack ระดับตำนานยุค 90 มีเพลงอะไรบ้าง

“How Do I Live” – Trisha Yearwood / Con Air (1997)

null

อันที่จริงแล้วเพลงนี้เป็นของ LeAnn Rimes นักร้องสาวคันทรี่ (เจ้าของเพลง Can’t Fight the Moonlight อันโด่งดังสามปีต่อมา) ที่ได้ร้องเพลงนี้เอาไว้ในปีเดียวกัน แต่ด้วยความที่ทางค่ายหนังเห็นว่าเธออายุเพียงแค่ 14 ปีในตอนนั้น แถมซาวด์ดนตรียังออกป๊อปมากเกินไป Trisha Yearwood นักร้องคันทรี่ชื่อดัง เลยได้รับเลือกให้มาอัดเสียงเพลงนี้ใหม่แทน ถึงแม้ว่าเวอร์ชั่นของ LeAnn Rimes จะไต่อันดับได้สูงกว่าอยู่ที่อันดับ 2 ในชาร์ต Billboard Hot 100 ในขณะที่เวอร์ชั่นของ Yearwood อยู่ที่อันดับ 23 แต่โดยรวมแล้ว เวอร์ชั่นของ Trisha Yearwood เป็นที่จดจำมากกว่า จนตอนหลังเพลงนี้กลายเป็นเพลงประจำตัวของเธอไปโดยปริยาย

Con Air เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น กำกับโดย Jerry Bruckheimer นำแสดงโดย Nicolas Cage, John Cusack และ John Malkovich ทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 224 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้ว่าจะรับคำวิจารไม่ค่อยดีนัก แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังถูกนำเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และมิกส์เสียงยอดเยี่ยม แต่ดันไปแพ้ Titanic ที่ได้สองรางวัลนี้ไปครอง และที่แย่ไปกว่านั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับไปคว้ารังวัลราสซี่ สาขา “Worst Reckless Disregard for Human Life and Public Property” มาแทน

________________________________________________________________________________

 

“When You Say Nothing At All” – Ronan Keating / Notting Hill (1999)

null

โอ้โห…เพลงนี้ฟังกี่ทีก็โดน ฟังกี่ทีก็ต้องร้องตาม ฟังกี่ทีก็เพ้อ…เอาเป็นว่าตอนเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 1999 ไม่นานหลังจากนั้นก็ดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง จะเปิดดูรายการเพลงกี่ทีเป็นต้องเจอมิวสิกวีดีโอที่พี่ Ronan นั่งร้องเพลงอยู่บนม้านั่ง หรือจะเปิดวิทยุก็เป็นต้องได้ฟังทุกครั้ง “When You Say Nothing At All” คือซิงเกิ้ลแรกของ Ronan Keating ที่ถูกปล่อยออกมาในฐานะนักร้องเดี่ยว หลังจากที่เขาหยุดพักจากการเป็นนักร้องนำวง Boyzone แล้วในขณะเดียวกันยังได้รับเลือกให้เป็น soundtrack ภาพยนตร์เรื่อง Notting Hill อีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าเพลงนี้จริงๆแล้วเป็นเพลงคันทรี่ ที่ถูกร้องครั้งแรกโดยนักร้องคันทรี่ Keith Whitley เมื่อปี 1988 และต่อมาก็ถูกนำมา cover โดยนักร้องคันทรี่ชื่อดัง Alison Krauss ในปี 1995 จนมาถึงเวอร์ชั่นของ Ronan Keating ในปี 1999 ที่ทุกคนจดจำ

Notting Hill เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ นำแสดงโดย Julia Roberts และ Hugh Grant ด้วยเนื้อเรื่องสไตล์ดอกฟ้ากับหมาวัด นางเอกเป็นถึงนักแสดงฮอลลิวู้ดผู้โด่งดัง ในขณะที่พระเอกเป็นแค่คนขายหนังสือธรรมดาๆที่ Notting Hill แต่ทั้งคู่กลับตกหลุมรักกันและกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงได้ใจคนดู โดยเฉพาะสาวๆไปเต็มๆ สามารถกวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 363 ล้านเหรียญสหรัฐ แถมยังกลายเป็นภาพยนตร์อังกฤษที่ทำรายได้สูงสุดประจำปีนั้นอีกด้วย ถึงแม้จะผ่านมานานถึง 15 ปี แต่เชื่อว่ายังมีใครหลายๆคนที่ยกภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เป็นหนังรักอันดับหนึ่งในดวงใจตลอดการแน่นอน

