fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

10 ร้านเบเกอรี่รอบโลกที่จะทำให้คุณอ่านแล้วท้องร้องโดยไม่รู้ตัว
date : 17.กรกฎาคม.2014 tag :

ขนมปังเบเกอรี่ ไม่ว่าใครก็ต้องรัก ขนมปังเบเกอรี่ สิ่งมหัศจรรย์อีกหนึ่งอย่างที่มนุษย์คิดค้นขึ้นบนโลกใบนี้ อะไรจะมีความสุขไปกว่าแป้งขนมปังสีเหลืองถูกนำมาสร้างสรรค์ในรูปแบบที่แตกต่างกันตามชาติพันธุ์ต่างๆ กรรมวิธีการทำที่หอมกรุ่น และไส้สอดที่หอมหวาน  หอม หอม หอมมม แค่คิดยังท้องร้องขนาดนี้ เราจะมาทรมานคนอ่านทุกคนต่อด้วยการนำเอาร้านเบเกอรี่ร้านดังรอบโลกที่รวบรวมโดยเวปไซต์ Buzzfeed มาฝากกัน เตรียมกระดาษเช็ดปากไว้ให้ดีแล้วไปลุยกันเลย

1. ร้าน “Dominique Ansel Bakery” ใน New York (สหรัฐอเมริกา)

null

null

เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: อย่าถามถึงเหตุผลเลยดีกว่า นี่คือสวรรค์บนดินของชาวนิวยอร์กเกอร์ตอนนี้ ร้านทำขนมปังที่มีเมนูเด็ดคือ The Cronut ลูกผสมระหว่างโดนัท และ ครัวซองต์ ออกมาเป็นรูปทรงวงกลมมีรู (ทำไมเธอไม่มีหน้าล่ะ!?) แต่เนื้อขนมเป็นแบบครัวซองต์กรอบนอกนุ่มใน กัดลงไปนอกจากหน้าของโดนัทด้านบนแล้ว ไส้ที่อยู่ข้างในก็แตกทะลักไปพร้อมๆกัน ตอนนี้กำลังเป็นกระแสที่อย่าว่าแต่นิวยอร์กเกอร์เลย คนทั่วสหรัฐต่างก็พากันมาลองขนมชนิดนี้ ขายหมดในเวลาไม่ถึงสิบเอ็ดโมงเช้า (แต่ไม่ต้องห่วงมีขนมชนิดอื่นๆขายทั้งวัน) ใครที่มีแผนกำลังจะไปหรือมีเพื่อนอยู่นิวยอร์ก วานซื้อมาแล้วกินโชว์ผ่าน Facetime ก็ยังดี

 

2. ร้าน “Conditori La Glace” แห่ง Copenhagen (เดนมาร์ก)

null

null

เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: เดนมาร์ก นอกจากจะมีเมืองเลโก้ Legoland และ ปีเตอร์ ไชเมเคิล แล้ว (อดีตมือโกล์สุดเหนียวของแมนยู (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย) ) ที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการอบขนมปัง Pastry ทั้งหลาย ซึ่งร้านเก่าแก่กลางเมืองหลวงแห่งนี้ จะเหมือนพาคุณย้อนเวลากลับไปเป็นคนละยุค พร้อมเค๊กรสชาติเยี่ยมสุดคลาสสิคเสิร์ฟพร้อมกาแฟร้อนในตอนบ่ายๆ… ครับ 🙂

 

3. ร้าน “Du Pain et des Idees”ใน Paris (ฝรั่งเศส)

null

null

เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: อะไรกัน! ปารีสเมืองโรแมนติกขนาดนี้ แต่ทำไมเลือกร้านเล็กๆแบบนี้ได้ล่ะ… ใจเย็นครับ เห็นร้านเล็กอย่างนี้แต่คุณรู้หรือไม่ว่า (คุณนั่นล่ะ) ที่นี่เป็นท่ีกล่าวขานว่าทำ croissant (ครัวซองต์) ออกมาได้อร่อย หอม กรอบ ที่สุดแล้วในปารีส ยิ่งไปกว่านั้นการหยิบเอาไส้ต่างๆมาดัดแปลงผสมลงไป ความอร่อยที่ได้อาจจะทำให้หนุ่มสาวเมืองน้ำหอมยอมเลิกบุหรี่แลกกับกินครัวซองต์เลย!

