fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

10 อัลบั้มเพลง Jazz สำหรับผู้เริ่มฟังที่จะทำให้คุณหลงรักดนตรีแนวนี้ขึ้นอีกหลายเท่าตัว!
date : 4.กุมภาพันธ์.2015 tag :

jazz music list for beginners start genre miles davis dooddot 1

ดนตรี Jazz อาจจะดูเป็นคำที่หลายคนมองว่าเข้าถึงยาก สูงส่ง และเฉพาะกลุ่ม คำว่า “ฟังยาก” มักจะเป็นเกราะกำบังแรกสำหรับคนเริ่มฟังเพลงแจ๊ซเสมอๆ กลายเป็นว่าคนจะฟัง Jazz ต้องดูฟังเป็นฟังเข้าใจถึงจะฟังรู้เรื่อง แต่จริงๆแล้วไม่เลย… ดนตรี Jazz ก็คือ “ดนตรี” ดีๆนี่ล่ะ กับเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของนักร้องแจ๊ซ หรือเสียงเครื่องเป่าหรือเปียโนที่เหลือไว้แต่ท่วงทำนอง ให้สิทธิ์ของอารมณ์และความรู้สึกส่วนบุคคลเป็นผู้ตีใจความ วันนี้ เรามีคอลัมน์ดนตรีพิเศษ ที่จะมารวบรวม 10 อัลบั้ม Jazz คลาสสิค ของศิลปินชื่อดังระดับ Masterpiece รับประกันว่าต่อให้คุณเพิ่งเริ่มทำความรู้จักกับ Jazz หรือแม้แต่ไม่เคยรู้จักเลย แค่ลองเปิดใจฟังอัลบั้มในลิสต์ด้านล่างนี้ คุณจะหลงรักเพลง Jazz ขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัวแน่นอน!

Ella and Louis – Ella Fitzgerald and Louis Armstrong

ถ้าสำนวนภาษาไทยคือไปมาลาไหว้ เริ่มต้นเราก็ต้องทำความรู้จักกับอัลบั้มของรุ่นใหญ่ก่อน เอลล่า และ หลุยส์ ถือได้ว่าเป็นเหมือนพ่อและแม่ของวงการแจ๊ซ ถ้าเปรียบว่า The Beatles เป็นตัวพ่อของ Rock and Roll ในแจ๊ซก็คงต้องเป็น หลุยส์ อาร์มสตรอง นี่ล่ะ คำว่าตัวพ่อไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนแรกแต่อย่างใด แต่ดนตรีของเขาทำให้โลกรู้จักกับ Jazz อย่างกว้างขวางมากขึ้นอย่างเพลง What a Wonderful World และแน่นอนว่านักดนตรี Jazz รุ่นหลังๆก็ต้องได้รับอิทธิพลจากเขาแบบเต็มๆ ทั้งการเป่า Trumpet ที่โทนเสียงและจังหวะที่ยังคงไม่มีใครทำได้เหมือนจนถึงทุกวันนี้ (ลองฟังเพลงที่ชื่อ Stardust แล้วจะรู้เลย)   หรือการร้องตัวโน๊ตตามทำนองที่เรียกว่าการ Scat ที่เขาเองทำได้แบบสุดยอด (เหมือนจะเป็นคนแรกๆนะ)

ในอัลบั้มนี้แท็กทีมกันกับเอลล่า ผู้เป็นเหมือนราชินีของ Jazz Vocal มันคือคำว่า “คลาสสิค” ชัดๆ แทร็คที่อยากแนะนำคือ Moonlight in Vermont และ The y Can’t Take That Away From Me

Miles Davis – Kind of Blue

เรารับประกันว่าร้อยทั้งร้อยลิสต์แนะนำเพลง Jazz ต้องมี Kind of Blue ของไมลส์ เดวิส แน่ๆ เพราะนี่คืองานชื้นสำคัญของวงการเพลงแจ๊ซ กับตำแหน่ง LP ที่ขายดีที่สุดตลอดกาล แม้ว่างานช่วงหลังของไมลส์ในยุค 70’s จะหนักไปทางแจ๊ซฟิวชั่นหรือฟังก์ที่ฟังยาก แต่สำหรับ Kind of Blue นี่คือของหวานของหูชั้นดีเลยล่ะ เราขอแนะนำ Track ที่ชื่อว่า Blue in Green โอ้โห แค่เสียงโน๊ตตัวแรกที่เป่าออกมาก็ชวนให้นึกถึงความวุ่นวายชีวิตในเมืองหลวงได้อย่างดี