________________________________________________________________________________

 

“It Must Have Been Love” – Roxette / Pretty Woman (1990)

null

ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงประกอบภาพยนตร์รักโรแมนติกประจำยุค 90 ที่โด่งดังมากๆ กับเพลงร็อคบัลลาด “It Must Have Been Love” ของวงป๊อปร๊อคจากสวีเดน Roxette ที่กลายเป็นเพลงที่ถูกจดจำมากที่สุดของวง รับประกันความสำเร็จด้วยการครองอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 นานถึง 2 สัปดาห์ แถมยังขายได้มากถึง 500,000 แผ่นเฉพาะในอเมริกา

Pretty Woman เป็นหนึ่งในภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่ทำเงินได้สูงสุดตลอดการ สามารถทำรายได้ไปทั่วโลกมากถึง 463 ล้านเหรียญสหรัฐ นำแสดงโดย Richard Gere และเป็นผลงานแจ้งเกิดของ Julia Roberts ในบทโสเภณี Vivian Ward จนประสบความสำเร็จไปทั่วโลก และคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิง ประเภทเพลง/ตลกมาครองได้สำเร็จ

________________________________________________________________________________

 

“Before I Fall In Love” – Coco Lee / Runaway Bride (1999)

null

เป็นอีกหนึ่งเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ได้ยินบ่อยมากๆในช่วงปีนั้น กับเพลง “Before I Fall In Love” ที่ได้เสียงหวานๆของ Coco Lee นักร้องสาวชาวฮ่องกง มาร้องเป็นเพลงประกอบของภาพยนตร์เรื่องนี้

Runaway Bride เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่ได้ Richard Gere และ Julia Roberts มาประกบคู่กันอีกครั้ง หลังจากที่เคยแสดงร่วมกันในเรื่อง Pretty Woman เมื่อปี 1990 แต่เรื่องนี้กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าในเชิงรายได้และเสียงวิจารจากนักวิจารภาพยนตร์

________________________________________________________________________________

 

“I Will Always Love You” – Whitney Houston / The Bodyguard (1992)

null

ไม่มีใครไม่รู้จักเพลงนี้ ที่กลายเป็นเพลงที่โด่งดังที่สุดและถูกจดจำมากที่สุดของ Whitney Houston ศิลปินหญิงผู้ล่วงลับที่โด่งดังถึงขีดสุดในช่วงยุค ’80 อันที่จริงแล้วเพลง “I Will Always Love You” เป็นเพลงของนักร้องคันทรี่ Dolly Parton ที่ได้ปล่อยออกมาครั้งแรกเมื่อปี 1974 แต่ถูกนำมา cover โดย Whitney Houston สำหรับ soundtrack เรื่อง The Bodyguard ซึ่งเวอร์ชั่นของเธอประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วโลก ติดอันดับที่ 49 ในลิสต์ Billboard’s “Greatest Songs of All Time” อันดับ 9 ในลิสต์ NME’s “Greatest No 1 Singles In History” และยังสามารถคว้ารางวัล Record of the Year และ Best Pop Vocal Performance, Female จากงานประกาศผลรางวันแกรมมี่อีกด้วย

The Bodyguard เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-แอ๊คชั่น-ระทึกขวัญ นำแสดงโดย Kevin Costner (พระเอกขวัญใจแม่ๆในยุคนั้น) และ Whitney Houston ในภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ เรื่องราวเกี่ยวกับบอดี้การ์ด (Costner) ที่ต้องมาคุ้มครองนักแสดงสาวชื่อดัง (Houston) เพื่อป้องกันการลอบสังหาร หนังเรื่องนี้ทำรายได้ไปทั่วโลกกว่า 410 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มียอดขายสูงสุดตลอดการ โดยมี 5 บทเพลงเด่นๆ อาทิ “I Will Always Love You”, “I’m Every Woman”, “I Have Nothing” “Run to You” และ “Queen of the Night” ซึ่ง Whitney Houston เป็นผู้ขับร้องทั้งหมด