 

4. ร้าน “e5 Bakehouse” ใน London (อังกฤษ)

null

null

เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: คลาสสิค เรอเนซองค์กันมาสักพักแล้ว เรามา Contemporary ร่วมสมัยกันบ้างดีกว่า กับร้านเบเกอรี่ในลอนดอนที่หน้าร้านมี Street Art แสนจะน่ารักนี้ จุดเด่นคือนอกจากจะเป็นเบเกอรี่ที่ให้อารมณ์ทำกินเองโฮมเมดแล้ว ที่นี่ยังรับสอนเปิดคอร์สทำขนมปัง นอกจากกินอร่อยยังได้ความรู้กลับบ้านไปอีกด้วย

 

5. ร้าน “Tai Cheong Bakery” ใน Hong Kong (ฮ่องกง)

null

null

เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: ไม่ใช่ว่ามีแต่ยุโรป HK ฝั่งเอเชียแบบเราๆก็ติดโผเหมือนกันนะ เชื่อว่าร้านนี้คนที่ชอบไปเที่ยวฮ่องกงคงต้องเคยเดินผ่านกันมาแล้วบ้างแน่ๆ ให้ทายว่าเขาขึ้นชื่ออะไร… “ทาร์ตไข่!” ทาร์ตไข่ระดับตำนานที่ใครไปเยือนฮ่องกงก็ต้องเดินหา รสชาติความกรอบของขอบทาร์ตตัดสลับด้วยความนุ่มลิ้นของไข่อยู่ด้านใน ผลลัพธ์ก็คือคิวที่ยาวเหยียดทำเท่าไรก็หมดเรียบ

 

6. ร้าน “Pastéis de Belém” ใน Belém (โปรตุเกส)

null

null

เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: นี่คือบ้านเกิดของขนมที่เรียกว่า “pastel de nata” หลายคนเห็นรูปทรงแล้วคงคิดว่าจะเรียกชื่อให้ยากทำไม เพราะมันก็ดูไม่ต่างอะไรจากทาร์ตไข่ที่เราเคยกินกัน ใช่แล้วนี่คือทาร์ตไข่ แต่มันคือสูตรเฉพาะของชาวโปรตุกีส และร้านแห่งนี้ก็ตั้งใจทำสดออกจากเตาตามแบบฉบับดั้งเดิมมาให้เราทานกัน ไส้คัสตาร์ดที่อัดแน่นแทบทะลักหุ้มด้วยความกรอบของแป้งไว้เล็กน้อย ถ้าถึงเวลานั้นจริงขออย่างเดียวพอ… ช็อกโกแลตร้อน 1 แก้ว = “ฟินครับ”

 

7. ร้าน “Konditorei und Cafe Buchwald” ใน Berlin (เยอรมัน)

null

null

เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: ร้านขนมปังของครอบครัว Buchwald อันแสนเก่าแก่แห่งนี้ มีสิ่งที่พวกเขามั่นใจ เรียกว่าเป็นไม้ตายประจำตระกูลเลยก็ได้ มันก็คือเค้กที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น “Baumkechen” ชื่ออาจจะแปลกหูแต่หลายคนดูรูปแล้วคงรู้สึกคุ้นตากันไม่น้อย (แต่ยังไม่กล้าพูดเพราะกลัวปล่อยไก่) ครับ มันคือ “เค้กท่อนซุง” ที่เรารู้จักกัน จุดกำเนิดอยู่ที่ยุโรปแต่ทุกวันนี้มันได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาโด่งดังในญี่ปุ่น และเริ่มเข้ามาในบ้านเราบ้างเหมือนกัน เนื้อเค้กที่ซ้อนเป็นชั้นชั้นชั้นชั้น เหมือนลายขอนไม้ ระหว่างชั้นต่างๆสอดด้วยไส้รสอร่อย ถ้าอยากรู้ว่า Master ของเค้กท่อนซุงเป็นอย่างไรต้องลองไปชิมที่นี่เท่านั้น… “บ้านเมืองมีขนมอร่อยแบบนี้! ถึงว่าล่ะ… ไม่แปลกใจเลยทำไมบอลโลกปีนี้ถึงตกเป็นของเยอรมัน”