Dave Brubeck Quartet – Time Out

เอ้า มา Upbeat กันหน่อย! โอเค นี่คืออัลบั้ม Jazz สามัญประจำบ้านของทุกคน ถ้าคุณเริ่มรู้จักกับดนตรี Jazz บ้างแล้ว คุณต้องเคยได้ยินเพลง Take Five ของเดฟ บรูเบค แน่ๆ (ใช้ประกอบภาพยนตร์ Woody Allen ยุค 60’s – 70’s หลายครั้งอยู่) เป็นผลงานในอัลบั้มที่ชื่อว่า Time Out เป็นอัลบั้มรวมตัวโหดอีกหนึ่งชุด เอาแค่ Take Five ก็ได้ Paul Desmond  มาเป่า Tenor Sax ให้แล้ว อัลบั้มนี้ยังหาซื้อได้ตามร้านแผ่นเสียงหรือร้านซีดี เราแนะนำว่าให้คุณลองเปิดทิ้งเอาไว้ คุณจะได้พบกับเพลงแจ๊ซทำนองสนุกฟังง่ายและดูมีระดับสุดๆได้ทั้งอัลบั้ม อยากเปลี่ยนห้องนอนของตัวเองให้มีอารมณ์แบบในยุค Mad Men ก็คงต้องอัลบั้มนี้ล่ะ

หมายเหตุ: Take Five ในวิดีโอที่เรานำมาให้ฟังไม่ใช่เวอร์ชั่นของอัลบั้ม (เพราะอันนั้นโดนลบหมด) แต่ก็เป็นเวอร์ชั่นเล่นสดที่อาจจะไม่มี Paul Desmond แต่ก็น่าฟังเช่นกัน

Charlie Parker – Charlie Parker with Strings: The Master Takes

ผู้คิดค้นดนตรี Bebop อันโด่งดัง ที่ทำให้ Jazz กลายเป็นดนตรีที่เต็มไปด้วยลีลาการ Improvise มากมายก็ต้องเขานี่ล่ะ การเล่นของชาร์ลี ปาร์คเกอร์ คือดนตรีที่เป็นศิลปะอย่างแท้จริง จริงอยู่ที่มันอาจจะฟังยากเมื่อลองฟังแรกๆ เราถึงได้ยกอัลบั้มนี้มาแนะนำกัน เมื่อดนตรีของชาร์ลีมาเล่นคู่กันกับเครื่องสาย ในสายแฟนๆของเขากล่าวว่า นี่เป็นการเริ่มเข้าสู่คนฟังที่กว้างและป็อปมากขึ้น แต่แล้วทำไมล่ะ ก็ในเมื่อมีปาร์คเกอร์เป็นคนเป่า ยังไงเราก็อยากฟัง  ลองกันด้วยเพลง I’ll Remember April  ไปกันก่อนเลย ฟังเสร็จแล้วอยากเดินออกบ้านไปรับลมอ่อนๆบนท้องถนนทันที ไม่เชื่อลองฟังดู

(ใครที่ดูหนังเรื่อง Whiplash แล้ว อยากรู้ว่า Charlie Parker ที่ครูเฟลทเชอร์พูดถึงนักหนาเป็นใคร ก็คนนี้นี่ล่ะ)