________________________________________________________________________________

 

“Unchained Melody” – The Righteous Brothers / Ghost (1990)

null

ดูหนังเรื่องนี้ทีไรเป็นต้องบ่อน้ำตาแตกทุกที ยิ่งมีเพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ยิ่งขยี้ใจสุดๆ! “Unchained Melody” เป็นเพลงของวง The Righteous Brothers ที่ปล่อยออกมาครั้งแรกเมื่อปี 1955 ก่อนจะถูกนำมาใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้จนโด่งดัง ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก

Ghost เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-แฟนตาซี-ดราม่า นำแสดงโดย Patrick Swayze และ Demi Moore เกี่ยวกับความรักระหว่างวิญญาณของ Sam (Swayze) และ Molly (Moore) คู่รักที่ฝ่ายชายถูกโจรยิงตาย แต่วิญญาณของเขายังคงอยู่เคียงข้างแฟนสาวไม่ไปไหน เรื่องนี้ทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 505 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังได้เสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 5 สาขาด้วยกัน โดยสามารถคว้ามาได้ 2 รางวัล ทั้งบทสมทบหญิงยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ดั้งเดิม

________________________________________________________________________________

 

“(Everything I Do) I Do It For You” – Bryan Adams / Robin Hood: Prince of Thieves (1991)

null

ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงรักอมตะ ที่แค่ตอนขึ้นเพลงด้วยเสียงเปียโนนั่นก็รู้แล้วว่าคือเพลงอะไร กับ “(Everything I Do) I Do It For You” เพลงซอฟต์ร็อคบัลลาดของ Bryan Adams ร็อคเกอร์ชื่อดังชาวแคนาดาคนนี้ คือไม่รู้จะอธิบายถึงความดังของเพลงนี้ยังไง นอกจากว่ามัน โ-ค-ต-ร ดังและประสบความสำเร็จมากจริงๆ โดยเฉพาะในเกาะอังกฤษที่เพลงนี้สามารถยึดครองอันดับ 1 บน UK Singles Chart ได้นานถึง 16 สัปดาห์ติดต่อกัน! ส่วนบนชาร์ต Billboard Hot 100 ของฝั่งอเมริกานั้นก็ไม่น้อยหน้า สามารถครองอันดับ 1 ได้นานถึง 7 สัปดาห์ และอันดับ1 บนชาร์ต Canadian Singles Chart นานถึง 9 สัปดาห์ด้วยกัน ถือว่าดังจนไม่รู้จะดังยังไง แถมยังได้รางวัลแกรมมี่สาขา “Best Song Written Specifically for a Motion Picture or Television” หรือ “รางวัลบทเพลงยอดเยี่ยมที่ถูกแต่งขึ้นสำหรับภาพยนตร์หรือโทรทัศน์โดยเฉพาะ” ประจำปี 1992 อีกด้วย

Robin Hood: Prince of Thieves เป็นภาพยนตร์ผจญภัย นำแสดงโดย Kevin Costner ในบท โรบินฮูด Morgan Freeman, Christian Slater, Mary Elizabeth Mastrantonio และื Alan Rickman ถือเป็นหนัง box office ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถกวาดรายได้ไปมากถึง 390 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นหนังที่ทำเงินมากที่สุดเป็นอันดับสองประจำปี 1991

________________________________________________________________________________

 “Colors of the Wind” – Vanessa Williams / Pocahontas (1995)

null

ยุค ’90 ถือเป็นยุคที่การ์ตูนแอนิเมชั่นของ Walt Disney ได้รับความนิยมอย่างสูง มีการ์ตูนหลายต่อหลายเรื่องที่มีเพลงประกอบภาพยนตร์ที่น่าจดจำและไพเราะจับใจ หนึ่งในนั้นคือเรื่อง Pocahontas กับเพลงป๊อปบัลลาด “Colors of the Wind” ร้องโดยศิลปิน และนักแสดงสาว Vanessa Williams พิสูจน์ความสำเร็จด้วยการคว้ารางวัลออสการ์สาขา “Best Original Song” รางวัลลูกโลกทองคำในสาขาเดียวกัน และรางวัลแกรมมี่ในสาขา “Best Song Written for a Movie” หรือ เพลงที่ถูกเขียนขึ้นสำหรับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