 

8. ร้าน “Hafiz Mustafa 1864” ใน Istanbul (ตุรกี)

null

null

เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: ร้านขนมเก่าแก่ใจกลางอิสตันบุล ที่ตอบโจทย์ต่อมความอยากขนมพื้นเมืองสไตล์ตุรกีได้อย่างจัดเต็ม อย่างขนมบาลคาวา (Baklava) ที่คนเคยชิมคงจะรู้ดีว่าอร่อยขนาด ว่ากันว่าถ้ามาเจอบาลคาวาสูตรเด็ดของที่ร้านนี้รสชาติสามารถละลายในปากได้เลย คำแนะนำถ้าไปเที่ยวตุรกี แล้วหงุดหงิดกับลีลากวนโอ๊ยของคนขายไอติมเหนียวหนืด “Dondurma” (ทุกรายการพาเที่ยวต้องเคยโดน) อย่าไปทนครับ ปล่อยพ่อค้าแกควงไอติมต่อไป แล้วเดินมากินขนมปังอร่อยๆที่ร้านนี้ดีกว่า

 

9. ร้าน “Tatte” ใน Boston (สหรัฐอเมริกา)

null

null

เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: ก่อนจะถามเหตุผล ลองดูชื่อร้านก่อน สั้นๆครับ “Tatte” แค่ลองดูรูปทาร์ตรสต่างๆที่นำมาฝากสิ ทั้งถั่วและผลไม้สีสันสวยงามขนาดนี้ คนถ่ายก็ถ่ายมาใกล้ซะจนแทบหยิบมาชิมได้ (แต่ไม่ได้ ฮือ) น่ากินแล้วยังสวยงาม ถ้าบ้านอยู่แถวนั้นคงไม่พลาดทุกวัน

 

10. ร้าน “Henri Charpentier” ใน Tokyo (ญี่ปุ่น)

null

null

เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: นี่คือร้านของเชฟขนมปัง “Henri Charpentier” ที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขนมที่ออกมาโดยฝีมือของเขานอกจากจะอร่อยปากแล้ว ยังสวยสายตาอีก (ดูรูปสิ แค่มองก็อิ่มแล้ว) ดูดีซะจนแทบไม่กล้าจะเริ่มกินตรงไหนเลย ยิ่งไปกว่านั้นร้านนี้ยังออกแบบมาให้แค่ไปนั่งก็สบายใจแล้ว (นี่สรุปจะกินไหมน่ะ) เป็นร้านดังตัวแทนของเมืองโตเกียวในลิสต์นี้

Credit : Buzzfeed

RECOMMENDED CONTENT

1.พฤศจิกายน.2019

ต่อไปนี้หากคุณและเราถูกผรุสวาทด้วยคำประเภทว่า ไอ้สัตว์, ไอ้สัด, ไอ้สัส หรือ ไอส๊าสสสสส ก็อย่าเพิ่งโกรธไป เพราะเราเองนี่แหละที่อาจกำลังกลายเป็นสัตว์ (ป่า) กันอยู่ในทุกๆ วัน! I Gone wild (everyday) คือเอ็กซิบิชั่นที่อยากให้เรากลับไปทบทวนความ ‘ดิบ’ ในตัวเอง ว่าสัตว์ในตัวเราคืออะไร และเรายังเหลือความเป็นมนุษย์กันอยู่มากน้อยแค่ไหน!?