Oscar Peterson – Night Train

นี่คือนักเปียโนแจ๊ซที่เป็นที่พูดถึงมากท่ีสุดคนหนึ่งของวงการ กับเทคนิคการเล่นแบบ Improvise อันสลับซับซ้อนแต่ฟังแล้วลื่นหูของ Oscar Peterson จะทำให้คุณหลงรักเพลงแจ๊ซเข้าอย่างจัง แถมคณะ Trio ที่เล่นด้วยกันครั้งนี้ก็มีแต่ชื่อที่น่าสนใจทั้งนั้น ฝั่ง Rhythm Section ประกอบไปด้วย Ray Brown (ในตำแหน่งเบส) และ Ed Thigpen (มาคุมกลอง) ต้องบอกว่าใน Night Train พวกเขาได้เซตมาตรฐานใหม่ให้กับวงการแจ๊ซด้วยอัลบั้มนี้เลยทีเดียว เราขอแนะนำเพลง Hymn To Freedom ที่อาจจะไม่ค่อยมีคนพูดถึงเท่าไรนัก แต่เหตุผลคือ เราได้ฟังการเดี่ยวเปียโนของออสการ์ กันแบบจัดเต็ม แล้วค่อยเข้าไปสู่การเล่นของ Trio ที่เพราะมากๆ

Stan Getz, Joao Gilberto – Getz/Gilberto

หนึ่งในสองอัลบั้มแจ๊ซ ที่เคยได้รางวัล Best Album จากเวทีแกรมมี่ และเป็นอัลบั้มแจ๊ซที่ขายดีมากที่สุดอัลบั้มหนึ่งของวงการอย่างไม่ต้องสงสัย หากจะกล่าวถึงอัลบั้มนี้ให้เห็นภาพก็คือ นี่คือการเจอกันตรงกลางระหว่าง Jazz และ Bossa Nova ในจุดที่สมบูรณ์แบบและลงตัวที่สุด เมื่อดนตรีจากบราซิลที่มีนักร้องสาวเสียงหวาน Astrud Gilberto นักแต่งเพลงบอซซ่า Antonio Antonio Carlos Jobim ได้มาร่วมงานกันกับมือ Saxophone ฝั่งอเมริกันอย่าง Stan Getz เกิดเป็นส่วนผสมที่ใครได้ฟังก็ต้องชอบ Track แนะนำเบื้องต้นก็คงต้องหนีไม่พ้นเพลงดังอย่าง The Girl From Ipanema ที่ลงตัวไปหมดทุกอย่างจริงๆ

Chet Baker – Sings

นักดนตรีแจ๊ซที่คอแจ๊ซทุกคนหลงรัก หนุ่มเป่า Trumpet หน้าตาดีที่เป็นไอคอนของความเท่คูลใน Jazz Scene คนนี้ มาพร้อมกับเสียงนุ่มชวนฟัง และลีลาการเป่าที่ไม่มีใครเหมือน ในมุมคนที่ชอบฟัง Bebop แบบทำนองหนักๆมีพยางค์การเป่าซับซ้อนอาจจะไม่ค่อยชอบเพลงของ Chet เท่าไรนัก เพราะเขาเป็นตัวแทนของการเป่าแบบ Less is More อย่างแท้จริง กล่าวคือโน๊ตที่มีไม่เยอะ ไม่ได้มีลีลาฉวัดเฉวียงมากมาย แต่แฝงไปด้วยสำเนียงอารมณ์ที่เศร้าโศกทุกท่วงทำนอง ด้วยชีวิตที่ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไร ทั้งโดนซ้อมจนฟันหลุดแทบหมดอนาคตในการเป่า Trumpet ไปจนถึงการติดยาอย่างหนัก และจบชีวิตด้วยการพลัดตกตึกจากห้องโรงแรมใน Amsterdam นี่คือคำบัญญัติความของเชท เบเกอร์ ชายผู้มีเสียงดนตรีที่สามารถเรียกน้ำตาจากคนฟังได้ง่ายๆ

Bill Evans – Waltz for Debby

ดนตรีแจ๊ซในมุมเศร้าและเน้นอารมณ์ร่วมในการฟังเยอะๆ หากฝั่ง Trumpet มี เชท เบเกอร์ แล้ว ฝั่งนักเปียโน ก็คงต้องเป็น บิล อีวานส์ นี่ล่ะ ที่มีเรื่องชีวิตไม่ค่อยสมบูรณ์คล้ายๆกัน หากจะพูดถึง Trio ที่มีเคมีลงตัวที่สุด ก็คงต้องยกให้คณะของบิล ในช่วงอัลบั้มที่พูดถึงนี้ ประกอบไปด้วย Paul Motian (กลอง) และ Scott  LaFaro (เบส) สาเหตุที่ทำไมถึงต้องเป็นอัลบั้มนี้ เพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งของการบันทึกในคลับ Village Vanguard, New York นี้ (จากอัลบั้มก่อนหน้า Sunday at the Village Vanguard อันเรียกได้ว่าเป็นอัลบั้ม Live Recording ของ Jazz ที่สวยงามที่สุดอัลบั้มหนึ่ง) มาจนถึง Waltz for Debby ถือเป็นอัลบั้มสุดท้ายของ Trio นี้ เพราะให้หลังจากการเล่นที่ Vanguard ได้ 10 วัน Scott LaFaro ก็จากไปทันที ที่เราหยิบมาแนะนำคือเพลง My Foolish Heart

