fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#STYLE — 10 ตำแหน่งแนะนำ! ในการสักครั้งแรกสำหรับสาวๆ
date : 5.มกราคม.2018 tag :

สมัยนี้ทัศนคติของคนรุ่นใหม่ที่มีต่อการสักนั้นเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะสาวๆที่มองว่าการมีรอยสักบนร่างกายนั้นก็เหมือนกับเป็นเครื่องประดับหรือเป็นงานศิลปะที่เพิ่มเสน่ห์และความน่าสนใจ จริงอยู่ที่สมัยก่อนหากผู้หญิงคนไหนมีรอยสักจะถูกมองไม่ดีเสียเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้รอยสักสำหรับสาวๆได้กลายเป็นเทรนด์แฟชั่นมาแรงของสาวๆ ที่เราด้วยกันเห็นแล้วยังอยากไปสักตาม

สำหรับสาวๆที่กำลังคิดที่จะสักเป็นครั้งแรกแล้ว ยิ่งต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนจะสัก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกลายให้ดีและตำแหน่งบนร่างกายที่เหมาะสม ว่าหากสักไปแล้วจะดูสวยอย่างที่เราหวังไหมหรือเป็นตำแหน่งที่สามารถปกปิดได้ในเวลาที่จำเป็นหรือไหม ฉะนั้นวันนี้เราเลยจะมาแนะนำ 10 ตำแหน่งบนร่างกายที่เหมาะแก่การสักมากที่สุดให้สาวๆที่กำลังคิดจะสักได้พิจารณากัน รวมถึงตัวอย่างรอยสักเล็กๆเก๋ๆ ที่ดูน่ารักมาให้ชมกันด้วยเผื่อเป็นไอเดีย ดูไปด้วยก็คิดไตร่ตรองให้ดีๆไปด้วยนะสาวๆ

ตำแหน่งที่ 1: ข้อมือด้านใน

ข้อมือด้านในเป็นตำแหน่งยอดฮิตในการสักสำหรับสาวๆ ส่วนระดับความเจ็บของตำแหน่งนี้ก็ยังถือว่าไม่มากเท่าไหร่อีกด้วย เหมาะสำหรับสักพวกลายเล็กๆ หรือคำสั้นๆเก๋ๆ เป็นตำแหน่งที่ยังพอซ่อนไม่ให้เห็นได้เวลาไปทำงาน ด้วยการใส่นาฬิกาหรือกำไลหลายๆชั้น แต่แนะนำว่ารอให้แผลสักหายดีเสียก่อนที่จะเอาอะไรไปถูไถ

ตำแหน่งที่ 2: ข้อเท้า

ว่ากันว่าถ้าไม่อยากเจ็บมากจากการสัก สักตรงตำแหน่งข้อเท้านี่แหละที่เจ็บน้อยที่สุด แถมยังเป็นตำแหน่งที่สักแล้วดูเป็นผู้หญิงๆ feminine ดูอ่อนหวาน ซึ่งลายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่นิยมสักตรงตำแหน่งนี้ก็คือพวกลายที่ดูอ่อนช้อย ประดิดประดอยนิดหนึ่ง หรือไม่ก็พวกลายหัวใจ ลายดอกไม้ หรือพวกลายดาวเป็นต้น แถมนี่ยังเป็นตำแหน่งที่ปกปิดได้ง่ายสุดๆอีกด้วย

ตำแหน่งที่ 3: หู

มีหลายคนบอกว่าการสักตรงบริเวณหูจะไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ ส่วนมากจะรู้สึกชาๆมากกว่า และดูเหมือนว่าตำแหน่งนี้จะเป็นที่นิยมในการสักของสาวๆมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเวลาสักพวกลายเล็กๆ จะลายเดี่ยว หรือเป็นลายแพทเทิร์น ก็ดูชิคเอามากๆเลย ไม่ต้องใส่ต่างหู หูของคุณก็ดูเก๋ได้ ไม่เชื่อลองดูสาว Cara Delevingne หรือ Rihanna เป็นตัวอย่าง

ตำแหน่งที่ 4: แขนด้านใน

ตำแหน่งนี้อาจจะปกปิดยากนิดหนึ่ง ยกเว้นถ้าคุณใส่เสื้อแขนยาว แต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็เป็นหนึ่งในตำแหน่งยอดฮิตที่สาวๆเขาสักกัน เหมาะสำหรับสักพวกคำเดี่ยวๆ หรือไม่ก็พวก quote คำพูดที่ไม่ยาวมาก หรือถ้าอยากสักเป็นรูปไปเลยก็ได้แล้วคุณ!