Pocahontas ภาพยนตร์แอนิเมนิชั่นชิ้นโบว์แดงสุดคลาสสิคอีกเรื่องของ Walt Disney ทำรายได้ไปทั่วโลกกว่า 346 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถคว้ารางวัลออสการ์ไปถึง 2 รางวัลด้วยกัน ทั้ง Best Original Song และ Best Original Music Score

________________________________________________________________________________

 

“Can You Feel the Love Tonight” – Elton John / The Lion King (1994)

null

ถ้าไม่พูดถึงเพลงนี้ สงสัยโดนแฟนๆของ Walt Disney งอนเอาแน่ๆ “Can You Feel the Love Tonight” เพลงนี้ถูกแต่งและร้องโดย Elton John สำหรับภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่น The Lion King โดยเฉพาะ ฮิตติดหูมากในสมัยนั้น เปิดวิทยุเป็นต้องได้ฟังทุกครั้ง แถมยังคว้ารางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกต่างหาก มาถึงยุคปัจจุบัน คงไม่ต้องสงสัยว่าเพลงนี้ได้กลายเป็นเพลงสุดคลาสสิคที่ทุกคนยังจดจำกันได้ดี

The Lion King ถือเป็นภาพยนตร์แอนิเมนิชั่นระดับตำนานของ Walt Disney เพราะสามารถกวาดรายได้ทั่วโลกไปมากถึง  987 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังคว้ารางวัลออสการ์ 2 สาขา ทั้งดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score) และเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม  (Best Original Song) และรางวัลลูกโลกทองคำ 2 รางวัล ในสาขาภาพยนตร์เพลง/ตลกยอดเยี่ยม (Best Motion Picture – Musical or Comedy) และดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

________________________________________________________________________________

 

“Don’t Cry For Me Argentina” – Madonna / Evita (1996)

null

อาจพูดได้ว่า เพลงนี้ถือเป็นการร้องเพลงที่ดีที่สุดเพลงหนึ่งของ Madonna “Don’t Cry For Me Argentina” ถูกเขียนขึ้นตั้งแต่ปี 1978 สำหรับละครเวทีเรื่อง Evita ในฉากสำคัญตอนที่ Evita เธอยืนกล่าวคำปราศรัยต่อกลุ่มชุมนุมบนระเบียงของตึก La Casa Rosada เวอร์ชั่นที่ร้องโดย Madonna นั้นโด่งดังไปทั่วโลก จนขึ้นไปอยู่ที่อันดับ 1 บนชาร์ตเพลงหลายต่อหลายชาร์ตทั่วยุโรปและอเมริกา แถมยังคว้ารางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาได้สำเร็จอีกด้วย

Evita เป็นภาพยนตร์แนวเพลง-ดราม่า เรื่องราวเกี่ยวกับ Eva Perón สตรีหมายเลข 1 ของประเทศอาร์เจนติน่าช่วงปลายยุค 1940’s ที่ไต่เต้าตัวเองจากเด็กผู้หญิงชนชั้นแรงงานธรรมดา จนกลายเป็นสตรีหมายเลข 1 หนังเรื่องนี้ทำรายได้ไปทั่วโลกกว่า 141 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังคว้ารางวัลออสการ์ 1 รางวัล ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และลูกโลกทองคำ 3 รางวัล ทั้งภาพยนตร์แนวเพลง/ตลกยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงแนวเพลง/ตลกยอดเยี่ยม และเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

________________________________________________________________________________

 

