fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

นอกจาก Kinfolk / Cereal แล้วยังมีนิตยสารต่างประเทศอะไรอีกบ้างที่เราควรรู้จัก? คอลัมน์รวบรวม Independent Magazine ที่นักอ่านควรอ่าน (Part 2)
date : 3.มีนาคม.2015 tag :

ช่วงกลางเดือนกุมภาที่ผ่านมา เรามีคอลัมน์พูดถึงนิตยสารต่างประเทศ ประเภท Independent Magazine ที่น่าจับตามองกันไปทีนึงแล้ว ว่าในช่วงที่การทำนิตยสารเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยอะไรให้ยุ่งยากแบบสมัยก่อน ขอแค่คุณมีไอเดียและคอมพิวเตอร์สักตัวก็ทำเลย์เอาท์ออกมาได้พร้อมสั่งพิมพ์แล้ว แถมการสั่งซื้อก็ทำได้ง่ายมากในโลกยุคอินเตอร์เน็ต เข้าเวปไซต์หลักกรอกที่อยู่ก็จบเลย ทีนี้นอกจาก Kinfolk / Cereal ที่ทุกคนชอบอ่านกันอยู่เป็นประจำ ยังมีเล่มไหนที่น่าจับตามองอีกบ้าง? หลังจากมีผลตอบรับดีจากรอบแรก (เอ้ะ คิดไปเองรึเปล่า?) เอาล่ะๆ จะชอบไม่ชอบไม่รู้ เราขอโอกาสแนะนำต่อเป็น Part 2 เลยละกัน มาดูกันว่าคราวนี้มีเล่มไหนอยู่ในลิสต์ของเราบ้าง! ใครยังไม่เคยอ่าน (Part 1) ลองกลับไปอ่านได้ที่ https://www.dooddot.com/independent-magazine-that-you-should-take-a-look/

null

null

Cherry Bombe

เริ่มต้นกันด้วยเล่มนี้เลย นี่เป็นนิตยสารเท่ๆสำหรับผู้หญิงคูลๆทั้งหลาย Cherry Bombe เริ่มต้นจากโปรเจคต์ Kickstarter ในปี 2013 โดยสองเพื่อนซี้ Kerry Diamond และ Claudia Wu ทั้งสองมีความตั้งใจอยากทำนิตยสารสำหรับผู้หญิงที่พูดถึงไลฟ์สไตล์ของสาวเก่งและเรื่องอาหารการกิน Cherry Bombe ถือเป็นนิตยสาร Bi-Annual ออกปีละ 2 เล่ม (ตอนนี้ก็เล่มที่ 4 แล้ว) สาวๆคนไหนที่กำลังมองหานิตยสารถูกใจมา Spice Up ไลฟ์สไตล์ของตัวเองสักหน่อยลองเข้าไปสั่งซื้อได้ที่เวปไซต์ของพวกเขาเลย

null

null

Kindling Quarterly

อันนี้เป็นหัวใหม่หน่อย ส่งตรงมาจากย่าน Brooklyn, New York เพิ่งเริ่มทำกันได้ไม่นาน แต่ตอนนี้เดินทางมาถึงเล่มที่หกแล้ว มีเนื้อหาน่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์กว่าใครเพื่อน นี่คือนิตยสารที่พ่อทำสู่พ่อด้วยการ ทั้งเล่มอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวของคุณพ่อยุคใหม่ กับชีวิตและมุมมองแง่คิดในการดูแลลูกชายลูกสาวแบบต่างๆ ผลตอบรับในอเมริกาเป็นไปด้วยดีจนตอนนี้ขยายฐานการขายไปจาก New York  ไป California  และหัวเมืองที่สำคัญๆแล้ว น่าลุ้นว่าร้านหนังสือบ้านเราจะมีหิ้วเข้ามาขายกันบ้างไหมนะ หรือถ้ารอไม่ไหวสั่งซื้อจากในเวปพวกเขาได้เลย คุณพ่อมือใหม่ที่มองหาหนังสือภาพสวยไว้เป็นกำลังใจในการเลี้ยงเจ้าตัวเล็ก เชิญเลยครับ