ตำแหน่งที่ 5: ท้องแขน

สาวๆส่วนใหญ่ที่สักตรงตำแหน่งนี้ จะนิยมสักพวก quote คำพูดต่างๆคล้ายๆกับตำแหน่งที่แล้ว (แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าคุณอยากสักเป็นรูปไปเลยก็ได้แล้วแต่ใจชอบ) บริเวณนี้ตอนสักอาจจะไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ เพราะเนื้อเยอะ แต่บอกเลยว่าพอสักเสร็จแล้วแขนคุณจะรู้สึกล้าและช้ำๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นพวกลายใหญ่ๆ

ตำแหน่งที่ 6: นิ้วบริเวณส่วนบน

สาวๆคนไหนที่คิดอยากจะสักตรงตำแหน่งนี้ต้องทำใจกันหน่อย เนื่องจากบริเวณนิ้วเป็นส่วนของกระดูก เวลาสักเลยจะเจ็บ และปวดๆมากกว่าบริเวณอื่น แต่ถ้าคุณสักลายเล็กๆ คุณก็ไม่ต้องทนเจ็บนานขนาดนั้นหรอก แป๊ปเดียวเดี๋ยวก็หาย

ตำแหน่งที่ 7: ด้านข้างของนิ้ว

บริเวณนี้สามารถปกปิดได้ง่ายกว่าตำแหน่งที่แล้วด้วยการใส่แหวน หรือถ้าคุณเลือกสักตรงบริเวณด้านบนของข้างนิ้ว คุณจะทำให้มันดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยการใส่แหวนก็ได้อีกเช่นกัน เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่เหมาะสำหรับการสักครั้งแรก เพราะยังไงขนาดของลายที่คุณสักก็ต้องเป็นอะไรที่เล็กๆอยู่แล้ว

ตำแหน่งที่ 8: หลังบ่า

การสักบริเวณหลังบ่าอาจจะดีในแง่ปกปิดได้ง่ายเวลาแต่งตัวไปทำงาน แต่อาจจะไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่ในเรื่องของการดูแล ช่วงแรกๆแนะนำว่าให้เปลี่ยนท่านอน ถ้าคุณเป็นคนติดชอบนอนหงาย ก็เปลี่ยนเป็นนอนตะแคง เพื่อไม่ให้รอยแผลสักไปถูไถกับเสื้อผ้ามากจนเกินไป เพราะถ้าเกิดสะเก็ดแผลหลุดออกมาเร็วก่อนที่ควร สีหมึกก็จะติดออกมาด้วย ทำให้สีหมึกบนผิวคุณดูไม่เนียนสวยสม่ำเสมอ

ตำแหน่งที่ 9: บ่าด้านบน

สักตรงบริเวณนี้จะเจ็บนิดหนึ่งเพราะเป็นส่วนของกระดูกพอดี แต่ก็เป็นตำแหน่งที่เหมาะมากๆสำหรับการสักพวก quote คำพูดต่างๆ

ตำแหน่งที่ 10: หลังคอ

เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่สักแล้วดูสวยเก๋เอามากๆเลย เหมาะสำหรับสักพวกลายดอกไม้ หรือไม่ก็พวกสัญลักษณ์ที่มีความหมาย แถมยังปกปิดได้ง่าย นอกจากวันไหนคุณมัดผมขึ้น กะโชว์รอยสักให้คนอื่นเห็นนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ข้อเสียของการสักตรงตำแหน่งนี้ก็คือจะเจ็บมากหน่อย เพราะเป็นบริเวณกระดูกล้วนๆ

RECOMMENDED CONTENT

30.พฤษภาคม.2019

ย้อนรอยสู่จุดกำเนิดแห่งดนตรีเทคโนกับผลงาน Black to Techno โดยผู้กำกับฯ หญิงชาวอังกฤษ - ไนจีเรียน Jenn Nkiru ผู้จะพาเราไปสัมผัสวัฒนธรรมดนตรีเทคโนจากจุดกำเนิดที่เมืองดีทรอยท์ สหรัฐอเมริกา จากดนตรีกระแสรองสู่ความนิยมสุดขีดช่วงปลายยุค 1980s นำไปสู่ดนตรีที่สะท้อนต่อสู้เพื่อบทบาทในสังคมและเสรีภาพของกลุ่มคนผิวสีในดีทรอยท์