John Coltrane – Crescent

หากจะถามถึงอัลบั้มที่เป็น Masterpiece ที่สุดของ จอห์น โคลเทรน คงต้องเป็น Love Supreme อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ที่เราเลือก LP ชุด Crescent มาแนะนำก็เพราะว่าคนอื่นแนะนำ Love Supreme ไปก่อนหมดแล้ว… (ไม่ใช่!) สาเหตุก็เพราะว่านี่คืออัลบั้มก่อนหน้า ที่เราจะได้เห็นโครงสร้างของโคลเทรนชัดเจนยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือฟังง่ายกว่าพอสมควร ความพิเศษของโคลแทรนคือ โทนการเล่นที่ยากจะหาคนเลียนแบบได้ มีเรื่องเล่าว่าตลอดเวลาการเล่นทั้งชีวิต เขาใช้เวลาฝึกฝนวันละไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง นี่ล่ะผลของการฝึกฝันอย่างหนัก ถ้าอยากลองฟัง เราแนะนำแทร็คชื่อเดียวกันกับอัลบั้ม Crescent หรืออีกเพลงก็ Wise One ที่เป็นเพลงต่อกันพอดีเลย

Wes Montgomery – The Incredible Jazz Guitar of Wes Montgomery

อัลบั้มสุดท้ายของลิสต์นี้ เราคงต้องลากันด้วยผลงานเดี่ยวชุดที่สี่ของมือกีตาร์แจ๊ซนามว่า เวส มอนต์โกเมอรี่  นี่คืออัลบั้มที่แสดงเอกลักษณ์การเล่นของเขาได้เด่นชัดที่สุด มือขวาที่เล่นแบบแปลกประหลาดใช้นิ้วโป้งนิ้วเดียวในการดีด ทำให้ได้เสียงที่นุ่มและอุ่นกว่าเสียงจากกีตาร์ของศิลปินคนอื่นๆ ซึ่งการจะเลียนแบบหรือฝึกเล่นให้เหมือนนี่ จัดว่าอยู่ในสเกลที่แทบเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว (ไม่รู้ว่าแกดีดเร็วขนาดนั้นได้ยังไง) รวมไปถึงการเล่นโน๊ตคู่เสียง 8 (Octave) ที่ทำได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แทร็คดังของอัลบั้มนี้ที่หลายคนพูดถึงคือเพลง Four on Six ที่เป็นผลงานการแต่งเพลงที่เวส โชว์การเล่นแบบสวิงได้สนุกสนาน แต่ที่ส่วนตัวคนเขียนอยากแนะนำเพลงๆหนึ่ง คือบทเพลง Jazz Standard อย่าง Polka Dots and Moonbeams เป็นความโรแมนติกในแบบของเวส ท่ีเราค้นพบว่ามันมีความหม่น มีอารมณ์ Melancholic แต่แฝงด้วยโน๊ตที่ดูมีความหวังเล็กๆน้อยๆพอสวยงาม เป็นเสน่ห์ของกีตาร์เวส ตามชื่ออัลบั้ม ที่ฟังเท่าไรก็ไม่มีเบื่อจริงๆ

Writer: Pakkawat Tanghom

RECOMMENDED CONTENT

30.พฤศจิกายน.2020

Netflix ผู้นำบริการสตรีมมิงความบันเทิงระดับโลก ประกาศฉายภาพยนตร์ไต้หวันเรื่อง Your Name Engraved Herein (ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ) โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนว LGBTQ ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของไต้หวัน