null

null

The Gentlewoman

เทียบกับบรรดา Independent Magazine ด้วยกันในลิสต์นี้ The Gentlewoman  ดูจะเข้าข่ายนิตยสารที่มีคนรู้จักที่กว้างขวางและมี Subject เป็นคนดังไม่แพ้กับนิตยสารหัวดังๆแล้ว เป็นนิตยสารที่พูดถึงเรื่องของผู้หญิงในสไตล์ที่สวยเท่และไม่เหมือนใคร ตีพิมพ์แบบ Bi-Annual ออกปีละ 2 เล่ม ตอนนี้เดินทางมาถึงเล่มที่ 11 แล้ว (ปก Björk) กับการออกแบบรูปเล่มที่เป็นเอกลักษณ์แต่สุดแสนโคตรจะ SImple หนึ่งใช้รูปถ่าย Portrait ที่สวยงามของแบบแล้วตีกรอบสี่เหลี่มโต้งๆเบสิต แปะด้วยคำว่า the gentlewoman อักษรพิมพ์เล็กทั้งหมด บวกกับชื่อของหน้าปกเล่ม ด้วย Typeface ที่ดูแล้วโคตรจะ Elegant แบบผู้หญิงๆ โอย ไม่รู้จะอธิบายยังไง ลองดูเอาเองว่าหนังสือผู้หญิงจะสามารถเท่ขนาดไหน (เทียบกับ Cherry Bombe ข้อแรกที่เป็นน้องใหม่ เราว่าเธอทั้งคู่นี้กินกันไม่ลงจริงๆ)

null

null

Hole & Corner

มาถึงคิวของนักคราฟท์กันบ้าง นี่คือเล่มของคุณเลยล่ะ Hole & Corner จะพาคุณไปพบปะพูดคุยกับผู้ที่ช่ำชองในงานคราฟท์ของตนเองแต่ละสายงาน แต่ละแขนงแบบจัดเต็มทั้งเล่ม มีทั้งภาพถ่ายที่สวยงามและบทสัมภาษณ์ที่อ่านเพลิน เราเคยลองอ่านเล่มแรกไปครั้งหนึ่ง ได้เจอตั้งแต่ช่างทำรองเท้า ช่างไม้ ศิลปิน ไปจนถึงคนทำสีจากธรรมชาติ ได้เห็นทั้งขั้นตอนการทำงานและแนวคิด แถมมีภาพสตูดิโอที่โคตรโคตรสวยด้วย ทำเอาจำชื่อ Hole & Corner แม่นไปเลย ออกปีละ 2 เล่ม ใครที่ชอบประดิษฐ์ประดอยทำอะไรด้วยมือตัวเอง ถ้าหมดแรงบันดาลใจอยู่ ลองสั่งซื้อมาอ่านกันได้ เราแนะนำเลย

null

null

Oh Comely Magazine

มาในแนวนิตยสารแบบสาวๆจากฝั่งเกาะอังกฤษกันบ้าง Oh Comely คือหนังสือภาพสวยสบายตาจากเมืองน้ำชา โดยมีคอนเซปต์คือเป็นนิตยสารที่จะทำให้คนอ่านยิ้มไปกับเรื่องราวน่าอ่านและช่วงเวลา “ความเงียบ” ที่น่าสนใจ ขอแค่คุณอ่านกับน้ำชาถ้วยโปรดจะเป็นความสุขโคตรเลย เนื้อหาภายในเล่มส่วนใหญ่จะเป็นการพูดคุยกับผู้คน Creative เรื่องราวการผจญภัยของคนที่รักอิสระ สิ่งของงานคราฟท์ของนักคราฟท์แขนงต่างๆที่อ่านแล้วคันไม้คันมือทันที และที่แน่ๆคืออ่านสนุก ภาพประกอบน่ารัก ภาพถ่ายสวยงาม ฟินพะยะค่ะ! อ้อ ลืมบอกไปว่าออก 6 เล่มต่อปีนะ ทำมาได้สี่ปีแล้วตอนนี้ก็ถึงเล่มที่ 24 ไปเรียบร้อย สาวๆคนไหนใครมีเพื่อนอยู่อังกฤษลองฝากซื้อกันได้