“I Don’t Want To Miss A Thing” – Aerosmith / Armageddon (1998)

null

จำได้ว่าเพลงนี้ฮิตสุดๆจนไม่รู้จะฮิตยังไงในสมัยนั้น ไปทางไหนเป็นต้องได้ยินเสียงโหยหวนของป๋า Steven Tyler แถมเวลาไปร่วมปาร์ตี้คาราโอเกะแต่ละครั้ง เป็นต้องมีคนร้องเพลงนี้ หลีกหนีไม่พ้นจริงๆกับเพลง “I Don’t Want To Miss A Thing” พาวเวอร์บัลลาดจากวงร็อค Aerosmith ที่ถือเป็นหนึ่งเพลงที่ประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดประจำปี 1998 โดยครองอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ได้นานถึง 4 สัปดาห์ รวมทั้งประเทศอื่นๆในแถบยุโรปด้วยเช่นกัน เพลงนี้ได้ถูกนำเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ไปแพ้ให้กับเพลง “When You Believe” ที่ Whitney Houston และ Mariah Carey ร้องให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นของ Walt Disney เรื่อง The Prince of Egypt

Armageddon เป็นภาพยนตร์แนว science fiction-แอ็คชั่น-ระทึกขวัญฟอร์มยักษ์ กำกับโดย Michael Bay นำแสดงโดย Bruce Willis, Ben Affleck, Billy Bob Thornton, Liv Tyler และ Owen Wilson เกี่ยวกับกลุ่มนักขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ที่มีภารกิจต้องหยุดยั้งดาวหางขนาดใหญ่ก่อนจะพุ่งชนโลก ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะได้รับคำวิจารที่ไม่ค่อยจะดีนักจากกลุ่มนักวิจารหนัง แต่ก็ยังสามารถเปิดตัวที่อันดับ 1 บน box office ด้วยรายได้ทั่วโลกที่กวาดไปมากถึง 553 ล้านเหรียญสหรัฐ

________________________________________________________________________________

 

“My Heart Will Go On” – Céline Dion / Titanic (1997)

null

ปิดท้ายด้วยเพลงรักระดับตำนานของ Céline Dion ที่ทุกคนต่างคุ้นหูกันดี กับเมโลดี้อันโหยหวนตอนเริ่มเพลง  เพลงนี้ต้องบอกว่าเป็นทั้งเพลงที่คนรักและคนเกลียด เพราะตอนที่ภาพยนตร์ Titanic ออกฉายใหม่ๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เป็นต้องได้ยินเพลงนี้เปิดแทบจะทุกที่ เรียกได้ว่าไม่มีทางหนีพ้นจนหลายคนรู้สึกเอียนกับเพลงนี้ไปตามๆกัน เพลงนี้สามารถคว้ารางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 1997 ไปครองอย่างไร้คู่แข่ง แถมยังกวาดรางวัลแกรมมี่ไปอีกเพียบ ไม่ว่าจะในสาขา Record of the Year, Song of the Year, Best Female Pop Vocal Performance และ Best Song Written Specifically for a Motion Picture or Television ยัง…ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพลงนี้ยังคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี แถมยังครองอันดับ 1 บนชาร์ตทั่วโลก และยังได้ขนานนามว่า เป็นหนึ่งในเพลงแห่งศตวรรษ (Songs of the Century) อีกต่างหาก เอาเป็นว่าปีนั้นเป็นปีแห่งเพลง “My Heart Will Go On” อย่างแท้จริงจ้า…ยอม!

Titanic เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เจ้าของรางวัลออสการ์ถึง 11 สาขา กำกับโดย James Cameron นำแสดงโดย Leonardo DiCaprio และ Kate Winslet ที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์อันดับที่ 1 มานานถึง 12 ปี ด้วยมูลค่ามากถึง 1,848,813,795 ดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก จนกระทั่งในปี 2010 ภาพยนตร์ Avatar โดยฝีมือผู้กำกับคนเดียวกัน ทำรายได้สูงสุดแซงหน้า Titanic ไปในที่สุด

Writer: Thip S. Selley

RECOMMENDED CONTENT

คู่นายแบบ นางแบบ ที่เอกลักษณ์รอยสัก และสไตล์โดดเด่น เท่กว่าใครๆกับตนตัว และสไตส์สักที่แนวยิ่งกว่า