null

null

null

So it Goes

ตีพิมพ์ 2 เล่มต่อปี So It Goes พูดถึงเรื่องวัฒนธรรมศิลปะแขนงต่างๆ โดยเฉพาะภาพยนตร์และดนตรี พวกเขามักจะมีบทสัมภาษณ์ผู้กำกับหนัง ที่มีเรื่องราวน่าอ่านและมีข้อมูลดีๆออกมามากมาย (เคยเห็นบทสัมภาษณ์ของผู้กำกับ Paul Thomas Anderson, Wes Anderson, Michael Haneke หรือศิลปิน Chet Faker ก็จากเล่มนี้นี่ล่ะ) จากที่ติดตามดูใน Instagram เห็นว่าเล่มหน้าก็กำลังจะมี Norman Reedus จาก The Walking Dead มาอยู่ในเล่มด้วยนี่ (น่าอ่านมากๆ) ใครที่อยากอัพเดตวงการศิลปะ วงการภาพยนตร์ต่างประเทศ แต่เบื่อข่าวกอซซิปทั่วไปที่ ET ชอบนำมาฝากกัน ถ้ามองหานิตยสารนอกกระแสที่มีบทสัมภาษณ์อ่านเพลิน คำถามเหมือนถามเรื่องอยากรู้เองจากผู้กำกับคนโปรด ลองให้โอกาสกับเล่มนี้ดูเราว่าน่าจะเวิร์ค

null

null

The Plant Journal

เล่มนี้แสดงให้เห็นชัดเลยว่า วงการ Independent Magazine ของโลกกำลังสนุกสนานถึงขั้นสุด ทุกคนที่มีใจรักการทำหนังสือ ต่างก็ขยับตัวเองทำหนังสือในสิ่งที่ตัวเองรักออกมา โอเค เราเห็นนิตยสารผู้หญิง นิตยสารงานคราฟท์ นิตยสารคุณพ่อกันไปแล้ว คราวนี้เรามาเจอนิตยสารที่พูดถึงเรื่อง “ต้นไม้” ล้วนๆหน่อยเป็นไง! ชื่อก็โต้งๆเลย The Plant พูดถึงเรื่องต้นไม้แบบจัดเต็ม มาทั้งมุมมองทั้งวิทยาศาสตร์ และมุมมองแบบต้นไม้กับชีวิตไลฟ์สไตล์ ไม่คุณจะเป็นคนรักต้นไม้แบบฮาร์ดคอร์หรือแบบรักเบาๆ ก็อ่านได้สนุกเช่นกัน ตอนนี้มาถึงเล่มที่ 7 แล้ว เราโคตรชอบการขึ้นปกของพวกเขาเลย เป็นรูปต้นไม้หล่อๆสวยๆแทนนายแบบนางแบบ แล้วก็แปะด้วยชื่อพันธุ์ไม้เอาไว้ อะไรมันจะ Simple ได้ขนาดนี้นะ

null

null

Majestic Disorder

เป็นทั้ง Online Publication และก็ทำ Print ออกมาด้วย Majestic Disorder ตีพิมพ์แบบ Quarterly  หรือนับเป็นฤดูกาล 4 เล่มต่อปี พูดถึงเรื่อง Arts+Culture ในภาษาที่มีจริตจะก้าน ครอบคลุมเนื้อหาไปหมดทั้งเรื่อง Topic เด่นๆในวัฒนธรรม แฟชั่น ภาพยนตร์ การเดินทาง และรวมไปถึงพูดคุยกับบรรดาศิลปินและคนทำงานอาร์ต Medium ต่างๆ ตอนนี้มาถึงเล่มที่ 4 สดๆร้อนๆ และฐานผู้อ่านก็กำลังขยายมากขึ้นเรื่อยๆ เราว่าถ้าใครที่อยากลองอะไรใหม่ๆไปพร้อมๆกันกับคนทั้งโลก ก็ลองเล่มนี้นี่ล่ะ เพราะทั้งโลกก็กำลังทำความรู้จักกับพวกเขาไปพร้อมๆกันเช่นกัน

Writer: Pakkawat Tanghom

RECOMMENDED CONTENT

24.พฤศจิกายน.2020

น่าจับตามองมากที่สุด สำหรับศิลปินคู่หูอินดี้ป๊อปอย่าง “Landokmai” (ลานดอกไม้) ประกอบด้วย “อูปิม - ลานดอกไม้ ศรีป่าซาง” (ร้องนำ) และ “แอนท์ - มนัสนันท์ กิ่งเกษม” (กีตาร์, คอรัส) สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) ด้วยความชัดเจนโดดเด่นทางด้านดนตรีที่ผสมผสานความเป็น Dream-pop และความวินเทจแบบ Lo-fi ไว้ด้วยกันได้อย่างมีเสน่ห์